เมื่อเห็นความกล้าหาญองอาจของเซียวเซิ่งที่ “ดึงต้นหยางหลิวกลับหัว” เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนกำลังลังเลใจว่าจะต้องปล่อยต้นไม้น้อยไปหรือไม่ ตอนนี้เงาคนพุ่งเข้ามาอย่างรีบร้อน
“ผู้อำนวยการ เสี่ยวเนี่ยน ทำไมพวกคุณยังไม่กลับไปอีก ทุกคนเป็นห่วงจะแย่อยู่แล้ว !” เป็นเสียงของโอเล่ย์
เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนรีบปล่อยมือทันที เซียวเซิ่งไปนั่งอยู่ข้าง ๆ เก็บความเศร้าใจและจำใจที่อัดอั้นอยู่เต็มอก พูดด้วยใบหน้าเย็นชา “คนอื่นไม่ต้องการฉันแล้ว บอกว่าไม่มีหลักฐานไม่ได้”
“ฮ๊ะ ?” โอเล่ย์ตกใจจนหน้าถอดสี มองไปยังเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนอย่างไม่เข้าใจ “เสี่ยวเนี่ยน...คุณไม่ต้องการผู้อำนวยการพวกเราแล้วจริง ๆ เมื่อเป็นคู่สามีภรรยาย่อมมีความรักที่มั่นคง ทำไมคุณถึงได้โหดร้ายขนาดนี้ ?”
“ฉันไม่ได้ไม่ต้องการเขานะ ฉันแค่อยู่กับเขาไม่ได้แล้ว”
“นั่นไม่ได้หมายความแบบนั้นเหรอ ?” จู่ ๆ โอเล่ย์ก็สูดอากาศเย็นเข้าปากเฮือกหนึ่ง กล่าวอย่างตรัสรู้ขึ้นทันที “หรือว่าเป็นหมากที่คุณวางไว้ทั้งหมด ?”
“ไม่ใช่หรอก คิดล่วงหน้าไว้นานแล้ว”
“มะ หมายความว่าอะไรน่ะ ?” เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนโดนทำให้ตกใจจนพูดติดอ่างแล้ว เธอจะวางหมากอะไรได้ ? คิดล่วงหน้าอะไร ?
โอเล่ย์อดไม่ได้ที่จะเปิดเผยเธอ เอ่ยถึงเพียงแค่เล็กน้อย “ผมจำได้ว่าคุณเพื่อที่จะอยู่กับสวี่เจียน ใช้ลูกไม้ต่าง ๆ นานา ทั้งส่งโน้ต ทั้งแจ้งตำรวจ ฉวยโอกาสตอนที่ผู้อำนวยการไม่สนใจยังใช้โทรศัพท์ของเขาส่งข่าวให้กับสวี่เจียน...เล่ห์เหลี่ยมมากมายเกินว่าจะนับ ถ้างั้นครั้งนี้...”
หรือว่าเธอและสวี่เจียนจะโจมตีจากภายนอก ตอบโต้จากภายใน ผลักเซียวซาให้ล้ม หย่าอย่างราบรื่น จากนั้นหนีไปในคืนเดียวกัน ถึงอย่างไรพรุ่งนี้สวี่เจียนก็จะแต่งงานแล้ว...คิดอย่างรอบคอบก็รู้สึกกลัวอย่างหวาดหวั่น โอเล่ย์หนาวสั่น เขาคิดได้ ผู้อำนวยการก็คงต้องคิดได้เหมือนกัน
“ฉันไม่ได้ทำอะไรเลย !” เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนถอยหลังไปก้าวหนึ่ง กังวลจนเส้นเอ็ดบนคอปูดโปน “ฉันไม่ได้วางแผนล่วงหน้า ไม่ได้วางหมาก ! เซียวเซิ่ง บังคับให้ฉันแยกจากนาย คนในครอบครัวนาย นายอย่ามาย้อนใส่ร้าย !”
หากไม่ใช่เซียวซาใช้ความตายมาบังคับ เธอจะหย่าได้อย่างไร ?
เดี๋ยว ๆ ...หรือว่าพวกเขาสงสัยง่าเพื่อที่ตัวเองจะหย่า จงใจทำร้ายเซียวซาให้แท้งลูก ? พระเจ้า เรื่องแบบนี้กล่าวหน้าใส่ร้ายเธอได้ !
เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนแสนรันทดเจ็บปวด ปาดน้ำตา หันหลังและหนีไป
นี่เป็นส่วนที่เศร้าใจของผู้ด้อยโอกาส ไม่มีสิทธิในการพูด แล้วแต่พวกเขาคาดเดาเถอะ เธอไม่คอยรับใช้แล้ว !
เซียวเซิ่งเตรียมให้เธอเดินหมากนี้อยู่ก่อนแล้ว พุ่งตัวจากด้านหลังจับแขนของเธอเอาไว้ ดึงกลับไปหน้าหน้าอก เก็บแขนเหล็กทั้งสองข้าง โอบล้อมเธอไว้ในอ้อมอกแน่น “ยัยบ๊อง ใครพูดอะไร ? ทำให้เธอหวั่นไหวจนเป็นแบบนี้ ?”
“คุณปล่อยฉัน ฉันทำร้ายเซียวซา ฉันเองที่อยากจะหนีตามสวี่เจียน เป็นไงล่ะ ?” เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนยังอยากที่จะตวาดต่อไป ทันใดนั้นก็ถูกเซียวเซิ่งปิดปากอย่างมิดชิด “ตาม !”
มีเงาดำแวบผ่านไปไม่ไกล โอเล่ย์รีบตามไปทันที...
ระดับความว่องไวและเฉียบแหลมของเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนไม่ได้มากขนาดนั้น เพราะว่าโมโหมากเกินไป เธอไม่เห็นแม้กระทั่งเงาดำ และไม่รู้ว่าคนตามคือใคร แน่นอน เซียวเซิ่งก็ไม่ได้เดินหมากตามแผนให้เธอรู้ เพียงแค่ลูบเธออย่างอ่อนโยนและทะนุถนอม ปลอบใจเธอ
“เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยน ฉันไม่สนว่าเธอจะรักฉันจริงหรือไม่จริง ต่อต้านก็ดี เกลียดชังก็ดี ฉันก็จะอยู่กับเธอจนถึงที่สุด” เขาปล่อยมือไม่ได้
ไม่มีเธอก็ใช้ชีวิตต่อได้ แต่ก็จะว่างเปล่า สู้ตายไปเสียยังดีกว่ามีชีวิตอยู่ กลายเป็นศพที่เดินได้
คิดถึงว่าวันหนึ่งเธอจะเป็นของชายอื่น ชายคนนั้นจะลูบไล้ร่างกายขาวดุจหิมะของเธอ คบหาและลุ่มหลงกับเธอ เซียวเซิ่งก็เจ็บปวดใจยากที่จะทนรับไหว จำเป็นต้องเก็บเธอไว้ข้างตัวเอง ของแค่เธออยู่ ทุกอย่างที่รุนแรงจะเริ่มต้นใหม่...
เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนโดนเซียวเซิ่งปลอบโยนจนค่อย ๆ สงบลง เอียงหัวลูบคางของเขาอย่างใกล้ชิด ใบหน้าเล็กกระจุ๋มกระจิ๋มและได้รูปมองจากด้านข้าง เหมือนกวางซีกาที่น่ารักมีชีวิตชีวา
ยิ่งเห็นเธอกลับสู่สภาพเดิมที่เชื่อฟังตามปกติแล้ว ในใจของเซียวเซิ่งก็ร้อนขึ้น ใบหน้าหล่อเท่ยิ้มอย่างนุ่มนวลงดงาม ราวกับทุกเซลล์ต่างก็ชุ่มฉ่ำไปด้วยกลิ่นหอมหวานที่หวานชื่น สบายเหลือเกิน
“เด็กดี ใส่แหวนให้เรียบร้อย” เซียวเซิ่งกึ่งนั่งยอง ๆ อยู่ตรงหน้าของเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยน ถอดแหวนของเธอออก ใส่ไปยังนิ้วนางข้างซ้าย “รอผ่านไปสองสามวัน พวกเราค่อยจัดงานแต่งงานที่ยิ่งใหญ่อีกครั้ง ถ้าหากว่าทุกครั้งเจ้าสาวเป็นเธอ ให้ฉันแต่งทุกวันก็ยอม”
เขาเริ่มพูดคำหวานไพเราะอีกแล้ว ดวงตาของเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนแดงก่ำ กัดริมฝีปากแน่นไม่ได้พูดอะไร ในใจกลับมีความรู้สึกที่หวานอมเปรี้ยวเต็มไปหมด ตัวเองรักเขามากจริง ๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เรื่องวิวาห์ของเจ้าสาวจำเป็น