“งั้นพวกเราคอยดูก็แล้วกัน!”
กู้จ้านหนิงยิ้มอย่างเย็นชา มองดูเธอด้วยความหมายลึกซึ้ง “พนักงานราชการอย่างพวกคุณ ไม่ตรวจสอบล้วนไม่เจออะไร พอตรวจสอบเท่านั้นแหละ มีปัญหามากมาย พูดอีกทาง ต่อให้พวกเขาสองคนจะเป็นข้าราชการซื่อสัตย์ แต่ก็ไม่แน่ว่าผู้บังคับบัญชาของพวกเขาจะมือสะอาด ในแวดวงราชการเรื่องที่เสียเรือเพื่อรักษาขุนก็เกิดขึ้นอยู่บ่อย ๆ บวกเขาใกล้จะเกษียณอยู่แล้ว ให้เป็นแพะรับบาปมันไม่คุ้มเลย”
คุณแม่ของสวี่เซวียนถลึงตาใส่กู้จ่านหนิงอย่างแรง สีหน้ามืดมนจนแทบจะดำก่ำ มือที่ห้อยอยู่ข้างกายกำหมัดแน่น
ไอ้สารเลวนี่พูดถูก เดิมที่แวดวงข้าราชการก็อันตรายอยู่แล้ว มีใครบ้างที่ไม่มีศัตรู? ถ้าพวกร่วมมือกันขึ้นมา ไม่แน่ว่า......อีกอย่างเรื่องภูมิกำเนิดของสวี่เจียนกก็อาจจะถูกเปิดเผยออกมาก็ได้
ก้มหน้าลงดูรอยเลือดที่อยู่บนผ้าปูที่นอน คุณแม่ของสวี่เจียนก็เจ็บปวดใจเป็นอย่างยิ่ง ทำไมลูกชายถึงเลอะเลือนแบบนี้?
กู้จ่านหนึงเก็บการเปลี่ยนแปลงทางความรู้สึกของเธอเข้าสู่สายตา และเติมไฟเข้าไปอีก “ถ้าคุณไม่เชื่อ สามารถโทรไปถามสวี่เจียนได้ ว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อคืน ตัวเขารู้ดี”
ไม่ต้องพิสูจน์แล้ว คุณแม่ของสวี่เจียนกัดฟัน ตอนเช้าของวันนี้สวี่เจียนได้โทรมาหาเธอบอกว่าห้ามตกลงเรื่องงานแต่ง เธอก็สัมผัสได้ถึงความผิดปกติแล้ว
ลูกชายของตัวเองจะต้องมีจุดอ่อนอะไรถูกอีกฝ่ายจับเอาไว้ได้แน่ ไม่อย่างนั้นละก็ตัวก็คงจัดการเองได้แล้ว
ช่างเถอะ เอาส่วนรวมไว้ก่อนดีกว่า รอนังสารเลวนั่นแต่งเข้ามา จะต้องทำให้หล่อนตายทั้งเป็นอย่างแน่นอน!
เมื่อกู้จ่านหนิงเห็นว่ากำลังไฟเพียงพอแล้ว ก็ได้ยื่นนามบัตรแผ่นหนึ่งออกไปให้ “ให้เวลาคุณคิดหนึ่งวัน คิดดีแล้วค่อยโทรมาหาผม”
“ไม่ต้องคิดแล้ว ฉันเห็นด้วยเรื่องแต่งงาน” คุณแม่ของสวี่เจียนกล่าวอย่างเย็นชา “ฉันไม่ให้ค่าสินสอดแม้แต่แดงเดียว ให้เธอน้ำเงินสองพันล้านต่างเข้ามาด้วย”
“สองพันล้าน?” ช่างกล้าเรียกร้องจริง ๆ เลย แต่เขาสามารถทำทรัพย์สินพวกนี้ให้เป็นทรัพย์สินก่อนแต่งงานได้ วันไหนที่หย่ากันแล้ว ก็ต้องเอาคืนกลับมาโดยไม่ขาดแม้แต่แดงเดียว
“ไม่ยินยอมก็ช่างเถอะ” คุณแม่ของสวี่เจียนหยิบกระเป๋าขึ้นมาและเตรียมที่จะจากไป
“ได้! แต่ว่า คุณจะต้องดูแลเธอให้ดี อย่าตีอย่าว่าเธอ อยู่ที่บ้านน้องสาวของผมก็ถูกดูแลอย่างทะนุถนอม แต่งออกจากบ้านไป——”
ปล่อยวางไม่ได้ก็อย่าให้แต่ง แต่งเข้ามาแล้วก็ต้องมีหนังถลอกกันบ้าง!” คุณแม่ของสวี่เจียนตัดบทเขาไปอย่างหงุดหงิด สันดานของแม่สามีตัวร้ายได้ปรากฏของมากว่าครึ่งหนึ่ง
กู้จ่านหนิงตกตะลึงขึ้นมาภายในใจ กำลังอยากจะพูดอะไรบางอย่าง โทรศัพท์ของคุณแม่ของสวี่เจียนก็ได้ดังขึ้น เป็นสายโทรเข้าจากผู้บัญชาการไป๋
“เสวี่ยฮวา ทำไมคุณไม่พบหลินเซวียนล่ะ?”
เมื่อได้ยินเสียงของผู้บัญชาการไป๋ น้ำตาคุณแม่ของสวี่เจียนก็ไหลออกมาทันที เดินไปกล่าวไป “หลินเซวียนนั่นเชื่อถือไม่ได้เลย ลูกน้องคุณแต่ละคนนี่ยังไงกัน!”
“เมื่อกี้เธอเอาเงินไปให้สวี่เจียนที่โกลเด้นฟีนิกซ์ ตอนนี้คุณให้เธอเข้าไป”
“สายไปแล้ว ฉันรับปากเรื่องแต่งงานกับตระกูลกู้ไปแล้ว”
“อะไรนะ?” ผู้บัญชาการไป๋ตบลงไปบนโต๊ะ ต่อว่าด้วยน้ำเสียงเข้มงวด “คุณนี่เลอะเลือนจริง ๆ แบบนี้มันทำลายสวี่เจียนได้นะ!”
“ฉันคิดเข้าใจแล้ว ถ้าหากสวี่เจียนยืนหยัดด้วยตัวเองได้ ใครก็ทำร้ายเขาไม่ได้”
คุณแม่ของสวี่เจียนไม่สามารถพูดเรื่องที่สวีเจียนหลับนอนกับกู้ซีหนิงออกมาได้ เรื่องขายหน้านี้เธอปิดบังเอาไว้ “คุณหาวิธีกำจัดกู้จ่านหนิงดีกว่า ตัดสินโทษประหารชีวิตเขาให้เร็ว ถือเป็นการช่วยฉันแก้ความขับข้องใจไปด้วย”
“ไม่ง่ายแบบนั้นหรอก” ผู้บัญชาการไป๋ทอดถอนใจ “ตอนนี้ทั้งสองฝ่ายรักษาความสงบสุขเอาไว้แบบนี้ได้ก็ไม่เลวแล้ว คิดว่ากู้จ่านหนิงคิดจะให้สวี่เจียนเพื่อชำระล้างให้ตัวเองสะอาด เพิ่มสถานะทางสังคมของตัวเอง แต่ไม่ใช่ดึงสวี่เจียนให้ลงน้ำไปด้วย ดังนั้นอย่าสร้างปัญหาขึ้นมา มีเรื่องกับคนเลวไม่มีผลดีเลย”
พูดก็ถูก คุณแม่ของสวี่เจียนพูดไม่ออก ได้แต่จดจำความแค้นครั้งนี้เอาไว้ภายในใจ พอถึงเวลานั้นค่อยไประบายกับเจ้าสาว
เอ็นซี ข้ามชาติ กรุ๊ป ห้องทำงานรองประธาน
โอเล่ย์กำลังทำงานอยู่ โทรศัพท์พลันสั่นขึ้นมา เป็นข้อความที่ถูกส่งมาจากกู้จ่านหนิง เขาเปิดอ่าน และส่งให้กับประธาน
【งานแต่งจะจัดขึ้นในวันพุธหน้า】
หลังจากที่เซียวเซิ่งได้รับ ก็ไม่ได้มีความรู้สึกใด ๆ ขึ้นมาบนใบหน้า เพียงแค่กล่าวกับเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนอย่างเรียบ ๆ “พรุ่งนี้คุณไปสั่งตัดชุดราตรีที่ตัวเองชอบสักชุด อาทิตย์หน้าไปร่วมงานแต่งเพื่อคนหนึ่งกับผม”
“อืม” เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนตอบรับ จู่ ๆ เธอก็มองไปยังชายหนุ่มที่หล่อเหลาด้วยรอยยิ้มอันสดใส “ที่รัก ฉันไปเดินช็อปปิ้งได้หรือยัง?”
เซียวเซิ่งไม่ได้เงยหน้าขึ้น เพียงแค่หยิบสตอร์เบอรี่ขึ้นมาลูกหนึ่งแล้วส่งเข้ปากของเธอ “คุณจะไปเดินเที่ยวซ่องยังได้เลย”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เรื่องวิวาห์ของเจ้าสาวจำเป็น