เรื่องวิวาห์ของเจ้าสาวจำเป็น นิยาย บท 209

การที่มีจิตใจเจ้าเล่ห์นั้นช่างน่าขยะแขยงโดยไม่ต้องสงสัย เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนจึงทบทวนตนเองดู และพบว่ามโนธรรมของเธอก็ชัดเจนดี

การที่เธอแสดงท่าทีที่ดีต่อเย่ลั่ว ไม่ได้ต้องการประจบประแจง ให้หล่อนไปเอ่ยชมตนเองต่อหน้าเซี่ยจิ่น แต่นั่นเป็นเพราะว่าหล่อนคือป้าของเย่เฟิง

ต่อให้รู้ว่าจอแสดงผลของตนเองถูกพวกหล่อนลงไม้ลงมือดัดแปลง แต่เธอก็ไม่ได้หาเรื่องวุ่นวาย ในตอนสุดท้ายที่เธอสร้างเรื่องขึ้นนั้นก็เป็นเพราะความดื้อรั้นของถังเหวย

นี่เรียกว่าเจ้าเล่ห์เหรอ?

จากการยั่วยุของผู้ช่วยเย่ เซี่ยจิ่นคงจะเกลียดชังเธอมากขึ้นสินะ เฮ้อ......

บริเวณไม่ไกลออกไปนัก ประตูลิฟต์ถูกเปิดออก ร่างของใครคนหนึ่งสูงใหญ่กำยำตรงออกมาอย่างรวดเร็วแล้วชะงักลง แววตาลึกล้ำของเขาจับจ้องไปที่ร่างของเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยน

หากเซียวเซิ่งรู้ว่าภรรยาของเขากำลังครุ่นคิดว่าตนเป็นคนเจ้าเล่ห์หรือไม่ เขาคงจะต้องหัวเราะออกมาเสียงดังอย่างแน่นอน ระดับการศึกษานั้นเกี่ยวข้องอะไรกับการใช้กลอุบายกัน?

เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนหายใจออกมาและไม่ได้เคาะประตู เธอเดินตรงเข้าไปข้างใน

ผู้ช่วยเย่กำลังนั่งทำสมาธิ เมื่อพบว่ามีคนเข้ามาโดยไม่ได้เคาะประตู เธอก็ขมวดคิ้วขึ้นกำลังจะโมโห แต่เมื่อพบว่าเป็นเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยน เธอก็ฝืนยิ้มอย่างเป็นมิตรครั้งแรก

“อ้าวเสี่ยวเนี่ยน ฉันกำลังอยากจะคุยกับเธอพอดี นั่งก่อนสิ”

“ไม่จำเป็นหรอกค่ะ ฉันจะพูดแค่สองสามประโยคก็ไปแล้ว”

“เดี๋ยวก่อน” ผู้ช่วยเย่ลุกขึ้นยืนแล้วเดินผ่านหน้าเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยน เปิดประตูมองซ้ายมองขวา เมื่อเห็นว่าไม่มีใครอยู่ที่นั่นเธอจึงล็อกประตูแล้วกลับมานั่งลง “พูดได้”

เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนจ้องไปที่ดวงตาของผู้ช่วยเย่แล้วเอ่ยถามอย่างเคร่งขรึมว่า “น้ำยาที่ฉีดไปบนหน้าจอ คุณเป็นคนอนุญาตอย่างงั้นเหรอ?”

ผู้ช่วยเย่ชะงักลงทันที เธอเข้าใจได้ว่าทำไมเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนถึงสอบได้ศูนย์คะแนนแล้ว หรือเป็นเพราะถังเหวย......

เมื่อเห็นแววตาสีหน้าของเธอดูแปลกไปแต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธ เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนก็รู้สึกไม่พอใจและเศร้าใจเล็กน้อย มือที่กำเอาไว้ของเธอสั่นคลอน “ลั่วเย่ ทำไมคุณถึงทำตัวแบบนี้ เซี่ยจิ่นบอกแล้วว่าสักวันหนึ่งเธอจะยอมรับฉัน เมื่อถึงวันนั้นคุณจะไม่รู้สึกทำตัวไม่ถูกเหรอ คุณทำร้ายฉันให้ฉันสอบได้ 0 คะแนน คิดว่าจะสามารถขับไล่ฉันให้ไปจากข้างกายเซียวเซิ่งได้เหรอคะ คุณไร้เดียงสาเกินไปแล้ว”

“เธอว่าอะไรนะ” เมื่อผู้ช่วยเย่เห็นว่าเธอไร้เหตุผลแบบนี้ ก็ทำใบหน้าเคร่งขรึม มือที่วางอยู่บนโต๊ะตบลงเสียงดัง “ใครทำให้เธอสอบได้ 0 คะแนนกัน ความรู้ของเธอระดับไหนควรจะรู้ตัวเองดี จะสอบอีกครั้งตอนนี้หรือไม่? ถ้าเธอสอบผ่านฉันจะเก็บของออกจากที่นี่ทันที”

เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนชะงักลง มือที่กำแน่นก็ผ่อนคลาย ใช่แล้ว ต่อให้เธอทำอีกครั้งเธอก็อาจไม่ผ่าน

ที่ด้านนอกประตูเมื่อเซียวเซิ่งเห็นว่าภรรยาของตนตกตะลึงจนพูดไม่ออกเพราะคำของฝ่ายตรงข้าม แววตาอาฆาตปรากฏขึ้นในดวงตาของเขาแล้วถอยหลังออกไปก้าวหนึ่ง เขายกขาเรียวยาวของเขาขึ้นแล้วทำท่าทางเตะมันออกไป

“ฉันมีเรื่องอยากจะคุยกับแม่สามี คุณช่วยอัดเสียงของฉันแล้วส่งไปให้เจ้านายคุณหน่อยได้ไหม?” เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนพูดขึ้น

ร่างของเซียวเซิ่งราวกับถูกกดปุ่มหยุดชั่วคราว แววตาของเขาเผยความประหลาดใจ ผ่านเข้ามา

ภรรยาของเขาจะพูดอะไรกับแม่?

“ก็ได้ เชิญพูด” หลังจากที่ครุ่นคิดอยู่สองสามวินาที ผู้ช่วยเย่ก็มองไปทางเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยน “แต่ถ้าเธอต้องการจะร้องขอความเมตตาฉันคงไม่ส่งคำพูดนี้ไปให้ คุณนายจะไม่ยอมรับคำร้องขอจากเธอแน่นอน ส่งไปก็ไร้ประโยชน์”

“วางใจเถอะค่ะ ฉันไม่เคยร้องขอใครนอกจากสามีของฉัน” เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนมีแววตาที่แน่วแน่ กลิ่นอายของความเย่อหยิ่งเผยออกมาจากกระดูกดำ ราวกับดอกกุหลาบที่เบ่งบาน ไม่ว่าใครก็ไม่อาจจะดูถูกเหยียดหยามได้

“ตู้ด” ผู้ช่วยแยกกดปุ่มบันทึกเสียง

น้ำเสียงของเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนสั่นคลอนเล็กน้อย “ชีวิตนี้ฉันจะไม่มีวันไปจากเซียวเซิ่งอย่างแน่นอนนอกเสียจากฉันตาย ฉันจะเป็นเช่นปลิงอยู่ติดกับเขาไปตลอดชีวิต และว่ายน้ำไปยังหัวใจของเขา หยั่งรากลงไปในนั้น และใช้เลือดของเขาในการดำรงชีวิต ใช้เนื้อของเขาเป็นที่อยู่อาศัย พร้อมจะตายไปด้วยกัน จะไม่แยกจากกันทั้งนั้น ถ้าต้องการจะให้ฉันแยกออกจากเขา มีวิธีเดียวนั้นก็......”

“หยุด” สีหน้าของผู้ช่วยเย่ดูเปลี่ยนไป เธอกดปุ่มหยุดทันที

แม่หนูคนนี้ช่างกล้าพูดจริง ๆ ถ้าคุณนายได้ยินคงจะโมโหตายน่ะสิ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เรื่องวิวาห์ของเจ้าสาวจำเป็น