บ่ายสามโมงกว่า อูเจินจู เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนทั้งสองคนมาถึงเทอร์มินัล 1 ของสนามบิน
พ่อแม่ของอูเจินจูมาถึงตอนสี่โมงเย็น เดาว่าสี่ดมงครึ่งถึงจะออกมาได้ ตอนนี้พวกเธอทำได้เพียงรออย่างใจเย็น
เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนเพิ่งนั่งลง จู่ๆ รู้สึกว่าบรรยากาศโดยรอบแปลกประหลาด ทุกคนมองไปในทิศทางเดียวโดยตั้งใจและไม่ตั้งใจ แถมยังวิพากษ์วิจารณ์อะไรบางอย่างเสียงเบา
“นี่ เซี่ยจิ่นสวยจริงๆ สมกับที่เป็นสตรีหมายเลข 1 แห่งจงโจว ใกล้ห้าสิบแล้ว ยังเหมือนกับสามสิบอยู่เลย”
“เสียดายที่ถูกพี่สาวของสามีทารุณ ตามหลักไม่อ่อนข้อไปกว่าตระกูลเซียว ทั้งสองตระกูลถือว่าเป็นกิ่งทองใบหยกกัน ไม่รู้ว่าเธอกลัวอะไรพี่สาวของสามี?”
“เดาว่ามีจุดอ่อนอยู่ในมือพี่สาวสามี ถึงอย่างไรในสังคมชั้นสูงของจงโจวมีเรื่องเล่าว่า เพียงแค่เซียวจุนหรูกลับมา เซี่ยจิ่นต้องรอที่สนามบินทั้งคืน”
เซี่ยจิ่น?
ได้ยินชื่อนี้เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนอุ้งอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็มองตามสายตาของทุกคนไป เธอเห็นเพียงผู้หญิงท่าทางสง่างามคนหนึ่งนั่งอยู่ตรงนั้น
ถึงแม้จะสวมแว่นดำปิดหน้า กลับไม่สามารถซ่อนความงามและความสง่างามของเธอได้ ท่าทางมีเกียรติโดดเด่น ให้ความรู้สึกแปลกแยกรุนแรงที่เทียบไม่ได้ ไม่ ไม่เข้ากับสภาพแวดล้อมรอบตัวเป็นอย่างมาก
เป็นคุณแม่เซี่ยจิ่นของเซียวเซิ่งจริงๆด้วย
เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนเคยเจอแม่สามีครั้งหนึ่ง ไม่มีทางลืมความสวยงามของเธอไปตลอดชีวิต คนสวยที่สูงศักดิ์แบบนั้น เป็นเหมือนกับที่ผู้คนวิพากษ์วิจารณ์ ว่าจะอยู่ข้ามคืนที่นี่จริงเหรอ?
“เสี่ยวเหนียนหยู เธอดูอะไรอยู่น่ะ?” อูเจินจูเล่นโทรศัพท์ไปด้วยถามไปด้วย
“อ๋อ ไม่มีอะไร ฉันไปห้องน้ำหน่อยนะ” เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนไปร้านค้าข้างๆ ซื้อน้ำโซด่านำเข้าขวดหนึ่งแล้วใส่ในกระเป๋า จากนั้นก็เดินไปทางเก้าอี้แถวที่เซี่ยจิ่นนั่งอยู่...
เธอยังไม่ได้เข้าใกล้ ก็ได้กลิ่นหอมจางๆ ที่แผ่ซ่านมาจากร่างกายของเซี่ยจิ่น
เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนอดขมวดคิ้วไม่ได้ สุภาพสตรีสูงศักดิ์ที่ให้ความสำคัญกับคุณภาพชีวิต กลับต้องรออยู่ที่สนามบินทั้งคืนในสภาพแวดล้อมเสียงดังจ้อกแจ้กจอแจแบบนี้ คนในครอบครัวไม่สนใจเหรอ?
ถ้าหากพวกเขาไม่สนใจ เช่นนั้นเธออยากจะสนสักหน่อย
เพราะว่ารักเซียวเซิ่ง ดังนั้นต่อให้ผู้ใหญ่ไม่ยอมรับสถานะของเธอ เธอก็ยังเห็นตัวเองเป็นลูกสะใภ้ของตระกูลเซียว
“ขอโทษด้วยค่ะ คุณเข้าใกล้ไม่ได้นะคะ” ไม่รู้ว่ามีผู้หญิงคนหนึ่งโผล่มาจากไหน ผู้หญิงรูปร่างสูงใหญ่ น่าจะเป็นบอดี้การ์ดลับของเซี่ยจิ่น
“สวัสดีค่ะ ฉันเป็นลูกสะใภ้ของคุณนายเซียว” เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนพูดเสียงเบา จากนั้นก็หยิบโทรศัพท์มือถือออกมา เปิดอัลบั้มภาพ
ด้านในมีภาพถ่ายคู้ของเธอกับเซียวเซิ่ง สำเนาแสกนทะเบียนสมรส และยังมีรูปภาพสองสามรูปของเซี่ยจิ่น เธอส่งมาจากโทรศัพท์ของเซียวเซิ่ง
บอดี้การ์ดหญิงตรวจสอบหมายเลขทะเบียนสมรส แล้วตรวจสอบเลขบัตรประจำตัวประชาชนของเธอ ถึงได้พยักหน้าให้เธอ “ฉันเสียมารยาทไปหน่อยค่ะ คุณนายน้อย คุณสามารถเข้าไปได้ค่ะ”
“ขอบคุณนะคะ” เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนมองไปทางเซี่ยจิ่น ปลุกความกล้าเดินไปข้างหน้า “คุณแม่ มาอยู่ที่นี่ได้ยังไงคะ?”
จู่ๆ เสียงหวานดังขึ้น เซี่ยจิ่นตกใจ เธอเงยหน้าขึ้นด้วยความประหลาดใจ เห็นใบหน้าเหมือนวิญญาณตามติด
เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนหน้าตาไม่เลว ใบหน้าสะอาดดูสบายตา รอยยิ้มสดใสน่ารัก แต่เธอไม่ชอบ
“เธออย่าเรียกมั่วๆ นะ รอบๆ มีนักข่าว!” เซี่ยจิ่งพูดเตือน จากนั้นก็เงยหน้าขึ้นเล็กน้อย รักษาท่าทางสตรีผู้สูงศักดิ์ที่หยิ่งยโส “คุณผู้หญิงคนนี้ คุณจำผิดคนแล้ว”
“งั้นหนูเรียกเสียงเบาหน่อย” เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนยังยิ้มไม่หุบ เดินไปนั่งลงข้างเธอ แล้วถามอย่างสนิทสนม “คุณแม่ มาที่นี่นานแค่ไหนแล้วคะ? เหนื่อยไหม ดื่มน้ำหน่อยไหมคะ?”
เซี่ยจิ่นขยับไปด้านข้าง หน้าตารังเกียจ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เรื่องวิวาห์ของเจ้าสาวจำเป็น