เรื่องวิวาห์ของเจ้าสาวจำเป็น นิยาย บท 221

“7 กรกฎาคม แดดจัด จู่ๆ หิมะตกหนัก...”

เสียงริงโทนโทรศัพท์ขัดความเร่าร้อนภายในรถ เซียวเซิ่งถอนจูบภรรยา ปลายนิ้วลูบไล้ริมฝีปากของเธอ เขาเช็ดมันอย่างไม่เต็มใจ

“อูเจินจูมาแล้ว ฉันต้องไปแล้ว” เธอเห็นเงาเพื่อนรักแต่ไกล เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนตัดสายโทรศัพท์ แล้วเปิดประตูลงจากรถโดยตรง แม้แต่จูบลาก็ไม่มี

นี่ทำให้เซียวเซิ่งเหมือนถูกมองข้าม เขาไม่อยากจะแยกกับเธอแม้แต่วินาทีเดียว ใครจะไปรู้ว่าเธอกลับปลดปล่อย ปัดตูดไม่รับผิดชอบ

เขาก้มตัวไปข้างหน้า เซียวเซิ่งจับแขนภรรยาอีกครั้ง “ไม่ทานอาหารเย็นกับฉันเหรอ?”

“ใช่ พ่อแม่ของเจินจูดีกับฉันมาก จะต้องเลี้ยงต้อนรับพวกเขา” เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนมองสามีอย่างรู้สึกผิด “เดิมดีพานายไปด้วยได้ แต่ความสัมพันธ์ของพวกเรายังไม่ได้เปิดเผยต่อสาธารณะ ดังนั้น...”

“งั้นอย่างน้อยก็จูบลาหน่อยไหม เธอเป็นภรรยายังไง ถึงได้ไม่รู้เรื่องนี้?” เซียวเซิ่งพูดจุดบกพร่อง

“เอ่อ..” เพิ่งจูบไปไม่ใช่เหรอ ปากบวมหมดแล้ว ในบ้านมีผู้ชายที่ไม่รู้จักพอ ชีวิตจะดำเนินต่อไปยังไงนะ?

กู้ซีหนิงหลบอยู่ด้านหลังต้นไม้ต้นหนึ่ง เธอแอบสังเกตการณ์กระทำทุกอย่างของเซียวเซิ่ง จู่ๆ เห็นเขาประคองหน้าสวยอ่อนนุ่มของภรรยา แล้วจูบอย่างเร่าร้อน

“อ๊ะ...” จูบครั้งนี้เหมือนกับจูบลงบนใบหน้าของเธอ กู้ซีหนิงอุทานออกมาแล้วจับใบหน้า คลื่นความร้อนพุ่งเข้าภายในร่างกาย “เซียวเซิ่ง ฉันรักพี่ รักพี่นะ...”

รักที่ลึกซึ้ง เธอถอนตัวออกมาไม่ได้แล้ว

กู้ซีหนิงไม่เคยคิดทำร้ายใครมาก่อน แต่ตอนนี้ เธอหวังเป็นอย่างมากว่าภรรยาของเซียวเซิ่งจะเกิดอุบัติเหตุตายไป แบบนั้นเซียวเซิ่งก็เป็นของเธอแล้ว!

ก๊อก กระจกรถถูกเคาะ

อูเจินจูเป็นคนอารมณ์ร้อน ไม่สนใจคู่หนุ่มสาวที่ยังพะเน้าพะนอกันอยู่ แล้วพูดประณาม “ทำไมเหมือนลาตายจากกัน? ช่วยรักษาความรู้สึกของคนโสดหน่อยได้ไหม?”

เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนหน้าแดงลงจากรถ แล้วลากอูเจินจูวิ่งออกไปไกล กระโปรงโบกพริ้วสะท้อนในดวงตาของเซียวเซิ่ง มันน่าหลงใหลมาก

เขาหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้น ถ่ายรูปภาพสวยงามของภรรยาเอาไว้...

ถนนคนเดินจงโจว ทิวทัศน์สวยงาม มีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก

หลังจากที่กู้ซีหนิงมองดูพี่เซิ่งจากไป เธอก็รีบวิ่งตามเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยน ตามเธอเข้าไปในร้านเสื้อผ้าแฟชั่นซิ่วจิง

“ยินดีต้อนรับค่ะ ฉันคือดีไซเนอร์จ้าวซิ่วจิง ดีใจที่ได้บริการคุณค่ะ” ดีไซเนอร์หญิงวัยกลางคนที่แต่งตัวทันสมัยเข้ามาทักทาย ในตอนที่เห็นเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยน เธอตกตะลึงเล็กน้อย “เชิญนั่งทางนี้ค่ะ”

“ขอบคุณค่ะ” หลังจากนั่งลง เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนนำกระดาษร่างที่ตัวเองวาดยื่นให้ดีไซเนอร์” นี่คือรูปแบบที่ฉันออกแบบ คุณดูหน่อยว่าช่วยตัดออกมาให้ฉันได้ไหมคะ?”

“ค่ะ” ในตอนที่เห็นกระดาษ ดีไซเนอร์ดวงตาเป็นประกาย “ออกแบบได้ยอดเยี่ยมมากเลย ดูออกได้ว่าคุณมีพื้นฐานที่ลึกซึ้ง หรือว่าจะเป็นคนในวงการ?”

“ไม่ใช่ค่ะ ฉันทำเวดดิ้งสตูดิโอค่ะ” เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนยิ้มถ่อมตัว

“คนในวงการทำไม่ได้ คนนอกวงการกลับมืออาชีพ ความสามารถของคุณทำให้ฉันนับถือ” ดีไซเนอร์ชื่นชมมันอย่างละเอียดถี่ถ้วน จากนั้นวางกระดาษลง มองไปทางเธออย่างสดใส “ฉันสามารถตัดตามแบบของคุณได้ คิดเพียงแค่คิดค่าวัสดุและค่าแรง”

“ขอบคุณค่ะ”

“เพียงแต่ว่า ถ้าหากคุณสามารถยกแบบร่างให้พวกเรา—”

“ไม่ค่ะ ฉันไม่วางแผนที่จะยกให้คนอื่น” เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนออกแบบเสื้อผ้าตัวเอง ไม่ได้เป็นเพราะเอาไว้ขาย “เนื้อผ้าช่วยใช้ไหมหม่อนเป็นวัสดุหลัก สีฟ้าของน้ำเป็นหลัก

“ฉันคิดว่าชุดนี้สีชมพูจะสวยกว่านะคะ ผิวหนังของคุณขาวผ่องสดใส สามารถครอบงำสีสันอันงดงามของดอกซากุระได้อย่างเต็มที่” ดีไซเนอร์แนะนำได้ถูกจุด

เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนพยักหน้าอย่างเห็นด้วย “คุณพูดได้ถูกต้องมากค่ะ แต่เป็นเพราะว่าฉันจะเข้าร่วมงานแต่งงาน ดังนั้นสีชมพูไม่ค่อยเหมาะสม กลัวว่าจะแย่งซีนเจ้าสาว”

กู้ซีหนิงที่นั่งอยู่ไม่ไกลได้ยินคำพูดนี้ เธอใจสั่นเล็กน้อย หรือว่าภรรยาของเซียวเซิ่งจะเข้าร่วมงานแต่งงานของเธอเหรอ? ต้องใช่แน่นอน!

“คุณเป็นคนพิถีพิถันจริงๆ” ดีไซเนอร์ยิ้มอย่างชมเชย “บางคนเพื่อที่จะออกหน้าออกตา ใส่แม้กระทั่งชุดแต่งงานไปร่วมงานแต่งงานของคนอื่น”

“ไม่จำเป็นหรอกมั้งคะ สวยไม่สวย คนของตัวเองรู้ก็พอแล้ว” เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนพูด

“ไม่ผิด โดยเฉพาะมีแค่สามีรู้ก็พอ” จ้าวซิ่วจิงพูดหยอกล้อ “มีผู้หญิงบางคนอื่นต่อหน้าคนอื่นก็สวยดี แต่เมื่อถอดเสื้อผ้าออกรูปแบบเดิมก็โล่งแจ้ง ไม่แปลกใจที่สามีจะนอกใจ สามีของคุณต้องรักคุณมากแน่เลยสินะคะ?

“พอใช้ได้ค่ะ” เมื่อนึกถึงความรักที่เซียวเซิ่งมีต่อตัวเอง เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนก็รู้สึกอบอุ่น

เธอคิดว่าตัวเองไม่ถือว่าสวย แต่สามีคิดว่าเธอสวย แบบนี้ก็เพียงพอแล้ว สำหรับความคิดของคนนอกเธอบังคับไม่ได้ และก็ไม่ใส่ใจ

“คุณเอี๋ยนคะ ไม่ทราบว่าคุณรู้จักผู้หญิงแซ่ม้งไหมคะ อายุราวๆ สี่ห้าสิบ” ในตอนที่เห็นเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนแวบแรก จ้าวซิ่วจิงรู้สึกว่าเธอคล้ายกับเพื่อนสนิทในวัยเด็กของตัวเองชื่อม้งเสี่ยวเฟิ่ง

ตอนนั้น ครอบครัวของม้งเสี่ยวเฟิ่งตกอยู่ในความลำบาก จ้าวซิ่วจิงเคยตามหาเธอไปทั่ว แต่ก็หาไม่พบ และก็ไม่รู้ว่ายังอยู่บนโลกไหม...

“แซ่ม้ง? สี่ห้าสิบปี...” เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วส่ายหน้า “น่าจะไม่รู้จักนะคะ เฮ้ เจินจู พวกเรารู้จักคนแซ่ม้งบ้างไหม?”

อูเจินจูเอนพิงอยู่บนโซฟาอย่างเอื่อยเฉื่อย เธอประคองโทรศัพท์เล่นเกม เมื่อได้ยินก็ยังไม่เงยหน้า “ไม่รู้จักนะ ตั้งแต่เล็กจนโต เคยเจอคนที่แซ่ม้งไม่กี่คน คนชนเผ่าม้งถึงจะแซ่ม้งหรือเปล่า?”

“คิกคิก...” จ้าวซิ่วจิงถูกทำให้หัวเราะ “ไม่ใช่ว่าคนชนเผ่าม้งถึงจะแซ่ม้ง แต่ว่าเพื่อนคนนั้นของฉันเป็นคนชนเผ่าม้งจริงๆ” แถมยังเป็นลูกสาวของหัวหน้าเผ่าม้งกู่!

“ดีไซเนอร์จ้าวคะ คุณทำไมถึงถามแบบนี้คะ?” ไม่รู้ทำไม เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนชอบพูดคุยกับจ้าวซิ่วจิงคนนี้

“หน้าตาของคุณกับเพื่อนของฉันคล้ายกันมาก แวบแรกฉันคิดว่าคุณเป็นลูกสาวของเธอ” จ้าวซิ่วจิงเป็นนครตรงไปตรงมา และก็ไม่ได้ปิดบังเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยน “บางทีอาจจะเป็นความเข้าใจผิดของฉัน คนสวยหน้าตาคล้ายกันทั้งนั้น ผู้หญิงขี้เหร่ถึงจะขี้เหร่ในแบบของตัวเอง”

“อ่อค่ะ คุณแม่ของฉันไม่ได้แซ่ม้ง อีกอย่างเสียชีวิตไปตั้งนานแล้วค่ะ” เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนพูดอย่างหดหู่

“ขอประทานโทษค่ะ” จ้าวซิ่วจิงรีบเปลี่ยนเรื่อง “คุณมีเงื่อนไขเกี่ยวกับชุดราตรีนี้อีกไหมคะ?”

เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนพูดรายละเอียดความต้องการคร่าวๆ อีกเล็กน้อย แล้วจ่ายเงินมัดจำ จากนั้นก็ออกจากร้านเสื้อผ้ากับอูเจินจู

มองดูแผ่นหลังของเธอ กู้ซีหนิงหรี่ตาในดวงตาเผยความแปลกประหลาด เธอชักเงินก้อนหนึ่งออกมาหนีบในนิตยสาร แล้วผลักให้ดีไซเนอร์ที่ต้อนรับเธอ “ช่วยฉันเอาแบบของผู้หญิงคนนั้นเมื่อสักครู่มาให้ฉันได้ไหมคะ?”

ดีไซเนอร์เหลือบมองนิตยสาร ตรงกลางมีกองหน้า อย่างน้อยมีประมาณห้าพันหยวน เท่ากับเงินเดือนของเธอหนึ่งเดิน แต่ว่า—

“ขอประทานโทษนะคะ แบบร่างลูกค้าเป็นคนออกแบบ ถ้าหากเป็นของพวกเรา สามารถให้คุณดูได้ตามใจชอบค่ะ”

“ลูกค้าคนนั้นไม่ได้เอ่ยว่าต้องปิดเป็นความลับ แค่ดูน่าจะได้นะ คุณเข้าไปถ่ายรูปก็พอค่ะ” กู้ซีหนิงปลุกเร้าเธอ

“ฉันรับความเสี่ยงนี้ไม่ได้ค่ะ” ดีไซเนอร์ดันนิตยสารกลับไป ไม่กล้ารับเงินนี้

“แบบนี้พอแล้วยัง?” กู้ซีหนิงยัดธนบัตรก้อนหนึ่งในนิตยสารอีก แล้วดันออกไป

หนึ่งหมื่นหยวน

ใครจะไม่ชอบเงิน?​ ดีไซเนอร์ฝืนรับนิตยสาร แล้วเดินไปทางห้องทำงาน ส่วนกู้ซีหนิงก็กลับไปที่รถของตัวเอง ครึ่งนาทีต่อมา โทรศัพท์ของเธอมีรูปภาพหนึ่งส่งมา

“สวยมากจริงๆ ด้วย” มองแค่แวบเดียว กู้ซีหนิงก็ถูกดึงดูดอย่างลึกซึ้ง

ชุดราตรีนี้รูปแบบเรียบง่าย เข้าเอวแน่น ชายกระโปรงมีความโค้งคล้ายกลับคลื่น คอเสื้อที่ออกแบบเป็นเชือกแขวนคอโดดเด่น ภายใต้ความสง่างามแฝงไปด้วยความเซ็กซี่ เห็นได้ความผู้ออกแบบนั้นฉลาดหลักแหลม

ภรรยาของเซียวเซิ่งมีความสามารถอย่างที่คิด ชุดราตรีชุดนี้เป็นของเธอแล้ว

กู้ซีหนิงโทรศัพท์หาดีไซเนอร์ “คุณออกมาหน่อย ฉันอยู่ที่ลานจอดรถทางด้านทิศตะวันตก รถปอร์เช่สีแดงคันหนึ่ง ป้ายทะเบียนคือ...”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เรื่องวิวาห์ของเจ้าสาวจำเป็น