แต่ครั้งนี้ไม่สามารถรับช่วงต่อได้ เพราะเซียวเซิ่งยังไม่ได้ทิ้งเลย
“เจินจู” สวี่เจียนเอ่ยปากก่อน เสียงค่อนข้างซึมเศร้า เทียบกับอารมณ์ฮึกเหิมหนึ่งเดือนก่อน เขาในตอนนี้ดูเหมือนว่าจะไม่ค่อยมีชีวติชีวา
ซูบผอมเงียบไม่พูดจา ไม่สนใจเรื่องการแต่งตัว ดวงตาของเขาก็ไม่ได้ดุดันแบบเมื่อก่อน คนทั้งคนมีความกลุ้มใจเปลี่ยนแปลงอย่างมากตลอดเวลาที่ไม่สามารถแก้ไขได้ ทำให้รู้สึกเศร้าใจเป็นอย่างมาก
ถ้าเกิดว่าเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนเห็นเขาสภาพนี้ จะต้องไม่สบายใจแน่สินะ ?
“พี่สวี่มาแล้วเหรอ” อูเจินจูแอบถอนหายใจ เดินมาล็อกประตูอย่างสะดวกมือ
ท่าทางการล็อกประตูง่าย ๆ ทำให้ดวงตาของสวี่เจียนแข็งทื่อ หัวใจก็หมดหวัง “ไม่เชิญฉันเข้าไปนั่ง ?”
“ขอโทษทีพี่สวี่ ฉันอยากจะออกไปข้างนอกพอดี แฟนหนุ่มอยู่โรงพยาบาลน่ะ ฉันจะต้องไปดูแลหน่อย...”
โธ่ ๆ ๆ ! ในตอนที่พูด ในใจของอูเจินจูละอายใจอย่างยิ่ง
ที่ผ่านมาสวี่เจียนเคยช่วยเธอไว้ไม่น้อย มีครั้งหนึ่งพ่อทำผิดกฎหมายและโดนจัดการ ก็เป็นสวี่เจียนที่ให้ออกมา...ขณะนี้เอาตัวเองมาขังอยู่ข้างนอก รู้สึกเสียใจกับความผิดชอบชั่วดีจริง ๆ แต่ในเวลานี้เธอทำได้เพียงเท่านี้
เซียวเซิ่งโทรหาเย่เฟิงจัดการเตรียมที่ที่เสี่ยวเนี่ยนจะไป เห็นได้ชัดว่าจอมอันธพาลนั่นไม่ปล่อยมือ เธอจะกล้าใช้นิ้วแยกปากเสื้อได้อย่างไรกัน ให้สวี่เจียนมาปล้นอาหาร ?
“มีแฟนแล้วเหรอ ? เรื่องดี” สวี่เจียนดีใจแทนอูเจินจูอย่างมาก ยิ้มอย่างเข้าใจยาก
อูเจินจูก็ยิ้มตาม “พี่สวี่มีธุระรึเปล่า ?”
“มี...” สวี่เจียนเปิดริมฝีปากออก อยากจะพูดอะไรบางอย่างแต่ก็กลืนลงไป เหมือนกำลังรวบรวมคำพูด
เมื่อเห็นเขาจะพูดแต่ก็หยุด อูเจินจูกลัวว่าเขาจะพูดเรื่องเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยน รีบสับหลีกอยากจะจากไป “พี่สวี่ พวกเราเดินไปคุยไป ฉันกำลังคิดเรื่องวันนั้นที่พี่เลี้ยงข้าวอยู่น่ะ...”
“เจินจู” สวี่เจียนจับข้อมือของเธอไว้ ใช้แรงกำ “หลายปีมานี้ ฉันเห็นเธอเป็นน้องสาวแท้ ๆ มาตลอด ช่วยพี่สักเรื่องได้ไหม ?”
อูเจินจูกะพริบตา คลี่ยิ้มออกมา “พี่สวี่ อย่าว่าแต่ให้ฉันช่วยเลย พี่อยากได้ชีวิตฉันฉันก็ให้ ! แต่ เรื่องของเสี่ยวเนี่ยนเป็นข้อยกเว้น”
จะเป็นลม มุมปากของสวี่เจียนกระตุก นังหนูนี่ไม่ใช่ปิดปากเพื่อไม่ให้พูดเหรอ ?
“พี่ ฉันรู้” อูเจินจูมองเขาอย่างจริงใจ พูดออกมาจากใจจริง “ถ้าไม่มีเสี่ยวเนี่ยน พวกเราสองคนคงไม่ได้พบกัน แต่ฉันไม่มีทางพูดกับเธอได้จริง ๆ เพื่อที่จะอยู่กับพี่ เธอก็เคยพยายามแล้ว ในตอนที่รักพี่ ก็รักพี่อย่างจริงใจ แต่ต่อมา...”
คำพูดต่อไปไม่ต้องพูดออกมาอย่างชัดเจน เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนรักเซียวเซิ่งแล้ว และก็รักอย่างจริงใจด้วย “ทุกอย่างล้วนเป็นโชคชะตา ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ พี่ !”
ลำคอของสวี่เจียนมีเสียงร้องขยับ เส้นเลือดที่ขมับปูดโปนเบา ๆ “เจินจู ถ้าเซียวเซิ่งดีกับเธอได้ ฉันก็ยอมรับ แต่ตอนนี้ไม่ใช่ว่าหย่าแล้วเหรอ ? ที่จริงแล้วเธอไม่เหมาะสมกับเซียวเซิ่ง เซียวเซิ่งเป็นลูกคนเดียว รับหน้าที่ความรับผิดชอบของตระกูล คนในครอบครัวของเขาไม่มีทางรับเสี่ยวเนี่ยน”
“บ้านของพี่ก็รับเสี่ยวเนี่ยนไม่ได้ไม่ใช่เหรอ ไม่อย่างนั้นพี่ก็ควรจะแต่งกับเธอไปนานแล้ว” อูเจินจู กล่าวเตือน
สวี่เจียนหน้าหงาย ผ่านไปสองสามวิจึงพูด “เจินจูเธอดู ฉันกับเสี่ยวเนี่ยนยังมีดวงสมพงศ์กัน หลังจากวนไปวนมา เธอก็กลับมาที่จุดเริ่มต้น กลับมาที่บ้านของเธอ มันทำให้ฉันชักไม่แน่ใจ ราวกับว่าฝันร้ายมาทั้งเดือน ตื่นจากฝัน ทุกอย่างเป็นเหมือนตอนแรก”
ขอบตาของอูเจินจูแดงเพราะสิ่งที่เขาพูด สูดจมูกโดยไม่รู้ตัว “งั้นพี่สวี่มีแผนยังไง ?”
“ครั้งนี้ฉันอยากพาเธอไป ไม่กลับมาอีกตลอดกาล” ใบหน้าของสวี่เจียนเคร่งเครียด นัยน์ตาเต็มไปด้วยความหนักแน่น
ใจของอูเจินจูเต้นตุบ ๆ สีหน้าเปลี่ยนไป พูดโพล่งออกมาประโยคหนึ่ง “เธอไม่ไปกับพี่หรอก ! พี่สวี่ อย่าทำให้เธอลำบากใจเลย”
“ไม่ได้ !” ดวงตาของสวี่เจียนแข็งกร่าว เพิ่มแรงที่มือ บีบจนอูเจินจูขมวดคิ้ว เขารีบปล่อยทันที “ขอโทษ เจินจู ฉันรักเสี่ยวเนี่ยนมาก เพราะงั้นก็เลยหวั่นไหว...”
“พี่ ฉันพูดความจริง เอี๋ยนต้าฟายังอยู่ในกำมือของเซียวเซิ่ง พี่จะให้เธอไปกับพี่ได้ยังไง ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เรื่องวิวาห์ของเจ้าสาวจำเป็น