“จะทำอะไรน่ะ คุณสามี?”
เมื่อเห็นแววตาของชายหนุ่มดำมืดอย่างโจ่งแจ้งขนาดนี้ อีกเดี๋ยวจะกลืนกินคนลงไปแล้ว เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนค่อนข้างหวาดกลัว “พ่อของฉันใกล้จะมาถึงแล้ว ยังมีลูกชายที่กำลังจะมาแล้วเช่นกัน คุณทำไม่ได้......อ๊ะ!”
พลิกหมุนรอบหนึ่ง เธอถูกชายหนุ่มผลักลงไปที่โซฟาเรียบร้อยแล้ว ทับเอาไว้อย่างหนาแน่น
บนร่างกายเขาไม่มีไขมันสะสมเลยสักนิด แต่น้ำหนักกลับไม่เบาเลย
“ทำไมผมจะทำไม่ได้?”เซียวเซิ่งที่ไม่รู้ว่าหยิบทะเบียนสมรสออกมาจากที่ไหน แกว่งไปแกว่งมาตรงหน้าของเอี๋ยนเสียวเนี่ยน รอยยิ้มที่หล่อเหลาแต่อันตราย “รักภรรยาของตัวเอง ใครก็ยุ่งอะไรไม่ได้หรอก! ตอนนี้ผมจะกลืนกินคุณแล้ว แม้แต่เศษก็ไม่คาย”
เขาพ่นลมหายใจที่ร้อนผ่าวใส่บนใบหน้าของเธอ หอมเป็นพิเศษ เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนลุ่มหลงจนลืมตาไม่ขึ้น เลือนรางพร่ามัวอยู่ตรงนั้น สวย~หยาดเยิ้มถึงขีดสุด
“สวย!”เซียวเซิ่งทนไม่ไหวแล้วจริงๆ ตื่นเต้นจนหน้าอกยกขึ้นยกลงอย่างรุนแรง หอบราวกับสัตว์ป่า
ได้ยินแค่เสียง“แคว่ก”เขาฉีกกระโปรงผ้าไหมแท้ของเธอจนขาด มุดศีรษะเข้าไป ลิ้มรสที่นาที่อุดมสมบูรณ์ผืนนั้น......
“อ๊ะ......” เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนตัวสั่นสะท้านทันที โอบรัดศีรษะของเขาเอาไว้ทันทีแล้วดันออกด้านนอกอย่างสุดชีวิต “ฉันชอบถูกคุณสามีรัก แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลา ตอนกลางคืนได้หรือไม่?”
เซียวเซิ่งหยุดชะงักทันที เงยหน้าขึ้นอย่างอ้อยอิ่ง สายตาจ้องภรรยาเขม็ง นัยน์ตาแดงก่ำเพราะเกิดอารมณ์
ดวงตาทั้งสองคู่จ้องมองกันและกัน ในดวงตาของเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนมีแฝงไปด้วยความรักและความอ่อนโยนอย่างแท้จริง อิ่มเอิบไปด้วยความรักที่ลึกซึ้ง
เซียวเซิ่งราวกับโดนไฟฟ้าช็อต ลูบที่หางตาของภรรยาด้วยความรักสุดหัวใจ “คุณชอบที่ถูกสามี......”
“อืม......ไม่!”เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยพยักหน้าก่อน แล้วก็ส่ายหน้าทันที เพราะรู้สึกอับอายที่ตนเองพูดเรื่องแบบนั้น “คุณปล่อยฉัน ไม่อย่างนั้นฉันจะไม่ออกไปทานข้าวเย็นกับคุณ เหมือนกับครั้งก่อน ที่ตัดผมจนหมดหัว!”
“คุณ! เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยน!”เซียวเซิ่งโกรธอย่างมาก ทำไมเธอถึงกล้าข่มขู่เขา “น่าเสียดาย ผมไม่มีทางให้คุณได้แตะกรรไกรอีกแล้ว”
“ถ้าอย่างนั้นฉันจะถอนออกทีละเส้นๆจนหมด?”
เซียวเซิ่ง: “......”
เคยมีใครโมโหจนตายไหม?
เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนเห็นว่าเขาสะอึกไป ไม่ได้รู้สึกถึงชัยชนะเลยแม้แต่น้อย ในทางกลับกันรู้สึกผิดจนอยากร้องไห้ ร่างกายของเขาเกร็งอย่างรุนแรงมากจนเกินไป ชายหนุ่มที่กระฉับกระเฉงทรงพลัง ได้รับความไม่สบายใจจะทุกข์ใจมากขนาดไหน?
เมื่อเห็นดวงตาของหญิงสาวเปียกชื้น เซียวเซิ่งก็ใจอ่อนแล้ว ลำคอดังอึกสองที “ร้องไห้ทำไมกัน ผมไม่ได้ทำอะไรคุณสักหน่อย”
เขากัดฟันอดกลั้นความต้องการเอาไว้ ลุกขึ้นมาจากบนร่างกายของเธอ
สองมือของเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนรวบกระโปรงที่ขาดเอาไว้ ในใจพูดไม่ออกว่ารู้สึกยังไง
เซียวเซิ่งเดินไปที่ตู้เสื้อผ้าหยิบกระโปรงออกมาหนึ่งตัว มองสีหน้าของเธออย่างเสียใจแล้วพูด “อันที่จริงแล้ว ผมแค่อยากจะช่วยคุณเปลี่ยนเสื้อผ้า ออกไปทานข้าวเย็น ต้องใส่เสื้อคู่กับผม”
“ฉันไม่ไปทานแล้ว”เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนมองกระโปรงใหม่ที่ทำขึ้นด้วยความประณีตสวยงามแวบหนึ่ง ภายในใจรู้สึกขอโทษเขา “ถ้าไม่อย่างนั้นคุณก็เปลี่ยนผู้หญิง เปลี่ยนเป็นผู้หญิงที่สามารถเติมเต็มคุณได้ทุกที่ทุกเวลา”
“คุณพูดบ้าบออะไรน่ะ?”ดวงตาของเซียวเซิ่งเปลี่ยนเป็นดุร้ายเข้มงวดทันที ยกเท้าขึ้นเตะถีบเข้าไปที่โซฟา โครม!
เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนเกือบพลิกคว่ำจากบนโซฟา ตกใจกลัวจนตัวสั่นหลายครั้งติดต่อกัน ราวกับกวางน้อยดวงตาโตที่โง่เขลาที่กำลังมองเซียวเซิ่งด้วยความมึนงง กัดริมฝีปากเอาไว้ไม่กล้าเปล่งเสียงออกมาแม้แต่แอะเดียว
“ผมให้คุณสองตัวเลือก!” เซียวเซิ่งชี้ที่จมูกของเธออย่างรุนแรง “ข้อแรก ให้ผมกิน ข้อสอง ไปทานข้าวกับผม คุณเลือกสักอย่าง”
เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนครุ่นคริดอยู่ครู่ใหญ่ ไม่ได้พูดอะไร
นี่มันเป็นคำถามลองใจ ก็ไม่รู้ว่าเธอครุ่นคิดอะไร! ทันทีที่เซียวเซิ่งยกมือขึ้น นำกระโปรงตัวใหม่โยนลงไปบนตัวของเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยน หันหลังกลับแล้วเดินไปทางห้องน้ำ
“ฉันเลือกข้อหนึ่ง อย่าโกรธฉันเลยนะ คุณสามี”
เสียงที่ยังเบากว่ายุง แต่กลับเหมือนกระบี่แหลมคมที่หอมหวานเล่มหนึ่งแทงทะลุมาจากกลางหลัง เซียวเซิ่งตัวสั่นอย่างรุนแรง หันหน้ากลับไปมองหญิงสาวคนงามที่มีผิวพรรณขาดั่งหิมะ ขมวดคิ้วเล็กน้อย
“ลูกไปโรงเรียนทำไมต้องให้คนอื่นไปเป็นเพื่อนด้วยล่ะ?” เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนเดินตามมา ถามอย่างไม่เข้าใจ “ในโรงเรียนไม่ใช่ว่าไม่มีคุณครู ความสามารถในการช่วยเหลือตนเองของลูกชายก็แข็งแกร่งขนาดนั้น ช่วยเหลือตัวเองได้ ยิ่งไปกว่านั้นเด็กผู้ชายจะถูกโอ๋มากจนเกินไปไม่ได้”
เซียวเซิ่งไม่อยากจะอธิบายมากเกินไป กลัวว่าถ้าเธอรู้เบื้องหลังบางส่วนอาจจะหวาดกลัวได้ ยิ้มอย่างเรียบเฉย “คุณพูดถูก เขาช่วยเหลือตัวเองได้ ลูกรักมานี่ ให้พ่อรักหน่อย”
เมื่อพูดจบก็ตบๆที่บนต้นขาของตนเอง บอกเป็นนัยๆว่าให้เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนมานั่งด้านบน
ใบหน้าของเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนแดงก่ำทันที แต่ว่าก็นั่งลงไปบนขาของเขาอย่างเชื่อฟัง ขาของเซียวเซิ่งไม่เพียงดูดี ทั้งยังแข็งแกร่งและมีพลัง ทั้งสบาย ทั้งสบายใจ
“ขยับเข้ามาอีกหน่อย”ทันทีที่แขนของเซียวเซิ่งรองเอาไว้ ก็นำภรรยาที่นุ่มนวลงดงามเข้ามาโอบกอดไว้ในอ้อมอก รูปร่างที่ราวกับกิ่งต้นหลิวของเธอทำให้เขาหลงใหลเป็นอย่างยิ่ง
เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนเอนศีรษะพิงไปบนบ่าของสามี หน้าผากแนบบนลำคอยาวระหงขาวสะอาดของเขา เนื้อหนังแนบชิดกัน ลมหายใจรุกล้ำกันและกัน หัวใจของทั้งสองฝ่ายถูกเติมเต็มด้วยความสุข
“คุณภรรยา ขอโทษด้วยนะ คนในครอบครัวของผมยังไม่ยอมรับคุณในตอนนี้”เซียวเซิ่งขยับคางเบาๆ ถูไปที่บนหน้าผากของเธอ ความรู้สึกเหมือนกระแสไฟสองสามสายพาดผ่าน วิเศษเกินกว่าจะบรรยาย
“จะโทษคนในครอบครัวคุณก็ไม่ได้นี่นา ฉันเข้าใจพวกเขาได้” เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนเป็นคนมีเหตุมีผลคนหนึ่ง พูดขึ้นมาอย่างมีเหตุผลและศิลปะในการพูดจา “เรื่องการแต่งงานของคุณกับเอียนหยู่โรว พวกเขาคงจะเคยคัดค้านอย่างสุดกำลังความสามารถ แต่สุดท้ายแล้วยังไงเสียก็ต้องยอมคุณ งูกัดครั้งเดียว กลัวเชือกไปสิบปี(คืออาการที่โดนอะไรสักอย่างทำร้ายให้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียหายทำให้เข็ดหลาบหวาดกลัว ไม่กล้าพบเจอสิ่งเหล่านั้นอีกนาน ทั้งที่บางทีมันอาจจะไม่เป็นอย่างที่เราคิด) ฉะนั้นก็จะต้องต่อต้านฉันเป็นพิเศษ......”
“เนี่ยนเอ๋อร์ พวกเรารู้จักกันช้าเกินไป”เซียวเซิ่งก้มหน้าลงไป ริมฝีปากเย็นบางปกคลุมปากเล็กของเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนเอาไว้ ลิ้มรสความหอมหวานด้านบน
“......อืม” เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนอ่อนยวบราวกับน้ำทันทีทันใด เป็นฝ่ายตอบสนองต่อชายหนุ่มอันเป็นที่รัก
ลำคอของเซียวเซิ่งส่งเสียงถอนหายใจเบาๆอย่างทนไม่ได้ออกมา ความรักยากที่จะควบคุมราวกับน้ำหลาก แต่ในที่สุดเขาก็ไม่ได้ทำอะไร หยิบกระโปรงตัวนั้นขึ้นมา ช่วยสวมให้ภรรยา
ก๊อกก๊อก
ทันทีที่สวมเสื้อผ้าเสร็จก็มีคนเคาะประตูพอดี หลีกเลี่ยงความลุกลี้ลุกลนและเก้อเขินไปได้มากขนาดไหน? เซียวเซิ่งมักจะให้ความรู้สึกปลอดภัยกับเธอเสมอ
เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนจูบลงไปริมฝีปากของสามีทีหนึ่ง เดินไปเปิดประตูด้วยความรวดเร็ว......
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เรื่องวิวาห์ของเจ้าสาวจำเป็น