ทักษะการจูบของท่านประธาน......ตัวเขาเองก็คือระดับเทพ ประกอบกับใบหน้าที่หล่อเหลาเอาการ รวมทั้งความเผด็จการทั้งอุปนิสัยที่ไม่ขาดความอ่อนโยน......เฮ้อ อย่าพูดว่าผู้หญิงต้านทานไม่ได้ เย่เฟิงก็มองจนจิตใจสั่นกระเพื่อมเช่นกัน
แต่เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนกลับไม่ค่อยยินดีที่จะแสดงความรักกันต่อหน้าบุคคลที่สาม เธอจับแขนเสื้อของเซียวเซิ่งเอาไว้ “คุณสามี~”
“อืม”เซียวเซิ่งค่อยๆผละออกจากเธอช้าๆ ลืมตาที่งดงามเปล่งประกายขึ้น จ้องหญิงสาวอันเป็นที่รักอย่างลึกซึ้ง
ดวงตาของเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนสั่นเบาๆ ใบหน้าสวยงามของเธอเป็นสีแดงสวยงามสะเทือนใจคนเพราะเขินอาย เม้มปากเล็กน้อยแสดงออกว่าตนเองไม่พอใจ ใบหน้าท่าทางที่มีเสน่ห์ของสาวน้อยเรียกง่ายๆว่าทำให้เซียวเซิ่งอดไม่ได้
บนโลกนี้ไม่มีผู้หญิงคนที่สองที่สามารถทำให้เขามีความเร่าร้อนเช่นนี้ แทบอยากจะเผาตัวเอง เป็นความอบอุ่นให้เธอชั่วชีวิต
เมื่อเห็นความเร่าร้อนในดวงตาของท่านประธานยิ่งเร่าร้อนขึ้นเรื่อยๆ เย่เฟิงกล่าวเตือนสติได้ในเวลาที่เหมาะสม “คุณชาย คุยธุระเถอะ”
ทันใดนั้นเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนก็ตื่นเต้นจนปลายนิ้วสั่นขึ้นมาทันที คุยธุระอะไรกันนะ? พวกเขาล้วนเป็นคนใหญ่คนโต สิ่งที่เรียกว่าธุระน่าจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับงานละมั้ง?
“พวกคุณคุยกันเถอะ ฉันออกไปก่อน——”
ทันใดนั้นตรงหน้าก็มีกล่องเครื่องประดับที่ทำขึ้นด้วยความประณีตสวยงาม เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนก็หยุดหัวข้อสนทนาทันที ดวงตาทั้งสองข้างจ้องกล่องเขม็ง อดไม่ได้ที่จะคาดเดาว่าภายในใส่อะไรเอาไว้
เธอไม่ใช่คนที่โลภในทรัพย์สินเงินทอง พ่อบ้านเซี่ยจัดเตรียมอัญมณีเครื่องประดับให้เธอหนึ่งตู้ ทองคำและเงินแท้ เธอไม่ค่อยจะสนใจสักเท่าใดนัก แต่ไม่รู้ว่าทำไม กล่องเครื่องประดับที่ธรรมดากลับสะเทือนในหัวใจของเธอ
เมื่อเห็นว่าภรรยาตัวน้อยจ้องตาไม่กะพริบ เซียวเซิ่งไม่ได้วางแผนที่จะกระตุ้นความปรารถนาของเธอ นิ้วมือเรียวยาวสะอาดสะอ้านแง้มฝากล่องออกเบาๆ แหวนสองวงที่ประดิษฐ์ขึ้นอย่างเรียบง่ายสะดุดสายตา
แหวนคู่รักวงนี้ ฝีมือละเอียดอ่อนประณีต วัสดุก็ไม่เลวเช่นกัน แต่ว่าคงจะไม่มีราคาเท่าไหร่ แต่เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนชื่นชอบอย่างน่าประหลาด ชื่นชอบจนสุดเข้าไปในหัวใจแล้ว
เนื่องจากบนแหวนสองวงฝังประดับด้วยเพชรขนาดใหญ่เท่าเมล็ดงา คล้ายคลึงกับกระบนจมูกของเธออย่างมาก
เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนกำลังครุ่นคิด ในเมื่อเรื่องนี้พัวพันไปถึงเย่เฟิง เซียวเซิ่งคงจะทวงความยุติธรรมให้แก่เย่เฟิง ขออูเจินจูแต่งงาน ดังนั้นแหวนกล่องนี้มอบให้แก่อูเจินจู ให้เธอส่งต่อให้เธอ
“นี่คือ......แหวนขอแต่งงานหรือ?”เธอกลืนน้ำลายลงไปแล้วถาม
“ไม่ใช่”เซียวเซิ่งมองตรงเข้าไปในดวงตาของเธอ ใบหน้าที่หล่อเหลาเย็นชาสูงศักดิ์แผ่กระจายเสน่ห์และความงดงามที่สยบผู้คน เขาเคร่งขรึมจริงจังขึ้นมา ท่าทางแตกต่างจากหน้าตาที่ชั่วร้ายที่อุ้มเธอเอาไว้แล้วจูบก่อนหน้านี้อย่างฟ้าและเหว ทำให้จิตใจคนเกิดความยำเกรง ไม่กล้ามีความไม่ให้เกียรติเลยแม้แต่น้อย
แต่ชายหนุ่มที่ท่าทางสูงส่งแบบนี้ ทันใดนั้นก็คุกเข่าลงตรงหน้าของเธอ
เข่าขวาของเซียวเซิ่งแตะพื้น ขาซ้ายงอเก้าสิบองศา สันหลังตั้งตรงแน่ว ตั้งตระหง่านราวกับต้นสน
“คุณสามี คุณทำอะไร?”เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนตกใจ “ต่อให้ออกหน้าแทนเย่เฟิง ก็ไม่ต้องคุกเข่าก็ได้นี่นา! นี่คุณจะทำให้อายุฉันสั้นลงใช่ไหม?”
ทำให้อายุสั้นลง อ่าฮ่าฮ่า......เย่เฟิงเป็นเพราะกลั้นขำเอาไว้ เกือบจะทำให้เขาได้รับบาดเจ็บภายในแล้ว
สาวน้อยจำเป็นต้องน่ารักขนาดนี้เลยหรือ? เธอจะต้องนึกว่าท่านประธานคุกเข่าแทนเขาเย่เฟิงแน่นอน นี่มันจะเป็นไปได้อย่างไรกัน? แม้แต่บิดามารดาท่านประธานยังไม่เคยคุกเข่าให้
เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนมองไปทางเย่เฟิงอย่างไม่เข้าใจ เย่เฟิงแบมือออกอย่างไร้เดียงสาให้เธอ ทำท่าทางแสดงออกว่า“เขาไม่ได้ทำเพื่อผม”
บางทีเธออาจจะเข้าใจผิดไปแล้วจริงๆ
เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนผลุบตาลงแล้วมองไปทางสามีของตนเอง สายตาทั้งสองคู่ประสานกัน หัวใจของเธอเต้นทันที ตระหนักได้แหวนนั้นเขาจะมอบให้เธอ
“คุณภรรยา พวกเราแต่งงานกันแล้ว ไม่มีเรื่องขอแต่งงานแล้ว แต่ว่าแหวนแต่งงานยังไงเสียก็สวมอย่างจริงจัง”
เซียวเซิ่งหยิบแหวนที่วงเล็กกว่าขึ้นมาอย่างระมัดระวัง “เนื่องจากความหมายที่แฝงไว้ของมันงดงามเกินไป สามารถเก็บความรักเอาไว้ เก็บคำสัญญาเอาไว้ เก็บหัวใจของคุณเอาไว้ ผมจำเป็นต้องลองดู”
เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนหยิบแหวนอีกวงขึ้นมา สวมให้แก่สามีอันเป็นที่รัก ประทับจูบลงไปเช่นเดียวกัน
ว่ากันว่านิ้วนางเป็นเส้นเลือดแห่งความรักในร่างกายของมนุษย์ เส้นเลือดเส้นหนึ่งพุ่งตรงเข้าไปที่หัวใจ สวมแหวนไว้บนนิ้วนี้ หัวใจของสามารถภรรยาก็จะมีความผูกพันกัน สายเลือดเชื่อมโยงถึงกัน......
เซียวเซิ่งยื่นมือออกมาโอบภรรยาเข้ามาไว้ในอ้อมอก ใช้แรงโอบกอดเอาไว้ ก้มหน้าประทับตราบนริมฝีปากของเธอ ถึงจะตายก็ไม่เสียใจ ช่วยเหลือซึ่งกันและกันในยามตกระกำลำบาก
เย่เฟิงที่อยู่ด้านข้างยิ้มอย่างปลื้มปีติยินดี ส่งคำอวยพรภายในใจ แต่หวังว่ารักแท้นี้จะไม่มีวันหวนกลับ ไม่มีวันเหี่ยวเฉาร่วงโรย เหมาะสมต่อกันและกัน แล้วก็คู่ควรกับช่วงเวลาที่น่าจดจำช่วงนี้เช่นเดียวกัน!
ก๊อกก๊อก มีคนเคาะประตู
“แดดดี้ หม่ามี๊ อาเฟิง คุณตาผมมาแล้วครับ!” เสียงเด็กที่หวานสดใสไพเราะของเด็กขัดจังหวะความคิดของเย่เฟิง
เป็นเรื่องธรรมดาที่เซียวเซิ่งและเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนต้องแยกกัน ไม่ว่าจะมีความรักกันมากแค่ไหน ต่อหน้าญาติผู้ใหญ่และเด็ก พวกเขาสามารถบันยะบันยังเอาไว้ได้
“พ่อตาทางนี้ ผมจะคุยกับเขา คุณไม่ต้องเป็นกังวล หืม?” เซียวเซิ่งเช็ดคราบน้ำตาให้ภรรยา มองเธออย่างหลงใหล
“อืม”
“ยิ้มให้สามีหน่อยซิ”
เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนเผยรอยยิ้มเล็กน้อยให้กับเขา ริมฝีปากโค้งเล็กน้อย ใบหน้ายิ้มแย้ม ดอกท้อในฤดูใบไม้ผลิสวยมากแค่ไหน เธอก็สวยมากเท่านั้น
“ไปเปิดประตูเถอะ” เซียวเซิ่งผละออกจากภรรยา มองเธอเดินไปทางประตู ครู่ต่อมา เขากลับไปนั่งบนโซฟา นิ้วเรียวยาวพลิกเอกสาร ใบหน้าหล่อเหลาแสดงท่าทางที่เย่อหยิ่งของเจ้าคนนายคน ลักษณะท่าทางยังคงความสูงส่งจนเอื้อมไม่ถึงเหมือนเคย......
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เรื่องวิวาห์ของเจ้าสาวจำเป็น