“คุณเอี๋ยน เธอคงจะรู้ตัวเองดีสินะ”
เมื่อเห็นว่าเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนนิ่งเงียบไป น้ำเสียงของเซี่ยจิ่นก็ดูอ่อนลงเล็กน้อย “ตระกูลเซียวของเราเป็นตระกูลมั่งคั่งใหญ่โตมีชื่อเสียง ฉันต้องการที่จะหาลูกสะใภ้บริสุทธิ์สะอาดสะอ้านให้กับลูกชายฉัน ข้อกำหนดนี้คงไม่มากเกินไปใช่ไหม ส่วนเธอฉันได้ยินมาว่าตอนม.ต้นก็มีความสัมพันธ์กับผู้ชาย......”
“นั่นมันไม่ใช่เรื่องจริงค่ะ” เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนตัดสินใจจะเปิดใจคุยกับแม่สามี “ครั้งแรกของฉันมันเกิดขึ้นเมื่อสี่ปีก่อน......”
“ฉันไม่สนใจ” เซี่ยจิ่นพูดขึ้นขัดเธอ “ตอนนี้ฉันเพียงอยากขอให้เธอช่วยปล่อยลูกชายของฉันไป อย่าได้ทำร้ายเขา หากว่าพ่อของเขารู้เรื่องนี้เข้า ความสัมพันธ์ระหว่างพ่อลูกคงจะต้องแย่ลงกว่าเดิม”
เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนอดไม่ได้ที่จะรู้สึกเศร้าใจ เธอนิ่งเงียบไปสองสามวินาทีก่อนจะตอบด้วยน้ำเสียงบางเบาว่า “แม่คะ หากว่าแม่พูดเรื่องนี้กับฉันก่อนที่ฉันจะแต่งงานกับเซียวเซิ่ง บางทีฉันอาจจะไปจากเขา แต่ตอนนี้ฉันทำไม่ได้ แม่ลองเซียวเซิ่งออกไปจากชีวิตฉันเป็นยังไงล่ะคะ ถ้าเขายินดีจะลงนามหย่ากับฉัน ฉันก็จะไม่รั้งเขาเอาไว้”
“ง่ายขนาดนั้นเชียวหรือ?” เซี่ยจิ่นขมวดคิ้วเข้าหากัน “แล้วปลิงดูดเลือดของเธอเมื่อครู่ที่พูด คงเป็นเพียงแค่ลมปากสินะ”
“ไม่ค่ะ แม้ว่าตัวฉันจะไปจากเขาแล้วแต่ฉันจะอยู่ในหัวใจของเขาตลอดไป อยู่ในจิตวิญญาณเขาเสมอ” ดวงตาของเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนแดงเรื่อ “ไม่ว่าจากนี้ไปเขาจะแต่งงานกับใคร เขาจะไม่มีความสุขอย่างแน่นอน และจะหดหู่ไปตลอดชีวิต หรือบางทีอาจจะยอมอยู่คนเดียวไปตลอด ถ้าเป็นแบบนี้คุณยังยืนยันที่จะให้ฉันไปจากเขาไหม?”
“เธอประเมินตัวเองสูงไปแล้วล่ะ” เซี่ยจิ่นเผยความไม่พึงพอใจออกมา “ฉันได้ยินมาว่าเธอก็มีลูกชาย ถ้าลูกชายของเธอถูกผู้หญิงสกปรกเข้ามาพัวพันแบบนี้ เธอจะรู้สึกยังไง?”
“ถ้าลูกชายของฉันพบเข้ากับรักแท้ ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงแบบไหน เพียงแค่เขาชอบฉันก็จะเปิดใจยอมรับมาเป็นลูกสะใภ้ ฉันจะไม่ใช้ชื่อเสียงและผลประโยชน์ของตระกูลไปทำให้เขาต้องมีชีวิตที่ยากลำบาก ขอเพียงแค่เขามีความสุข......”
“นั่นเป็นเพราะว่าตระกูลของเธอไม่ได้มีชื่อเสียงอะไร ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องรักษาความมั่นคงเอาไว้” เซี่ยจิ่นพูดขึ้นขัดจังหวะเธอ น้ำเสียงนั้นเย็นชาไร้ความปรานี “ฉันขอเอ่ยเตือนเธอเป็นครั้งสุดท้ายนะ อย่ามาพัวพันกับลูกชายฉันอีก ไม่ว่าจะเป็นร่างกายหรือจิตใจ ไม่อย่างนั้นอย่าหาว่าฉันใจร้าย”
“ฉันยังคงยืนกรานคำเดิม ให้เขาไปจากฉันก่อนนะคะ”
“เขายังลิ้มรสความแปลกใหม่จากเธอไม่จบไม่เบื่อ จะยอมไปจากเธอง่าย ๆ ได้ยังไง” เมื่อพบว่าเธอใจแข็ง ใบหน้าของเซี่ยจิ่นก็เต็มไปด้วยความไม่พึงพอใจ “เธออายุน้อยยังไม่เข้าใจหรอก ผู้ชายมักจะหยิบก้อนเนื้อขึ้นมากิน ถ้าวันไหนเบื่อแล้วก็จะโยนทิ้งไป เธออยากจะให้เขาโยนมันทิ้งหลังจากที่เล่นสนุกจนเบื่อแล้วเหรอ?”
“ถ้าอย่างนั้นก็ปล่อยให้เขาเล่นจนเบื่อไปเถอะค่ะ” เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนหัวเราะขึ้นอย่างขมขื่น “ลูกชายของคุณมีอำนาจเหนือจักรพรรดิและเลือดเย็นราวกับปีศาจ ตอนแรกฉันปฏิเสธไม่รับรักเขา เขาโยนฉันลงไปในบ่อจระเข้ให้จระเข้กินฉัน คุณลองคิดดู ว่าฉันกล้าจะไปจากเขาเหรอ หากฉันถูกจับกลับมาได้ฉันจะมีชีวิตต่ออย่างไร”
เซี่ยจิ่นไม่ชื่นชอบให้ลูกชายของตนถูกว่าปฏิบัติกับเธอเหมือนสัตว์ร้าย จึงเอ่ยถามอย่างเย็นชา “ตามที่เธอพูด ลูกชายของฉันบีบบังคับเธอเหรอ?”
“ใช่ค่ะ” เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนพยักหน้า “เขาเป็นคนยังไง มีข้อด้อยหรือเปล่า คุณน่าจะรู้ดีที่สุดนะ”
ข้อด้อย?
หัวใจของเซี่ยจิ่นเต้นไม่เป็นจังหวะ เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนคนนี้คิดอะไรอยู่กันแน่ หล่อนรู้เรื่องของอานเสี่ยวถางเหรอ?
ไม่สิ เรื่องนี้แม้แต่เซียวเซิ่งเองก็ยังไม่รู้
เธอรีบตั้งสติอย่างรวดเร็วแล้วพูดด้วยความเฉยเมยว่า “ใช่ ฉันรู้ดี เขาเพียงแค่ใช้เธอเป็นเครื่องมือในการจัดการความต้องการทางร่างกาย โอเคฉันจะชดเชย สำหรับการกระทำของเขานี้เอง ต้องการเท่าไหร่บอกฉันมา”
“ถ้าแม่อยากให้เงินค่าขนมกับฉัน ฉันก็ยินดีจะรับมันไว้นะคะ” เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนยังคงปากหวานดังเดิม รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าของเธอ “แต่ว่าเซียวเซิ่งรักฉันจากใจจริง ฉันจะทำให้เขาปวดใจไม่ได้ สมบัติล้ำค่าไม่อาจประเมินคุณค่าได้ ไม่ง่ายเลยกว่าจะหาคนที่รักได้จากใจจริง ฉันต้องทะนุถนอมหวงแหนเขาเอาไว้ อีกอย่างเราสองคนเป็นสามีภรรยากันถูกต้องตามกฎหมาย การบรรเทาความต้องการทางร่างกายของเขาเป็นหน้าที่ฉัน เช่นเดียวกับที่แม่ปฏิบัติกับพ่อสามีฉัน มีอะไรให้น่าอายกันคะ?”
คารมของเธอคมคายจริง พูดได้อย่างตรงไปตรงมา จะว่าไปแล้วทุกคนก็ยึดติดอยู่กับอำนาจไม่ใช่เหรอ ต้องการแต่งงานกับคนร่ำรวยให้กลายเป็นคุณนาย
สีหน้าของเซี่ยจิ่นดูย่ำแย่ลงเรื่อย ๆ “คุณเอี๋ยน พวกเราคุยกันด้วยความสามารถของตนเอง อย่าเอาเซียวเซิ่งเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย และทำลายความสัมพันธ์ระหว่างสองแม่ลูกเรา”
เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนเข้าใจความหมายของเซี่ยจิ่นดี ตอนนี้ทุกคนควรฉีกหน้ากากความสุภาพเรียบร้อยของตนเองออก อย่าได้เสแสร้งอีกเลยปล่อยให้เป็นอิสระเถอะ
“ได้ค่ะ ฉันก็ไม่อยากจะทำให้เซียวเซิ่งตกอยู่ในภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก เขาฉลาดหลักแหลมขนาดนั้น ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ปิดบังเขาไม่อยู่หรอก”
“ถ้าเธอไม่พูดมากก็ไม่เป็นไร” เซี่ยจิ่นเอ่ยเตือนแล้ววางสายลง
เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนรู้สึกว่าร่างกายของเธอถูกดึงดูดพลังงานออกไปจนหมดไม่เหลือแม้แต่เรี่ยวแรง
เดิมทีเธอตั้งใจจะปฏิบัติต่อเซี่ยจิ่นด้วยท่าทีอันอ่อนโยน เพราะถึงอย่างไรเซี่ยจิ่นก็เป็นผู้ให้กำเนิดเซียวเซิ่งมา และสนับสนุนเซียวเซิ่งอย่างไม่มีเงื่อนไข
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เรื่องวิวาห์ของเจ้าสาวจำเป็น