เรื่องวิวาห์ของเจ้าสาวจำเป็น นิยาย บท 206

บรรยากาศภายในห้องทำงานดูตึงเครียดขึ้นมาทันใด ราวกับสามารถระเบิดได้ทุกเมื่อ

เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนสัมผัสได้ถึงกล้ามเนื้อของสามีตนดูเกร็ง หน้าอกของเขากระเพื่อมอย่างรุนแรงจนทำให้เธอตกใจและหยุดคัดลอกคำตอบนั้น หันหน้าไปมองสามีทันที

แววตาของเขาอันหล่อเหลาและเฉียบคมช่างน่ากลัว ริมฝีปากเม้มแน่น กรามของเขาสั่นเล็กน้อย กำปั้นนั้นก็แน่นราวกับว่าจะเกิดการต่อสู้ในวินาทีต่อมา

สามีของเธอโมโห และโมโหมากทีเดียว

เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนมองไปทางโอเล่ย์ โอเล่ย์ขยิบสายตาให้เธอ เป็นความหมายว่าการทำให้ท่านประธานโกรธไม่ใช่เรื่องดี

“ที่รักคะ คุณเป็นอะไรกัน?” เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนยิ้มขึ้นด้วยใบหน้าอันอ่อนโยน แล้วหันกลับมาโอบคอสามีจุมพิตไปที่ริมฝีปากของเขา เธอยังคงส่งจูบไปด้วยความกลัว “ที่รักคะคุณทำแบบนี้ฉันกลัวจังเลย คุณยิ้มให้ฉันได้ไหม”

เมื่อได้ยินน้ำเสียงอันนุ่มนวลของหญิงสาว แววตาอันแข็งทื่อของเซียวเซิ่งก็อ่อนโยนลงเล็กน้อย เขาก้มศีรษะลงสบตากับแววตาของภรรยาอันอ่อนโยน ราวกับมีกระแสความร้อนไหลผ่าน เขากดใบหน้าของเธอลงบนอ้อมแขนของเขาแล้วกอดเอาไว้แน่น......

จากนั้นชายหนุ่มทั้งสองคนก็เริ่มสนทนากันอย่างจริงจังว่าทำอย่างไรจะให้เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนสอบได้คะแนนสูง

ไม่ว่าจะเป็นการให้คนเปลี่ยนที่นั่งกับเธอ ทำข้อสอบเสร็จแล้วค่อยกลับมา หรือนำยูเอสบีที่มีไวรัสเข้าไปด้วยแล้วดึงข้อสอบออกมา หรือจะดูด สัญญาณในห้องสอบ เมื่อสัญญาณมีปัญหาก็สามารถช่วยเธอทำข้อสอบได้...... ล้วนเต็มไปด้วยแผนการโกงขั้นสูง

เมื่อพบว่าพวกเขาถือว่าเรื่องนี้เป็นเหตุการณ์สำคัญมาก เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนก็รู้สึกอยากจะหัวเราะออกมา แต่ในใจของเธอเต็มไปด้วยความหวานชื่น รอยยิ้มของดวงตานั้นเปล่งประกาย

“อย่าทำแบบนี้เลยค่ะ สอบได้เท่าไรก็เท่านั้นเถอะนะ” เธอไม่อยากจะทำให้พวกเขาต้องมาคิดมากกังวลใจเพราะเรื่องแบบนี้ “ฉันคงไม่ได้โง่ถึงขนาดสอบได้ศูนย์คะแนนมั้งคะ?”

ขณะที่กำลังพูดอยู่ โทรศัพท์มือถือของโอเล่ย์ก็ดังขึ้น เป็นสายของเฉินเหยียนเหยียน “คุณโอเล่ย์คะ ตอนนี้การประเมินเริ่มต้นขึ้นแล้ว ใครที่มาสายถือว่าสละสิทธิ์”

“โอเคครับ” โอเล่ย์วางสายลง “ทุกอย่างมันสายเกินไปแล้วท่านประธาน”

“ฉันไปก่อนนะคะ” เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนลุกขึ้นยืนด้วยความสิ้นหวัง

เซียวเซิ่งคว้าตัวของเธอเอาไว้ไม่อยากจะปล่อยเธอไป “โอเล่ย์ ช่วยหาคนไปกำจัดถังเหวยและเย่ลั่ว สับให้เป็นชิ้นเล็ก ๆ แล้วโยนให้หมากินที”

“ถึงอย่างนั้นก็คงจะมีถังเหวยปรากฏตัวขึ้นอีกร้อยอีกพันคน แม่ของคุณไม่อยากได้ฉันเป็นลูกสะใภ้ และต่อจากนี้เธอก็มีแผนการมากมาย ครั้งนี้เป็นเพียงแค่อาหารเรียกน้ำย่อย” เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนมองเรื่องนี้ออกดี

“ผมจะบ้าตายเพราะเซี่ยจิ่นจริงๆ” เซียวเซิ่งโมโหเสียจนเส้นเลือดปูดโปน คนอื่น ๆ ล้วนสรรเสริญเยินยอเขาขึ้นเทิดทูนสู่ท้องฟ้า คิดว่าเขามีอำนาจเหนือใคร แต่ใครจะรู้เล่าว่าถูกแม่ของเขาบีบบังคับแบบนี้”

“คุณอย่าเป็นห่วงฉันไปเลยค่ะ อย่างมากฉันก็แค่ถูกลดระดับไปเป็นคนทำความสะอาด พนักงานทำความสะอาดที่สวยงามแบบฉัน หาให้ตายก็คงไม่เจอหรอก คุณควรที่จะภูมิใจในตัวฉันสิ” เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนยิ้มขึ้น รอยยิ้มนั้นเบ่งบานดั่งกับดวงจันทร์ ราวกับเธอยอมรับชะตากรรมได้แล้ว

เมื่อเห็นว่าเธอมองโลกในแง่ดีแบบนี้ เซียวเซิ่งก็โล่งใจ ที่จริงไม่ว่าจะสอบอีกกี่รอบก็ไม่เป็นไรหรอก เขาเพียงแค่กลัวว่าภรรยาของเขาจะคิดมากและเสียใจ......

เมื่อมาถึงสนามสอบ เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนจึงได้รู้ว่าสังคมนี้โหดร้ายเพียงใด

การทดสอบในสนามแรกเป็นการทดสอบทางคอมพิวเตอร์ ซึ่งคำถามจะถูกสุ่มเลือก และที่นั่งก็อยู่ห่างกัน จึงไม่สามารถแอบดูคนอื่นได้

เธอหาที่นั่งของเธอแล้วนั่งลง รอเวลาการสอบอย่างกระวนกระวายใจ จู่ ๆ ก็ได้ยินเสียงเคาะโต๊ะ "คุณเหยียน เชิญมานี่หน่อย"

เมื่อเห็นว่าเป็นผู้ช่วยเย่ เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนจึงลุกขึ้นและตามไป

ที่ด้านหลัง ถังเหวยเดินไปตรงหน้าคอมพิวเตอร์แล้วสัมผัสไปที่หน้าจอเบา ๆ ก่อนที่จะจากไปอย่างสงบ ริมฝีปากของเธอเผยอขึ้นแฝงถึงจุดประสงค์ร้ายกาจ......

“ผู้ช่วยเย่ มีเรื่องอะไรหรือเปล่าคะ?”

เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนเอ่ยถาม เมื่อพบว่าภายในห้องนั้นมีเพียงเธอและเย่ลั่วแค่สองคน เธอจึงจงใจยิ้มขึ้นอย่างเป็นมิตร “ได้ยินมาว่าคุณเป็นป้าของเย่เฟิง ที่จริงฉันควรที่จะเรียกคุณว่าคุณป้า เย่เฟิงสนิทกับลูกชายของฉันและหลานมากเลย”

“เธอไม่ต้องมาทำเป็นตีสนิทฉัน” ใบหน้าของผู้ช่วยแหย่ดูเคร่งขรึม น้ำเสียงนั้นก็เฉียบคม “เรื่องการสแกนบัตรตอนเช้าวันนี้ฉันต้องขอโทษด้วย แต่การที่ทำตัวออดอ้อนต่อหน้าผู้ชายในบริษัท นับว่าเป็นข้อห้าม เธอรู้หรือเปล่า?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เรื่องวิวาห์ของเจ้าสาวจำเป็น