เรื่องวิวาห์ของเจ้าสาวจำเป็น นิยาย บท 224

เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนถูกตะคอกใส่อย่างงุนงง อีกครั้งที่ได้เห็นความแข็งแกร่งของแม่สามีผู้รำ่รวย “คุณแม่ หนูพูดอะไรผิดเหรอคะ?”

“ครอบครัวเดียวกันพูดอะไรว่ารังแกกัน!” เซี่ยจิ่นพูดสั่งสอนเธอเสียงเย็นชา “การเป็นมนุษย์ต้องคำนึงถึงภาพรวม ฝืนทนการประณามแบกรับหน้าที่สำคัญ คนเจ้าเล่ห์บ้านนอกแบบเธอ ยังวางแผนที่จะแต่งงานเข้าตระกูลร่ำรวย ตายแล้วยังไม่รู้ว่าตายยังไงด้วยซ้ำ!”

คำพูดของเธอรุนแรง น้ำเสียงไม่เป็นมิตร บรรยาศน่ากลัว

เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนแอบเห็นดวงตาคู่สวยภายใต้แว่นกันแดด เต็มไปด้วยความสังหารรุนแรง

การสนทนาพังทลายแล้ว อยู่ต่อไปไม่ได้แล้ว

เธอลุกขึ้นยืน พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “คุณแม่ อันที่จริงหนูมารับคนเป็นเพื่อนเพื่อน จากนั้นเห็นคุณแม่พอดี เรื่องนี้หนูจะไม่บอกเซียวเซิ่ง คุณแม่อย่าโมโหนะคะ หนูไปแล้วค่ะ”

เซี่ยจิ่นโบกมือ แทบอยากจะไล่ผู้หญิงขัดหน้าขัดตาคนนี้ไปเร็วๆ

แต่ที่ทำให้เธอประสาทก็คือ เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนหยุดลงอีก”คุณแม่ ค่ำคืนยาวนานผ่านไปอย่างยากลำบาก หรือว่าเพิ่มเพื่อนกัน กลางดึกหนูคุยและเล่นเกมเป็นเพื่อนคุณแม่ได้นะคะ?”

เพื่อให้เกิดความข้องเกี่ยวกับแม่สามี เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนถือว่าใช้สมองขบคิดอย่างหนักแล้ว เฮ้อ ถ้าหากตัวเองแต่งงานกับผู้ชายธรรมดาๆ จะต้องไม่เปลืองแรงขนาดนี้แน่นอน

“ไม่จำเป็นแล้ว เสพสุขหมดซึ่งความก้าวหน้า” เซี่ยจิ่นปฏิเสธ แล้วแอบแสดงความเยาะเย้ย “สะใภ้ของตระกูลเซียว ในโทรศัพท์ไม่ควรมีแอพโซเชียลและเกม ควรจะมอบเวลาให้กับงานและดูแลสุขภาพของคนในครอบครัว”

เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยน: “...”

อยากจะถามเซี่ยจิ่นจริงๆ ครอบครัวของเธอเป็นสังคมเก่าแก่ ผู้หญิงไม่ได้รับการปลดปล่อย? ถ้าหากเปลี่ยนเป็นคุณหนูตระกูลผู้ดีแต่งงานกับลูกชายของเธอ เธอจะทารุณแบบนี้ไหม?

ขณะที่กำลังเก้ๆ กังๆ เสียงโทรศัพท์ของอูเจินจูดังขึ้น เห็นข้อความของคุณพ่อ เธอรีบลุกขึ้นยืน “เสี่ยวเนี่ยนอยู่ที่ไหน? ไปเถอะ พ่อแม่ฉันออกมาแล้ว”

“มาแล้ว!” เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนหยิบโซดาขวดนั้นออกมาจากกระเป๋า แล้วยื่นไปทางเซี่ยจิ่น “คุณแม่ ครั้งนี้หนูไปแล้วจริงๆ นะคะ”

น้ำขวดนั้นเฉียดโดนแขนของเซี่ยจิ่นโดยไม่ระวัง เธอรีบปัดฝุ่น ท่าทางรังเกียจที่เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนสกปรก

เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนเสียใจอยู่ครู่หนึ่ง วางน้ำโซดาลงบนเก้าอี้ด้านข้าง แล้วหันหลังออกไป

เซี่ยจิ่นปวดหัวจนขมวดคิ้ว เธอมองไปทางน้ำโซดาขวดนั้นโดยไม่ตั้งใจ ในใจไม่รู้ว่าถูกอะไรผันแปร

อันที่จริงเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนมีความรู้สึกนึกคิด สามี ลูกชาย ลูกสาวไม่รู้ความลำบากของเซี่ยจิ่น แต่เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนกลับรู้ แถมพยายามจะหนุนหลังเธอ...

เฮ้อ! ถ้าหากเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนยอมแยกจากเซียวเซิ่ง ตัวเองจะชดใช้ให้เธอ แม้กระทั่งรักเธอ...

“ขอบคุณน้ำของเธอ” ผ่านไปครู่หนึ่ง เซี่ยจิ่นหยิบน้ำโซดาขวดนั้นขึ้นเป็นครั้งแรก เธอเปิดฝาออก แล้วจิบเล็กน้อย

สถานะไม่ยอมรับ ความรู้สึกเหมือนว่ายอมรับแล้วนิดหน่อย เสียดายที่เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนไม่ได้เห็น...

ช่วงห้าโมงกว่า ผู้ช่วยเย่เพิ่งตามมาถึง นำผ้าห่มและสิ่งจำเป็นในชีวิตประจำวันอื่นๆ มาให้เธอ และยังมีกาแฟกับข้าวกล่อง

“คุณนายคะทานข้าวตอนนี้ไหมคะ?”

“ไม่อยากทาน” เซี่ยจิ่นส่ายหน้า แล้วถามอย่างเหนื่อยล้า “ทางด้านเอ็นซี กรุ๊ปจัดการเป็นยังไงบ้างแล้ว?”

“ทุกอย่างพร้อมแล้ว รอแค่โอกาส” ผู้ช่วยเย่พูดเสียงเบา “อันที่จริงฉันคิดว่าเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนไม่เลวนะคะ คุณนาย พวกเราจะต้องกำจัดเธอให้สิ้นซากจริงๆ เหรอคะ?”

“เธอเป็นตายก็ไม่ยอมแยกจากเซียวเซิ่ง ฉันจะทำยังไงได้?” เซี่ยจิ่นกลุ้มใจจนกุมขมับ “ฉันก็ไม่อยากมีความแค้นกับใคร แต่คุยกับตระกูลกงไว้แล้วว่าจะเปลี่ยนลูกสาวมาเป็นลูกสะใภ้ เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนไม่ยอมยกตำแหน่ง ตระกูลกงจะไม่พอใจฉันได้!”

“งั้นต้องเร่งขั้นตอนให้เธอรีบออกไป เพื่อไม่ให้เวลายิ่งยาวนาน อุปสรรคยิ่งมากขึ้น หากเมื่อคุณชายเปิดเผยสถานะของเธอ ก็จะเกิดผลเสียตามมา”

“อืม ให้ถังเหวยไปจัดการเถอะ” เซี่ยจิ่นเหลือบมองผู้ช่วยเย่ “เธอก็อย่าไปเป็นคนชั่วคนนั้น ถึงเวลาเย่เฟิงจะยิ่งโกรธเธอเข้าไปอีก”

“ขอบคุณคุณนายที่เข้าใจค่ะ” ผู้ช่วยเย่พยักหน้าอย่างซาบซึ้ง

ในตอนนี้โทรศัพท์ของเธอดังขึ้น เป็นถังเหวยที่โทรมา “ผู้ช่วยเย่ ฉันวางแผนเรียบร้อยแล้ว สัปดาห์หน้ามีงานราตรีสโมสรที่เอ็นซี กรุ๊ป ถึงเวลาจัดการยัยคนนั้นในงาน”

“เธอตัดสินใจเองเถอะ ฉันจะไม่เข้าร่วมเรื่องนี้ชั่วคราว แค่รับผิดชอบหนุนหลังเธอที่บริษัท” ผู้ช่วยเย่ถอยออกสุดแรง

“ตกลงค่ะ” ถังเหวยรู้สึกว่าตัวเองถูกใช้ให้ปฏิบัติหน้าที่สำคัญ เธออารมณ์ดีมาก ในดวงตาเผยความโหดเหี้ยม

ทุกปีในช่วงเปลี่ยนฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อน เอ็นซี กรุ๊ปจะจัดงานราตรีสโมสรขนาดใหญ่ ถือว่าเป็นงานบันเทิงในบริษัท ในเวลานั้นพนักงานสามารถพาครอบครัวมาเข้าร่วมได้ แน่นอนว่าจะมีการเชิญข้าราชการสำคัญบางคนมาร่วมสนุกสนานกับประชาชนด้วย

ถ้าหากไม่เกิดความผิดพลาด เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนจะถูกส่งลงนรกในวันนั้น ไม่เพียงแค่ไม่มีจุดยืนในจงโจว ทั้งภายในประเทศก็หมดหนทางจะพลิกตัวอีก

หญิงสาวที่ฐานะไร้ค่า เอาความกล้ามาจากไหนที่จะเหนี่ยวเกาะตระกูลร่ำรวยเป็นคุณนายน้อย? น่าขำ!

ถังเหวยครุ่นคิด ถ้าหากครั้งนี้ตัวเองทำสำเร็จ บางทีเซี่ยจิ่นาจะให้เธอเป็นลูกสะใภ้ของตระกูลเซียว ในเมื่อสถานะทางสังคมของเธอสูงกว่าเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนเยอะ

“ถังเหวยคนนั้นพื้นเพมาจากไหน” เซี่ยจิ่นถาม

“คุณนายคะ ฉันเคยตรวจสอบแล้วเธอเป็นลูกสาวคนโตของตระกูลถัง เครื่องใช้ไฟฟ้า เพราะว่ารักใคร่คุณชายของพวกเรา จึงทำงานอยู่ที่เอ็นซี กรุ๊ปสี่ปีกว่าค่ะ”

“ไม่ว่าเธอเป็นใคร หลังจากจัดการเรื่องของเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนเสร็จ ไล่เธอออกทันที คุณสมบัติแย่ ไม่ใช้งานต่อ”

“ค่ะ”

เอสเซอร์ เรสเตอร์รอง เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนกับครอบครัวของอูเจินจูกำลังเพลิดเพลินกับอาหาร

“คุณอาอู คุณน้าคะ อาหารมื้อนี้เพื่อเลี้ยงต้อนรับพวกคุณ ห้ามเกรงใจหนูเด็ดขาดนะคะ” เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนช่วยรินเหล้าให้อูต้าจื้อพ่อของอูเจินจู ดวงตาแฝงไปด้วยรอยยิ้ม

เธอชอบสามีภรรยาคู่นี้มาก เพราะว่าตัวเองชื่อเสียงยุ่งเหยิง ผู้ปกครองส่วนมากไม่ยอมให้ลูกของตัวเองเล่นกับเธอ สามีภรรยาอูต้าจื้อเป็นเพียงคนเดียวที่ไม่รังเกียจเธอ

“ขอบคุณเสี่ยวเนี่ยนของพวกเรา” สองสามีภรรยาพูดขึ้น หน้าตายิ้มแย้ม เห็นเสี่ยวเนี่ยนเป็นลูกสาวตัวเอง

“ใช่ค่ะพ่อแม่ พ่อกับแม่กินเต็มที่ ไม่ต้องประหยัดเงินเสี่ยวเนี่ยน” อูเจินจูดื่มเหล้าดี แล้วโอบเสี่ยวเนี่ยนพูดอย่างเบิกบาน “เสี่ยวเหนียนหยูตอนนี้แต่งงานเข้าตระกูลร่ำรวย สามีไม่เพียงหล่อเหลาแถมยังมีเงิน”

“ว้าว งั้นดีมากเลย!” อูต้าจื้อยกแก้วขึ้นอย่างดีใจ มองไปทางเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนอย่างอ่อนโยน “อายินดีกับหนู ขอให้หนูกับสามีรักกันจนแก่เฒ่านะ!”

พูดจบ ก็ยกแก้วเหล้าดื่มจนหมด เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนก็ดื่มน้ำผลไม้เล็กน้อย ความสุขบนใบหน้าปิดก็ปิดไม่มิด

ขณะนี้ ร่างสูงเดินผ่านร้านอาหาร หยุดลงตรงทางเข้าห้องส่วนตัวสุดหรูที่ชั้นสอง แต่ไม่ได้เข้าไปในห้อง เขากลับเอนกายพิงราวบันไดมองลงไปด้านล่าง ท่วงท่าที่เกียจคร้านและสง่างามนั้น เหมือนกับเสือจากัวร์ที่กำลังฆ่าเวลา

“เสี่ยวเนี่ยน หลานเขยของพวกเราชื่ออะไร?” คุณน้าอูก็ชนแก้วกับเสี่ยวเนี่ยน ตั้งหน้าตั้งตามองเธอ

“เอ่อ คือว่า...” เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนไม่สะดวกตอบ เธอถึงชายเสื้อของอูเจินจูที่ใต้โต๊ะ

“เฮ้อ พวกพ่อแม่อย่าถามเลย” อูเจินจูตอบอย่างฉลาด “ตระกูลร่ำรวยชอบปกปิดการแต่งงาน กลัวถูกนักข่าวรบกวน ดังนั้นยังไม่เปิดเผยก่อนชั่วคราว แน่นอนว่าบอกพวกพ่อกับแม่ไม่ได้เหมือนกัน ในเมื่อพ่อกับแม่สองคนปากมาก ชอบซุบซิบนินทามากที่สุด

“อ้าว เด็กคนนี้! ทำไมถึงสาดน้ำสกปรกมาบนตัวพ่อแม่ เธอยังเป็นลูกแท้ๆ ของพวกเราอยู่ไหม?” อูต้าจื้อถามอย่างโมโห

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เรื่องวิวาห์ของเจ้าสาวจำเป็น