เรื่องวิวาห์ของเจ้าสาวจำเป็น นิยาย บท 248

ทั้งสองคนสบตากันเนิ่นนาน หนึ่งคนอยู่ในรถ อีกหนึ่งคนอยู่นอกรถ เวงตาคู่สวยของเซียวเซิ่งมีน้ำใสๆแวบมา เจ็บปวด โศกเศร้า อีกทั้งความรู้สึกที่ลึกล้ำดั่งทะเล

คุณหวางจูขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย ยื่นมือออกไปยังพ่อบ้าน

พ่อบ้านรับทราบแล้วจึงหยิบโทรศัพท์มือถือเครื่องหรูแล้วเปิดหน้าข่าวขึ้นมา หลังจากนั้นก็เอาวางลงในมือของเจ้านายอย่างนอบน้อม

หวางจูเหลือบมองที่หน้าจอ หัวข้อข่าวบรรทัดหนึ่งปรากฏเข้าสู่สายตา 【เซียวเซิ่งผู้ก่อตั้งเอ็นซี ข้ามชาติ กรุ๊ปหย่าร้างอย่างเป็นทางการวันนี้ ยกเลิกความสัมพันธ์ชีวิตแต่งงานระยะสั้นกับอดีตภรรยา สถานะของอดีตภรรยากลายเป็นที่ลึกลับ】

เปิดดูติดๆกันล้วนแต่เป็นข่าวเกี่ยวกับเรื่องการหย่าของเซียวเซิ่งทั้งสิ้น จากการแสดงออกของเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยน ตัดสินได้ไม่ยากเลยว่าเธอก็คืออดีตภรรยาคนนั้น

มิน่าล่ะตอนที่ถามว่าบ้านเธออยู่ไหนนั้น เธอถึงได้ลังเลขนาดนั้น ที่แท้ก็ถูกทิ้งนี่เอง....

ในใจของหวางจูนั้นรู้สึกเจ็บแปลกๆ เอาโทรศัพท์มือถือโยนให้กับพ่อบ้าน แล้วก้มตัวลงอย่างสง่างาม ค้ำร่างของเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนที่คุกเข่าอยู่บนพื้นให้ลุกขึ้นมา “ลุกขึ้น ล้มหรือเปล่า?”

เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนลุกขึ้น ตาโตๆที่เต็มไปด้วยน้ำตานั้นจ้องมองเซียวเซิ่งไม่ละไปไหน เขายังใส่ชุดก่อนหน้านี้ แขนเสื้อมีรอยเลือดอยู่ ใบหน้าหล่อเหลานั้นซีดเซียว ดวงตาแดงก่ำเต็มไปด้วยแรงสังหารอย่างหนักหน่วง

แรงสังหารนี้ทำให้หัวใจของเธอบีบแน่น รีบชักแขนออกมาจากหวางจูทันที แล้วเอ่ยพูดกับเขาด้วยน้ำเสียงที่ทุ้มต่ำ “ขอบคุณนะคะคุณหวาง ฉันไม่เป็นไรค่ะ คุณกลับไปก่อนได้ไหมคะ?”

“เซียวเซิ่งคือสามีของเธอ?” หวางจูกดเสียงลง ไม่ได้มีความหมายว่าจะกลับไปเลย

“คือ....”เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนทำตัวไม่ถูกอยู่ไม่กี่วินาที หลังจากนั้นก็มองหวางจูอย่างขอโทษ “ขอโทษนะคะ ฉันไม่อยากโกหกคุณ แต่ก็ไม่อยากจะพูดถึงเรื่องส่วนตัวเหมือนกัน เพราะฉะนั้น - -”

“เข้าใจ เธอไม่ต้องพูดก็ได้” หวางจูก้มลงมองเธอ แล้วยิ้มอย่างอ่อนโยน

มองจากมุมหนึ่ง ท่าทางของพวกเขาดูสนิทสนมกันมาก รอยยิ้มที่อบอุ่น การพูดคุยกันอย่างมีความสุข ไม่ไกลนักมีไฟแห่งความอิจฉากำลังลุกไหม้ขึ้นมา

ปึง!

แล้วจู่ๆประตูรถก็ถูกชนจนเปิดออก ร่างสูงออกมายืนจากทางด้านใน เซียวเซิ่งรีบเดินเข้าไปใกล้ ทั้งตัวคนนั้นเหมือนกับคนที่ชั่วร้ยเดินออกมาจากนรกในส่วนลึก มีพลังที่ดูโหดร้ายและยิ่งใหญ่อยู่ทั่วทั้งร่างกาย

ในใจเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนนั้นรู้สึกตกใจขึ้นอีก แล้วขอร้องหวางจูอีกครั้ง “คุณกลับไปก่อนได้ไหมคะ? เพื่อนของฉันอารมณ์ไม่ค่อยดีนัก - -”

“อ่อ? เพื่อนเหรอ?” หวางจูยิ้ม “ในเมื่ออารมณ์ไม่ดีแล้ว จะให้ฉันใจร้ายทิ้งเธอไว้ได้ยังไง? ถ้าหากเขาทำร้ายเธอจะทำอย่างไร? ถึงแม้ว่าเราจะรู้จักกันเป็นเวลาที่สั้นมาก แต่ก็เป็นเพื่อนกัน ฉันจะไม่สนใจเธอได้ยังไง?”

หวางจูว่าแล้วก็เอาตัวเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนปกป้องไว้ทางด้านหลัง ด้วยท่าทางที่ดูใจนักเลงเป็นอย่างมาก

แต่เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ใช่เพียแค่มาขวางภัยให้กับเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนธรรมดาแค่นั้น แต่อยากจะเห็นว่าเซียวเซิ่งจะมีการแสดงออกมาอย่างไรกันแน่

ความจริงแล้ว หวางจูกับเซียวเซิ่งเคยแข่งขันกันหลายครั้งแล้ว เขากับเซียวจวินเซิงพ่อของเซียวเซิ่งเป็นศัตรูเก่ากัน ทั้งสองคนสู้กันมาเป็นเวลาหลายปี เป็นการจับคู่อย่างเท่าเทียมกัน บาดเจ็บด้วยกันทั้งคู่

ต่อมาหวางจูก็เป็นฝ่ายสิ้นสุดเกม “การต่อสู้ที่ได้รับความสูญเสียพอๆกัน” และเปลี่ยนมาโจมตีทางเซียวเซิ่งลูกชายของเซียวจวินเซิง

และเมื่อหนึ่งเดือนก่อน หวางจูพบว่าเซียวจวินเซิงไม่ได้มีเพียงแค่ลูกชายสุดหล่อเพียงเท่านั้น ยังมีหลานตัวน้อยที่อายุสามขวบอีกหนึ่งคนชื่อว่าเซียวอู๋เหิน หน้าตาสะอาดสะอ้าน น่ารักเสียจนฟ้าดินถล่มทลาย จิตใจของเขานั้นไม่สมดุลกันอย่างรุนแรง

เซียวจวินเซิงมีสิทธิอะไรถึงได้มีลูกหลานเต็มบ้านได้ ส่วนเขากลับโดดเดี่ยวอยู่คนเดียว? ตอนนั้นถ้าหากไม่ใช่เซียวจวินเซิง ตัวเองก็คงไม่น่าเวทนาขนาดนี้ และยิ่งไม่ต้องสูญเสียเสี่ยวเฟิ่งไปด้วยเช่นกัน.....

ดังนั้น หวางจูไม่เพียงแค่ล่วงล้ำเขตแดนของเซียวเซิ่งทางด้านธุรกิจเพียงเท่านั้น ยังเล่นไปทางเซียวอู๋เหินถึงสองสามครั้งอีกด้วย

ปฏิบัติการอย่างไรโดยสังเขปนั้นเขาไม่ได้เข้าร่วม เพียงแต่ได้ยินพ่อบ้านรายงานว่า เซียวอู๋เหินเด็กผีนั่นเจอกับอันตรายสองครั้งก็ไม่ได้รับบาดเจ็บเลยแม้แต่นิดเดียว สุดท้ายเอาเขาไปทิ้งไว้ที่เกาะร้างที่เขตชายแดน เขาก็มีชีวิตกลับมาได้ ในขณะเดียวกันก็ทำให้หวางจูรู้สึกประหลาดใจ และทั้งอดที่จะเกิดความรู้สึกเลื่อมใสขึ้นมาไม่ได้

เขาอยากจะแย่งตัวเซียวอู๋เหินมาเป็นหลายของตัวเองมาก แล้วฝึกฝนให้เขาเป็นบุคคลที่ประสบความสำเร็จ ให้เขาเติบโตขึ้นแล้วไปจัดการกับตระกูลเซียว จะต้องน่าสนใจมากอย่างแน่นอน....

“คุณหวาง เขาไม่ทำอะไรฉันหรอกค่ะ แต่จะทำคุณมากกว่า” เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนเห็นว่าหวางจูยังคงดื้อรั้น จึงเกลี้ยกล่อมห้ามเขา “คุณรีบไปเถอะนะคะ เดิมทีก็ไม่ใช่เรื่องของคุณแล้ว ฉันไม่อยากดึงคุณเข้ามาเกี่ยวด้วย”

หวางจูยอมไปเสียที่ไหนกัน ยิ้มพลางเอ่ยขึ้น “เธอไม่ต้องมาเป็นกังวลแทนฉันหรอก ฉันหวางจูไม่เคยกลัวใครอยู่แล้ว”

เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนปวดหัวแทบจะระเบิดอยู่แล้วกับปัญหานี้ อยากจะเข้าไปขวางเซียวเซิ่งเอาไว้ แล้วอธิบายกับเขา แต่ขาตัวเองกำลังสั่นอยู่ ไม่สามารถย้ายฝีเท้าตัวเองไปได้เลย

ร่างของเซียวเซิ่งผ่านไปแล้ว ดวงตาหล่อเหลาที่เฉียมแหลมมองไปยังหวางจู “ให้เวลาคุณสามวินาที ออกไปจากที่นี่ซะ”

น้ำเสียงของเขานิ่งเรียบเสียจนพูดไม่ออก แต่เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนกลับรู้สึกหนาวเหน็บไปทั้งร่างกาย เธอรู้ว่าการแสดงออกที่อันตรายที่สุดของเซียวเซิ่งคือนิ่งเหมือนสายน้ำ แต่กลับพร้อมที่จะกลืนกินผู้คนได้ทุกเวลา

“เหอะๆ” คุณหวางจูส่งเสียงหัวเราะออกมา มุมปากโค้งขึ้นอย่างเยาะเย้ย พลางเอ่ยขึ้นอย่างช้าๆ “นี่เจ้าหัวขโมย ที่นี่อยู่ในเขตบ้านของฉัน นายจะให้ฉันออกไปอย่างนั้นเหรอ? แบบนี้แล้วกัน....ฉันให้เวลานายห้าวินาที ออกไปซะ มิเช่นนั้นแล้วฉันก็จะเปิดประตูให้หมาออกมาแล้วนะ”

หมายถึงให้บอร์ดี้การ์ดออกมาจัดการเขานั่นเอง

“ถ้าอย่างนั้นก็เริ่มเลยสิ” เซียวเซิ่งถอดเสื้อคลุมออกอย่างนิ่งๆ แล้วเสยผม ใบหน้าที่โอ่อ่าลึกซึ้งทำให้เกิดความประทับใจได้เป็นพิเศษ

เขาที่อยู่ในความมืดเงียบเฉยหล่อเหลาขนาดนั้น แต่ในวินาทีต่อมา เขาก็สลัดเสื้อคลุมลงพื้นอย่างแรง แล้วก้าวพรวดๆเข้าไป เหมืนกับเสือชีตาร์ที่กำลังล่าเหยื่อ มีความหยาบคายที่ครอบงำอยู่ด้วย

ในเมื่อมีคนรู้สึกคัน เขาก็จะไม่ถือที่จะสะกิดให้เบาๆ และยิ่งไปกว่านั้นความโมโหที่อยู่ในท้องก็ต้องการที่จะระบายออกมาด้วยเช่นกัน ต่อยคนอื่นไป แล้วตอนที่มาเผชิญหน้ากับเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยน เขาก็จะสามารถสงบอารมร์ของตัวเองได้มากขึ้น

คุณหวางจูไม่ต้องถึงกับลงมือเอง มีพ่อบ้านที่ค่อยดักเอาไว้ตรงหน้าเขาอยู่ก่อนแล้ว พุ่งเข้าไปหาเซียวเซิ่ง.....

เห็นทั้งสองฝ่ายสู้กันขึ้นมา ล้วนแต่ใช้พละกำลังที่โหดเหี้ยมทำให้อีกฝ่ายบาดเจ็บ เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนทั้งร้อนใจทั้งโมโห ความรู้สึกกระวนกระวายใจเป็นอย่างมาก ร่างของเธอนั้นยืนไม่อยู่แล้ว เซไปทางด้านหลังสองก้าว

หวางจูอยากจะเข้าไปประคองเธอเอาไว้ แต่ก็ถูกเธอผลักออก เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนหันแล้ววิ่งออกไป รู้สึกแสบจมูกจนไม่ไหว สายตานั้นมัวไปหมด น้ำตาปลิวไปตามสายลม

เขาอยากจะต่อยตีกันก็สู้กันไปเลย

เธอเหนื่อยแล้ว จะไม่อ้อนวอนขอร้องเซียวเซิ่งอีกแล้ว ขอร้องให้เขาไม่ต้องทำร้ายคนอื่น ไม่ต้องโมโห ไม่ต้องระเบิดอารมณ์ออกมา.....

“เนี่ยนเออร์!” เซียวเซิ่งโฉบมองเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยน เห็นเบื้องหลังที่จากไปของเธอที่เด็ดเดี่ยวขนาดนี้ หัวใจของเขาก็กระวนกระวายขึ้นมา รู้ว่าเธอไม่พอใจที่ตัวเองทะเลาะต่อยตี หลบหมัดของอีกฝ่ายอย่างคล่องแคล่ว ไม่คิดจะสู้อีก แต่กลับตามผู้หญิงคนที่รักไป

“จะหนีไปไหน ไอ้เด็กบ้า!” พ่อบ้านเพิ่งจะเสียเปรียบไป ในใจนั้นก็รู้สึกไม่ยอม ตามเซียวเซิ่งไป

“ช่างเถอะ” หวางจูยกมือขึ้นห้ามพ่อบ้านไปกวนใจเซียวเซิ่งเอาไว้ “เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนดูเหมือนจะไม่ชอบการต่อยตี ถ้าอย่างนั้นก็ไม่ต้องสู้แล้ว วันนี้พอแค่นี้”

เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนทำให้เขารู้สึกชอบ ดังนั้นเขาจึงยอมที่จะไม่ทำในเรื่องที่เธอไม่ชอบ

“ครับ คุณท่าน” พ่อบ้านถอยหลังกลับมา

มองไปยังเบื้องหลังที่หล่อเหลาของเซียวเซิ่ง หวางจูหัวเราะอย่างลึกซึ้งเสียจนคาดเดาไม่ออก “เซียวจวินเซิง อนาคตของเรายังอีกยาวไกล ต้องมีซักวัน ฉันจะต้องทำให้แกได้ลิ้มรสกับความเจ็บปวดที่ฉันเคยได้รับ!”

“คุณท่านครับ ถ้าหากคุณชอบคุณเอี๋ยน ไม่อย่างนั้นก้แต่งงานกับเธอสิครับ”

พ่อบ้านเห็นเจ้านายชอบเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนขนาดนั้น สายตาที่มองเธอนั้นแตกต่างไป ยังคิดว่าเขาเกิดความรักขึ้นแล้ว “คุณอยู่คนเดียวมาเป็นยี่สิบกว่าปีแล้ว ควรจะหาภรรยาสาวๆมาแต่งงานสืบทอดเชื้อสายได้แล้วนะครับ”

มิเช่นนั้นกิจการของตระกูลที่ใหญ่โตขนาดนี้ก็จะไม่มีคนสืบทอดแล้ว?

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เรื่องวิวาห์ของเจ้าสาวจำเป็น