เรื่องวิวาห์ของเจ้าสาวจำเป็น นิยาย บท 192

เอี๋ยนต้าฟากะพริบตาดำกลมโตของเขาปริบ ๆ มองดูเซียวเซิ่งที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม ส่วนเซียวเซิ่งนั้นได้จ้องมองโต๊ะน้ำชา

บนโต๊ะน้ำชามีอาหารสี่อย่างวางอยู่ หม่ามี๊ทำให้เขาเป็นพิเศษ หน้าตาดูดีมีกลิ่น

วันนี้แด๊ดดี้จะป้อนเขากินข้าวให้ได้ เมื่อก่อนยังบอกอยู่เลยว่าลูกผู้ชายจะต้องลงมือเอง อย่าคิดว่าเขาไม่รู้นะว่า ทำดีด้วยโดยไร้เหตุผล ไม่ใช่คิดร้ายก็คิดขโมย

อืม บางทีแด๊ดดี้อาจต้องการแสดงออกต่อหน้าหม่ามี๊ก็ได้ งั้นก็ให้โอกาสเขาแล้วกัน~

“แด๊ดดี้ เอามันฝรั่งเส้นผัดให้ผมหน่อย” เสียงเด็กน้อยที่อ่อนโยนบริสุทธิ์ดังขึ้น

“อืม” เซียวเซิ่งรับคำ คีบมันฝรั่งเส้นมาและป้อนใส่ปากให้กับลูกชาย จากนั้นก็คีบมาอีกครั้งและส่งเข้าปากของตัวเอง แล้วเคี้ยวอย่างสง่างาม

“แด๊ดดี้ อีกสักครู่มีนัดทานข้าวเหรอครับ?” เจ้าก้อนแป้งมองเซียวเซิ่งอย่างแลกใจ มีอาหารมื้อใหญ่ ทำไมต้องมาทานอาหารธรรมดาด้วยล่ะ?

เซียวเซิ่งเห็นลูกชายมีท่าทางสงสัย อดไม่ได้อยากจะดีดศีรษะของเขา: แกคิดว่าทำไมพ่อต้องป้อนแก? ก็เพราะหาโอกาสทานอาหารฝีมือเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนยังไงล่ะ

แต่เขาไม่กล้าที่จะดีดศีรษะของลูกชาย กลัวว่าภรรยาจะโกรธเอา อีกอย่างเขาก็รักลูกชายคนนี้มากด้วย

ดังนั้นคำพูดที่พูดออกมานั้นจึงอ่อนโยนมาก “แด๊ดดี้ชิมดูว่าอาหารจานนี้เค็มไหม กลัวลูกจะคอแห้งเอา เด็กบริโภคเกลือมากเกินไปมันไม่ดี”

“แด๊ดดี้ ขอบคุณนะครับที่รักผมแบบนี้~” เจ้าก้อนแป้งรับแสดงท่าทางตื้นตันใจออกมาทันที “คิดทุกอย่างเพื่อผม พูดได้เลยว่าเป็นตัวอย่างที่ดีของพ่อเลี้ยง”

“เอ่อ......แด๊ดดี้ป้อนอันนี้ลูกนะ” เซียวเซิ่งคีบหมูเส้นขึ้นมาเพื่อเปิดปากลูกชาย เห็นแก้มทั้งสองข้างของเขาป่องขึ้นมาเหมือนกับมาร์มอต เหมือนกับเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนไม่มีผิด ภายในใจนั้นชอบมาก อดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลายเฮือก

เอี๋ยนต้าฟาพลันเข้าใจอะไรบางอย่างขึ้นมา ที่แด๊ดดี้มาแย่งทาน ก็เพราะชอบทานอาหารฝีมือหม่ามี พูดอีกด้านหนึ่งก็หมายความว่าเขารักหม่ามี้มากจนถอนตัวไม่ขึ้น

เขารีบตักข้าวโพดสดผัดไพน์นัทยื่นไปที่ข้างปากของคุณพ่อทันที “แด๊ดดี้ก็ทานนะ”

“เด็กดีจริง ๆ” เซียวเซิ่งมีความสุขกับการถูกลูกชายป้อนอาหาร เมล็ดข้าวโพดที่หอมหวานถูกส่งเข้าปาก ความสุขและความตื้นตันใจอย่างพูดไม่ออกผุดขึ้นมาภายในใจ

เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนกำลังแต่งอยู่ในห้องล้างหน้า ครั้งแรกที่ปรากฏตัวพร้อมกับสามีในที่สาธารณะ จะให้เขาขายหน้าไม่ได้

เธอเรียนออกแบบงานแต่งงานมาสี่ปี การแต่งหน้าเป็นวิชาเอก ในฐานะคนวงใน เธอรู้ว่าควรทำยังไงถึงจะทำให้ตัวเองดูสวยโดดเด่น ให้แตกต่างออกไปจากสาว ๆ ที่แต่งตัวไปในแนวเดียวกันพวกนั้น

เมื่อแต่งตัวเสร็จ เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนก็เดินออกมาจากห้องล้างหน้า พอเงยหน้าขึ้นก็เห็นสองพ่อลูกกำลังป้อนอาหารให้กันอยู่ หัวใจก็รู้สึกอบอุ่นขึ้นมาทันที หางตาเปียกชื้นขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้

ต้องขอบคุณเซียวเซิ่งมากจริง ๆ ปฏิบัติต่อลูกชายที่ไม่ใช่ลูกแท้ ๆ จะมีผู้ชายสักกี่คนที่สามารถทำถึงขนาดนี้ได้? ผู้ชายบางคนแม้แต่ลูกชายแท้ ๆ ยังไม่อยากจะอยู่ด้วยเลย!

เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนพิงอยู่ที่ประตู มองดูชายรูปหล่อทั้งสองคนเด็กคนผู้ใหญ่คนอย่างหลงไหล ริมฝีปากยกขึ้นเล็กน้อย

เซียวเซิ่งช่วยลูกชายเช็ดปาก เขาเงยหน้าขึ้นโดยบังเอิญ เงาร่างที่งดงามจึงได้พุ่งเข้ามาในสายตาของเขา ทำให้หัวใจเขาตื่นเต้นยินดี

เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนเพียงแค่กรีดอายไลน์เนอร์ ดวงตากลมโตที่สุกใสอยู่แต่เดิม ระยิบระยับไปด้วยแสงนับไม่ถ้วน สุกใสแวววาวราวกับซ่อนจักรวาลเล็ก ๆ เอาไว้ด้านใน ใบหน้าประณีตงดงาม เต็มไปด้วยพลังวิญญาณ เหมือนกลับเดอะควีนที่เดินออกมาจากการ์ตูน

ทั้งสองมองสบตากันผ่านอากาศ รู้สึกว่าหัวใจของทั้งสองนั้นอยู่ใกล้กันมาก ความสุขอันหอมหวานลอยว่อนอยู่ในอากาศ นานแค่ไหนก็ไม่สลายหายไป

เอี๋ยนต้าฟาเห็นสายตาดำสนิทของคุณพ่อมองตรงไป จึงได้หันไปมองตามสายตาของเขา ก็กลายเป็นแฟนบอยขึ้นมาทันที “ว้าว นางฟ้านางสวรรค์จากไหนกันนะ? มาเป็นภรรยาของผมดีไหม......”

เซียวเซิ่งหึงหวงขึ้นมา จึงได้ดีดลงไปบนศีรษะของลูกชายติดต่อกันสามครั้ง “เด็กนี่ กล้าเซาะมุมกำแพงของฉันเหรือ? ทานข้าวไปเลย!”

ก้างขวางคอตัวน้อยไม่กล้าน้ำลายสอใส่คนเป็นแม่อีกต่อไป รีบหดคอลงทันที หยิบตะเกียบขึ้นมาโดยเร็ว และทานข้าวอย่างว่าง่าย

เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนเห็นลูกชายถูกรังแก ทั้งสงสารทั้งอยากหัวเราะ แกล้งโมโหทำหน้าบึ้งใส่สามี จากนั้นก็เดินเข้าไปอย่างรวดเร็ว อุ้มลูกชายขึ้นมาจูบแล้วจูบอีก

อารมณ์ของเอี๋ยนต้าฟาถูกปลอบประโลมจนดีขึ้น เอามือคล้องคอคุณแม่เอาไว้อย่างพึงพอใจ ก่ายคางไว้บนไหล่ของเธอ หลับตาลงและดื่มด่ำความรักจากแม่

ส่วนเซียวเซิ่งไม่ได้อารมณ์ดีแบบนั้น ดวงตาดำขลับเฉีบยคมจ้องมองเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยน อันตรายจนทำให้คนหัวใจสั่น กลิ่นอายของความหึงหวงแผ่ซ่านไปทั่วห้อง

เอี๋ยนต้าฟาสัมผัสถึงกลิ่นอายของความหึงหวง ก็ได้แอบยิ้มออกมา เอาแต่พองามก็พอ

เขาแกว่งขาสั้น ๆ ไถลลงมาจากอ้อมแขนของคุณแม่ และยื่นมือของเธอไปวางลงบนมือของคุณพ่อ “แด๊ดดี้ รีบพาหม่ามี้ไปทานข้าวเถอะครับ คืนนี้ไม่กลับมาก็ได้นะ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เรื่องวิวาห์ของเจ้าสาวจำเป็น