แต่ว่า “ฉัน” คนนี้หมายถึงใครมันก็ยังไม่แน่นอน
คิดถึงตรงจุดนี้ รอยยิ้มที่มุมปากของกู้จ่านหนิงก็แข็งทื่อ และแอบด่าบรรพบุรุษของเซียวเซิ่งอยู่ในใจไปยกใหญ่
เมื่อนึกถึงว่าน้องสาวของตัวเองชอบไอ้หนุ่มหล่อคนนี้จะเป็นจะตาย มีความเป็นได้ด้วยว่าจะมีลูกด้วยกันในอนาคต เขาก็ได้ตบเข้าที่หน้าของตัวเองอีกสองครั้ง
มีคนประเภทหนึ่งที่ทำให้คุณจะรักก็ไม่ได้จะเกลียดก็ไม่ได้ นั่นก็คือเซียวเซิ่ง
โอเล่ย์ได้ขับปากานีออกไปแล้ว เรื่องมาถึงตรงนี้ก็ถือว่าจัดการเรียบร้อยแล้ว เขาไม่อยากจะเข้าไปเกี่ยวข้องกับการกระทำผิกทางอาญาข้อหาลอบโจมตีตำรวจหรอกนะ เรื่องที่ส่งผลกระทบต่อเอ็นซี ข้ามชาติ กรุ๊ป เขาจะไม่ทำอย่างแน่นอน
รถของหลินเซวียนนั้นไม่จำเป็นต้องบังคับให้จอดเลยสักนิด เห็นว่ามีคนขวางรถ เธอก็ได้จอดรถลงทันที แสดงบัตรเพื่อแสดงตัวตนพลางกล่าว “มีเรื่องอะไร?”
“คุณตำรวจ ช่วยด้วย!” บอดี้การ์ดชาวเสฉวนที่ถูกกู้จ่านหนิงอัดไปเมื่อก่อนหน้านี้ ได้กอดเข้าไปที่แขนของหลิวเซวียน ร้องห่มร้องไห้ออกมาอย่างเสมือนจริง “มีคนจะฆ่าผม!”
“ใครจะฆ่านาย?” หลินเซวียนขมวดคิ้ว คิดจะสะบัดมือของขาออก ทว่าชายคนนั้นกลับไม่ยอมปล่อย
“สวี่ สวี่เจียน”
“เหลวไหล!” หลินเซวียนแววตาแหลมคมขึ้นมา และผลักเขาออกไปอย่างแรง “นายกล้าใส่ร้ายผู้บัญชาการของเราได้ยังไง!”
“ผมจะกล้าใส่ร้ายเขาได้ยังไง!” บอดี้การ์ดคนนั้นคลานลุกขึ้นมาอีกครั้ง พูดอย่างจริงใจด้วยภาถิ่น “สวี่เจียนดื่มเหล้าอยู่ที่ร้านของผมและไม่ยอมจ่ายเงิน ผมไปถามเอาเงินกับเขา แต่เขากลับอัดผมซะอย่างนั้น คนดูแผลบนหัวของผมสิ......ถ้าคุณไม่จัดการเรื่องนี้ ผมจะไปฟ้องเขา”
หลินเซวียนครุ่นคิด จากสถานการณ์ของสวี่เจียน ก็ใช้ว่าจะเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะทำร้ายคนอื่น ดังนั้นจึงได้สะบัดหน้าให้กับบอดี้การ์ด “ขึ้นรถ พาฉันไปหาเขา”
“ครับผม” บอดี้การ์ดรีบขึ้นไปนั่งบนที่นั่งข้างคนขับทันที และเร่งรัดให้หลินเซวียนรีบไป
รถขับออกไป บัตรเจ้าหน้าที่ตำรวจใบหนึ่งได้หล่นอยู่บนพื้น
บอดี้การ์ดคนนั้นเคยเป็นขโมยมาก่อน จึงได้ขโมยบัตรเจ้าหน้าที่ตำรวจของหลินเซวียนไปอย่างไร้สุ้มเสียง หลินเซวียนเป็นห่วงสวี่เจียน ถึงไม่ได้สังเกตเรื่องการเคลื่อนไหวเล็ก ๆ น้อย ๆ นี้เลย
กู้จ่านหนิงได้ถ่ายรูปที่อยู่บนบัตรเจ้าหน้าที่ตำรวจเอาไว้ และส่งไปให้น้าเสวี่ย “รีบส่งผู้หญิงที่มีหน้าตาคล้าย ๆ มาโดยด่วน”
ผู้หญิงของโกลเด้นฟีนิกซ์ล้วนเป็นคนมีความสามารถที่ผ่านการฝึกฝนในเรื่องชายหญิงมา แต่ละคนต่างก็มีประสบการณ์มากมาย ไม่มีปัญหาอะไรที่จะปลอมเป็นตำรวจหญิงคนหนึ่ง
ครึ่งชั่วโมงต่อมา หลินเซวียนได้มาถึงโกลเด้นฟีนิกซ์ ผู้หญิงของโกลเด้นฟีนิกซ์ได้ไปที่บ้านพักสำนักงานราชการ
โกลเด้นฟีนิกซ์ได้เปิดทำการตามปกติแล้ว เต็มไปด้วยความฟุ้งเฟ้อสำมะเลเทเมาคึกคักเป็นพิเศษ เรื่องเล็กเรื่องใหญ่ล้วนถูกทับถมไปด้วยกลิ่นอาแห่งโลกีย์ ราวกับว่าเคยเกิดเรื่องบาดหมางใด ๆ ขึ้นมาก่อนเลย
มองเห็นเงาร่างที่คุนเคย หลินเซวียนก็แอบบทอดถอนใจ
สวี่เจียนยังคงดื่มเหล้าแก้วแล้วแก้วเล่า เขาเพียงต้องการใช้แอลกอฮอล์มาทำให้ตนเองเหน็บชา ไม่ไปคิดพิจารณาเรื่องอื่น ๆ เลยสักนิด
แม้ว่าเขาจะปฏิเสธกู้จ่านหนิงไป แต่สภาพแวดล้อมที่วุ่นวายสามารถทำให้เขาลืมความเจ็บปวดไป บวกกับที่ไม่มีเงินติดตัวเลย ไม่จอดื่มที่อื่นก็ไม่เหมาะสม ดังนั้นก็เลยอยู่ที่โกลเด้นฟีนิกซ์
“ผู้บัญชาสวี่” หลินเซวียนเดินไปนั่งลงที่ด้านหน้าของเขา และกล่าวอย่างเจ็บปวด “เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนได้เดินออกไปจากชีวิตของคุณแล้ว คุณเองก็ปลดปล่อยตัวเองเถอะนะ”
มือของสวี่เจียนชะงักลง ความรู้สึกเจ็บปวดเกิดขึ้นมาในหัวใจ ผ่านไปสักพัก เขาถึงได้ส่งเหล้าขม ๆ นั้นถึงริมฝีปากของตัวเอง เงยคอขึ้นและกลืนลง จากนั้นก็รินเหล้าอีกครั้ง
หลินเซวียนกดขวดเหล้าเอาไว้ “ความรักครั้งใหม่สามารถลบล้างความทรงจำอันเจ็บปวดได้ คนลองไปรักคนอื่นดูได้ไหม?”
“ไม่ได้” สวี่เจียนแสดงความหัวแข็งที่ไม่เคยมีมาก่อนออกมา “เธอแค่เดินออกไปจากการใช้ชีวิตผมชั่วคราวเท่านั้น ไม่ได้เดินออกไปจากชีวิตของผมเลย”
“มันไม่เหมือนกันหรอกเหรอ?”
“ไม่ รอคุณรักคนคนหนึ่งจนถึงกระดูกก็จะเข้าใจเอง แม้ว่าเธอจะจากไปแล้ว ความรักที่ตัวเองมีให้เธอก็จะไม่ดับสูญไป มีแต่จะเพิ่มมากขึ้น”
นัยน์ตาของหลินเซวียนหม่นหมองจนถึงเขตสุด เธอเห็นด้วยกับคำพูดนี้ เพราะเธอรักผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าคนนี้มาก มีความทุกข์เพราะความรัก
“คุณป้าสวี่ต้องการให้ฉันแต่งงานกับคุณ ช่วยคุณรับมือกับเคราะห์กรรม”
“แล้วคุณคิดยังไง?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เรื่องวิวาห์ของเจ้าสาวจำเป็น