เรื่องวิวาห์ของเจ้าสาวจำเป็น นิยาย บท 253

โอเล่ย์ถือกระเป๋าของเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนกลับมา อยู่ไกล ๆ ก็เห็นชายหล่อกับหญิงงามคู่นั้นที่ตัวเองรักที่สุด นั่งอยู่บนเก้าอี้ไม่พูดจากัน แสงไฟสีเหลืองสลัวสาดลงมาบนตัวพวกเขา เป็นภาพที่สวยงาม นำมาซึ่งอารมณ์ความเศร้าของการจากลาที่เข้มข้น

ถอนหายใจเฮือกหนึ่ง โอเล่ย์เดินเข้าไปใกล้ “เสี่ยวเนี่ยน จะไปก็ไปเถอะ อย่าให้อาเอี๋ยนรอนาน”

ทั้งสองถึงยืนขึ้น

เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนคอตกไม่กล้ามองเซียวเซิ่ง “ฉันไปแล้วนะ โอเล่ย์ นายช่วยฉันพาเซียวเซิ่งไปโรงพยาบาลที มือของเขาเจ็บหนัก ฉันกลัวว่าจะอักเสบ”

“เธอวางใจเถอะ” โอเล่ย์ส่งกระเป๋าให้ ยิ้มและปลอบใจเธอ “ถ้าหากแยกจากกันทำให้เธอเป็นทุกข์จนทนไม่ไหว เธอก็อยู่ต่อ ถ้ายังทนได้ งั้นก็ดีใจหน่อย อย่าทำเหมือนจะไม่ได้เจอกันอีก เธอไม่ใช่ว่าจะต้องมาทำงานที่บริษัทอยู่เหรอ ? ได้เห็นกันทุกวันอยู่”

“อืม งั้นเจอกันที่บริษัทพรุ่งนี้” เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนรับกระเป๋า มองเซียวเซิ่งอย่างจำใจ “ฉันจะตั้งใจทำงาน พยายามรีบจากพนักงานเก็บขยะไปสู่พนักงานอเนกประสงค์ให้ได้ ไม่แน่อาจจะมีโอกาสไปห้องทำงานคุณ ช่วยคุณซ่อมไฟ”

พนักงานอเนกประสงค์สูงกว่าพนักงานเก็บขยะเล็กน้อย ที่จริงก็คืองานพลาธิการคละกัน

“อืม ปณิธานกว้างไกล” เซียวเซิ่งโดนเธอเย้าแหย่แล้ว มือเดียวสอดอยู่ในกระเป๋ากางเกง พูดอย่าหล่อ “รอให้เธอได้ทำงานพนักงานอเนกประสงค์ ฉันจะทำหลอดไฟแตกวันละสองหลอด ช่วยยกระดับธุรกิจของเธอ”

“แบบนั้นคนอื่นจะสงสัยว่าพวกเรามีความสัมพันธ์แบบชู้”

“ไม่ได้มีตลอดเหรอ ?” เซียวเซิ่งลูบผมของเธออย่างเอ็นดู “ไปเถอะ”

“งั้นฉันไปแล้วนะ” เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนพูดเบา ๆ อีกประโยค ค่อย ๆ หมุนตัวอย่างช้า ๆ

“รอก่อน” เซียวเซิ่งเหมือนกับว่าคิดอะไรขึ้นมาได้ หยิบเงินสดในกระเป๋าสตางค์ออกมา มองไปยังโอเล่ย์ “เอาเงินมาให้หมด”

มองดูแบงค์แดงเป็นปึกในมือของเซียวเซิ่ง เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนใจลอยเล็กน้อย

“ผู้อำนวยการ ไม่ใช้ว่าให้บัตรเธอไปแล้วเหรอ ? ใส่เงินในบัตรก็พอแล้วไม่ใช่เหรอ” โอเล่ย์หยิบกระเป๋าตังค์ออกมาอย่างไม่ค่อยเข้าใจ

“ไม่แน่ว่าเธอจะไปใช้ แบบนี้มั่นใจกว่าหน่อย” เซียวเซิ่งดึงเงินในมือของโอเล่ย์มา เปิดกระเป๋าของเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยน และยัดมันเข้าไป “เข้านอนแต่หัวค่ำ อย่านอนดึก คิดถึงฉันจริง ๆ ก็โทรมา”

“อืม” เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนกัดริมฝีปาก มองดูเขา หมอกเป็นชั้น ๆ ลอยอยู่บนดวงตาอัลมอนด์ “คุณเองก็ดูแลตัวเองให้ดี อย่าโกรธกันกับพ่อแม่ล่ะ !”

ได้ยินว่า เวลาที่ผู้ชายรักคุณ จะสามารถทอดทิ้งกิจการและพ่อแม่เพื่อคุณ เมื่อไม่รักแล้ว ทันใดนั้นก็จะเกลียดคุณที่เขาสูญเสียอนาคตและครอบครัว ความโกรธอะไรก็จะมาลงกับคุณ...

บางทีเซียวเซิ่งไม่ใช่คนแบบนั้น แต่กันไว้หน่อยดีกว่า นอกจากนี้ กตัญญูต้องมาก่อน อย่าทำอะไรเกินไป

“รู้แล้ว” เซียวเซิ่งหลับตาอย่างงดงามมีสง่า

“งั้นฉันไปก่อนนะ” เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนพูดพลางหันตัวกลับไป ยังไม่ได้เดินสักก้าว ก็หันกลับมามอง ใต้โคมไฟถนนรูปร่างของเธอกระจุ๋มกระจิ๋มเบาะบาง คอด้านหลังขาวเหมือนหยกราวกับหงส์ ลายเส้นสวยงาม

ผู้หญิงของใครใครก็รัก ท่าทางของเธอที่หนึ่งก้าวหันหัวสามครั้ง ทำเอาเซียวเซิ่งแทบจะหลั่งน้ำตา

“ผู้อำนวยการ ไม่อย่างนั้นเอาเธอกลับไปเถอะ” โอเล่ย์ตามด้วยเจ็บจนแทบขาดใจ “ไม่ได้จริง ๆ พวกคุณสองคนหนีเถอะ หาที่ที่มีภูเขาแม่น้ำหาที่พักให้เรียบร้อย ผมอยู่ที่นี่วางแผนและจัดการบริษัท หาเงินให้พวกคุณ”

“เซียวจวินเซิงเป็นคนยังไง ไม่ใช่ว่านายไม่รู้”

มองดูภาพด้านหลังของเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยน เซียวเซิ่งกล่าว “ถ้าฉันหนีไปแล้ว ถ้าเขาจะต้องพลิกแผ่นดิน เขาก็จะตามหาฉัน พูดอีกอย่างฉันไม่สามารถให้เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนทนลำบากเร่ร่อนกับฉันได้ เธอจะต้องมีชีวิตที่ดี ไม่อย่างนั้นฉันจะรู้สึกว่าตัวเองนั้นไร้ความสามารถมาก”

“เซียวเซิ่ง ทำไมคุณไม่ไปล่ะ ?” เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนหันกลับมาอีก มองเขาด้วยคิ้วที่ขมวด “ไม่อย่างนั้นคุณไปก่อน ฉันมองตามหลังคุณ”

“เหอะ ๆ” โอเล่ย์หัวเราะออกมา แต่บนหน้ากลับไม่มีรอยยิ้ม นังหนูตลกจริง ๆ ทำใจไม่ได้ที่จะพูดออกไปตรง ๆ

เซียวเซิ่งเม้มริมฝีปากบาง เดินอย่างรวดเร็วสองก้าวไปที่ข้างเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยน กุมมือของเธอไว้วางไว้บนริมฝีปากและจูบ “ไปกับพ่อเถอะ เด็กดี”

“อืม คุณก็ไปนะ” ตาของเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนมองดูเขา ถอยหลังสองก้าว

เซียวเซิ่งปล่อยนิ้วของเธอทีละนิด มองดูปลายนิ้วของเธอที่ในที่สุดก็หลุดจากฝ่ามือของตัวเอง หัวใจแตกสลาย

เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนหันหลังวิ่งไปอย่างตัดใจ น้ำตาไหลออกมา เธอไม่กล้าหันกลับไป ตัวเองกลั้นไว้จนถึงจุดวิกฤติแล้ว กลัวว่าหันกลับไปอีกจะร้องไห้จนขอให้เซียวเซิ่งพากลับไป...

“เสี่ยวเนี่ยน”

เอี๋ยนจื้อโก๋วรออยู่อีกฟากของถนน เห็นลูกสาวตัวน้อยวิ่งมาอย่างโซซัดโซเซ คราบน้ำตาไหลอาบหน้า ทันใดนั้นใจของเขาก็ราวกับโดนมีดฟัน รีบไปรับเธอ จูงมือของเธอและดึงออกไป

เซียวเซิ่งไร้ความเมตตาขนาดนั้น ยังอยากจะอยู่กับเขาทำไมกัน...

ลูกสาวทั้งสองถูกแตะออกต่อเนื่องกัน ทำร้ายหัวใจของชายชราพูดน้อย ตระกูลที่มีเงินและอิทธิพล เกี่ยวข้องไม่ได้ เขาไม่อยากให้พวกลูกสาวแต่งงานกับตระกูลร่ำรวยอีกแล้ว

ลูกสาวคนโต นิสัยเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัวแบบแม่ ไปที่ไหนก็ไม่ยอมเสียเปรียบเพียงเล็กน้อย แต่ก็มักจะเสียเปรียบมาก ลูกสาวคนเล็กจิตใจบริสุทธิ์ เรื่องเห็นแก่ตัวสักนิดก็ไม่ยอมทำ แต่งงานกับตระกูลที่ไม่น่าอยู่ร่วมกันต้องถูกรังแกอย่างแน่นอน

ความจริงอานฉุนซียังดีกว่า เพียงแค่ทนายความใหญ่ขยับปาก เงินหลายแสนก็มาอยู่ในมือ อีกทั้งยังรักและถนอมผู้หญิง เสี่ยวเนี่ยนแต่งกับเขาคงจะได้เสวยสุข...

“พ่อ สายตาดูไม่ดีเลย เดินช้าหน่อยอย่าให้หกล้ม” เสี่ยวเนี่ยนปาดน้ำตา ประคองแขนของพ่อ

“ได้” เอี๋ยนจื้อโก๋วพาลูกสาวเดินออกมาจาอสวนสาธารณะ พูดอย่างรู้สึกผิดในใจ “พ่อผิดเองที่ไม่มีความสามารถ ถ้าหากว่าพ่อมีเงินมากเหมือนเซียวจวินเซิง คนในครอบครัวของเขาก็จะดีกับลูก”

“ถึงพ่อจะไม่มีเงิน แต่ก็เป็นพ่อที่หนูรักที่สุด” เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนพูดอย่างมั่นใจ

เอี๋ยนจื้อโก๋วโดนลูกสาวที่ปากหวานทำให้เจ็บปวดใจ ยิ่งรู้สึกขอโทษเธอ เป็นทุกข์อยู่นานพูดไม่ออก ทำได้เพียงรอรถแท็กซี่เงียบ ๆ

เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนพิงอยู่บนบ่าของพ่อเบา ๆ มองดูดวงดาวที่อยู่ห่างไกล ในใจภาวนาอยู่เงียบ ๆ : ขอเพียงแค่ เซียวเซิ่งสามารถพูดเกลี้ยกล่อมแม่ของเขาได้เร็ววัน เธออยากจะอยู่กับเขา...

ในสวนสาธารณะ แสงไฟทอดเงาใครบางคน

โอเล่ย์เตือนเซียวเซิ่ง “ผู้อำนวยการ เสี่ยวเนี่ยนให้คุณไปโรงพยาบาล ฟังเธอเถอะ”

เซียวเซิ่งไม่ได้สนใจคำพูดของเขา หันหลังกลับเดินไปยังรถของตัวเอง “นายไปซื้อยาภายนอกให้ฉันหน่อย ฉันจะทำแผลเอง”

“คุณจะไปไหน ?” โอเล่ย์ถามอย่างไม่วางใจ

“เสี่ยวเนี่ยนไม่มีทางอยู่บ้านพ่อของเธอได้ ฉันจะต้องตามไป”

ระหว่างที่เซียวเซิ่งพูด ก็หยิบโทรศัพท์ต่อสายไปยังเย่เฟิง ไม่พูดเยิ่นเย้อ “ถ้าอูเจินจูอยู่กับนาย ให้เธอกลับบ้าน ถ้าเธออยู่บ้าน ก็ให้เธอเก็บกวาดห้องให้เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนทันที”

เย่เฟิงแม้กระทั่ง “ฮัลโหล” ก็ยังไม่ทันได้พูด ฝั่งนั้นก็วางโทรศัพท์ไปแล้ว เขามองไปยังอูเจินจู “เสี่ยวเนี่ยนจะไปหาเธอ กลับไปเถอะ ฉันมีพยาบาลที่นี่”

“อืม” อูเจินจูยืนขึ้น ประคองเย่เฟิงนอนลง พูดอย่างโกรธเล็กน้อย “เจ้านายนั่นของนายไร้ยางอายเกินไปแล้ว บอกจะแต่งงานก็แต่ง บอกจะหย่าก็หย่า เอาคนอื่นมาเล่นบนฝ่ามือ จิตใจที่รู้บาปบุญคุณโทษของตัวเองไม่เจ็บปวดบ้างหรือไง ?”

“เธอไม่รู้สถานการณ์ก็อย่าเกลียดคนไปเรื่อย กลับไปพูดโน้มน้าวเสี่ยวเนี่ยนดี ๆ เป็นสิ่งที่ถูกต้อง”

“งั้นฉันไปนะ” อูเจินจูหิ้วกระเป๋าเดิน กลับบ้านไปอย่างเร่งรีบ ทำความสะอาด เปลี่ยนเครื่องนอนใหม่ อบกลิ่นหอมอากาศหมุนเวียน...เปิดอ้อมอกที่อบอุ่นที่สุด ต้อนรับเพื่อนของตัวเองที่ได้รับบาดเจ็บ

หลังจากเก็บกวาดเรียบร้อย เธอก็นั่งอยู่บนโซฟาห้องรับแขก หยิบโทรศัพท์ที่เมื่อครู่เตรียมจะโทรหาเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยน ทันใดนั้นเสียงกริ่งประตูก็ดังขึ้น

อูเจินจูคิดแค่ว่าเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนมาถึงแล้ว ปรับรอยยิ้มที่เป็นธรรมชาติอย่างรวดเร็ว จากนั้นตรงไปเปิดประตู “เสี่ยวเหนียนหยู ยินดีต้อนรับกลับ—”

วินาทีต่อมา รอยยิ้มของเธอก็ฝืดเคืองทันที ไม่รู้ว่าควรจะดีใจหรือเสียใจ เพราะคนที่มา เป็นสวี่เจียนผู้รูปหล่อดูเท่...

มาที่นี่เพื่อทวงความยุติธรรมรับช่วงต่อเหรอ ?

รับช่วงต่อมืออาชีพสี่ห้าปี ไม่มืออาชีพไม่ต้องการเงิน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เรื่องวิวาห์ของเจ้าสาวจำเป็น