เรื่องวิวาห์ของเจ้าสาวจำเป็น นิยาย บท 256

เวลาสี่ทุ่ม สนามบินนานาชาติจงโจว บุรุษที่มีออร่าสูงศักดิ์คนหนึ่งปรากฏตัวขึ้นต่อสายตาของทุกคน

บุรุษที่อยู่ในวัยหนุ่มแน่นที่เต็มไปด้วยกำลังวังชา เขาสวมชุดสีดำทั้งตัว เดินมาด้วยสีหน้าท่าทางที่เคร่งขรึม เมื่อมองแวบแรกเหมือนกับจ้าวแห่งศาสตร์มืดที่เดินออกมาจากในการ์ตูน ทำให้บรรดาบุรุษต่างพากันก้มหน้าและหลีกทางให้ตามสัญชาตญาณ แต่ใบหน้าที่หล่อเหลาราวกับแกะสลักกลับทำให้สายตาของบรรดาหญิงสาวมองอย่างเพลิดเพลินจนลืมทางกลับบ้าน

ด้านหลังเขายังติดตามด้วยผู้ติดตามคนสนิทอีกเป็นจำนวนมาก แต่ละคนสวมชุดสูทตัวตรงแน่ว เหมือนดาวล้อมเดือนที่มอบการปกป้องให้แก่เขาเพียงคนเดียว

“พ่อ ท่านกลับมาแล้ว ลำบากท่านแล้ว”

เสียงที่คุ้นหูเสียงหนึ่งดังขึ้นข้างหู เซียวจวินเซิงเงยหน้าขึ้นอย่างไม่ใส่ใจ ดวงตาเย็นชาขยับเล็กน้อย ชายหนุ่มที่หน้าตาสง่าหล่อเหลายิ่งกว่าเขาคนหนึ่งพุ่งเข้ามาในระยะที่สายตาของเขามองเห็น

เซียวเซิ่ง

ทำไมเจ้าสารเลวนี่ถึงเรียกเขาว่าพ่อ? เซียวจวินเซิงชะงักฝีเท้าทันที ดวงตาที่เยือกเย็นเฉียบแหลมเคร่งขรึมเล็กน้อย บนใบหน้าไม่มีอารมณ์ใดๆ

เมื่อผู้ติดตามทั้งหลายเห็นว่าเถ้าแก่หยุดฝีเท้าลง ต่างก็ไม่กล้าขยับเช่นเดียวกัน มองตามสายตาเขาไป เงาร่างดำทะมึนของคุณชายพุ่งเข้ามาในสายตา นอกจากความประหลาดใจแล้ว ใบหน้าล้วนปรากฏความปีติยินดี

ดูเหมือนว่าคำสาปที่ถูกแช่แข็งมาเป็นเวลาสิบปี จะสลายตัวลงแล้ว

อีกฝั่งของถนน เซียวเซิ่งที่อยู่ใต้แสงไฟ เสื้อเชิ้ตสีดำและเนกไทแฝงไปด้วยออร่ายึดใจผู้คน เส้นผมสีดำขลับที่หนาแน่นหวีไปด้านหลัง ใบหน้าที่หล่อเหลาปรากฏความอบอุ่นขึ้นมา นัยน์ตาสีดำปรากฏรอยยิ้ม งดงามเสียจนแสงไฟสีซีดไป

“ท่านประธาน”ผู้ติดตามทั้งหลายก้มศีรษะลงทำความเคารพเขา

เซียวเซิ่งยิ้มเล็กน้อยทันที กล่าวอย่างถ่อมตัวและมีมารยาท “คุณอาทั้งหลายถ่อมตัวแล้ว ต่อไปเจอผมก็ไม่ต้องพิธีรีตอง”

น่าแปลก ไม่นึกเลยว่าจอมมารเล็กจะเรียกพวกเขาว่าคุณอา พระอาทิตย์ขึ้นมาจากทางทิศตะวันตกหรือ? ทุกคนนอกจากตื่นตะลึงเพราะได้รับความเมตตาที่คาดคิดไม่ถึงแล้ว ยังตกอยู่ในสภาพสัตว์ที่ลุกลี้ลุกลนผิดปกติเพราะเกิดแผ่นดินไหว อยู่ในสภาวะวิตกกังวลอย่างต่อเนื่อง

การเดินทางของเถ้าแก่เป็นความลับมาโดยตลอด แม้แต่คุณนายเซียวเซี่ยจิ่นยังไม่มีสิทธิ์ที่จะได้รู้ แต่เมื่อได้พบคุณชายเพื่อแสดงความกตัญญู ทุ่มเทความพยายามลงไปตั้งมากมาย......

เซียวจวินเซิงจ้องมองลูกชายอย่างใจเย็นอยู่เป็นเวลานาน จับความเจ็บปวดที่อยู่เบื้องหลังความฝืนยิ้มของเขาได้ ทันใดนั้นก็มีลางสังหรณ์ที่ไม่ดีบางอย่าง หรือว่าเซียวเซิ่งรู้ถึงเรื่องราวเมื่อสิบปีก่อนแล้ว?

ไม่ ไม่น่าใช่ แท้ที่จริงแล้วเกิดเรื่องใหญ่ที่พลิกจากหน้ามือเป็นหลังมืออะไรขึ้นกัน ถึงทำให้เซียวเซิ่งผู้ที่เต็มไปด้วยความหยิ่งในศักดิ์ศรีก้มหัวได้?

“พวกแกทั้งหมดกลับไปเถอะ”ออกคำสั่งด้วยเสียงที่เรียบเฉย เซียวจวินเซิงก้าวเท้าเดินไปทางลูกชายอย่างมั่นคง......

หลายวันมานี้เซียวจวินเซิงออกไปทำงานที่ต่างประเทศ เมื่อทราบว่าพี่สาวกลับประเทศ เขารีบจบการเดินทางอย่างรีบร้อนแล้วรีบกลับมา เคารพและรักพี่สาวเป็นอย่างยิ่ง

สาเหตุที่เซียวจุนหรูอวดดีมีความมั่นใจ เหยียบหัวของเซี่ยจิ่นไปเสียทุกด้าน ก็มีความเกี่ยวข้องกับน้องชายคนดี

โบราณกล่าวไว้ว่าความจงรักภักดีและความกตัญญูไม่สามารถเป็นทั้งสองอย่างพร้อมกันได้ เหตุผลเดียวกัน แม่สามีและลูกสะใภ้ไม่สามารถเป็นทั้งสองอย่างพร้อมกันได้ พี่สาวของสามี พี่สะใภ้ไม่สามารถเป็นทั้งสองอย่างพร้อมกันได้ ให้ความสำคัญกับอย่างหนึ่ง อีกอย่างหนึ่งก็จะถูกปฏิบัติอย่างเย็นชา

โดยปกติเซียวจวินเซิงปฏิบัติต่อเซี่ยจิ่นค่อนข้างดี แต่เมื่อทันทีที่พี่สาวกลับมา ก็จะลำเอียงทันที เซี่ยจิ่นก็จะไม่มีตัวตนอีกต่อไป

เซี่ยจิ่นไม่ยอมรับในตอนแรกๆ ร้องไห้ฟูมฟายอยู่หลายครั้งหลายครา แต่ว่าเซียวจวินเซิงก็ไม่ได้สนใจลูกไม้นั้นของเธอเลยสักนิด ชาวบ้านเขาก็คือรักพี่สาวของตนเอง เธอเซี่ยจิ่นทนได้ก็ทน ทนไม่ได้ก็ไสหัวออกไปซะ ไม่สามารถส่งคุณไปได้ไกลกว่านี้แล้ว

ใช้คำของเซียวจุนหรูมาพูด “สะใภ้ก็เหมือนกับเปลือกปูนบนกำแพง เอาชั้นนี้ออกไปแล้วก็ยังมีมาอีกชั้นหนึ่ง” ตระกูลเซียวมีทั้งอำนาจและอิทธิพล ไม่มีเซี่ยจิ่น น้องชายของเธอก็สามารถแต่งงานกับสาวที่สวยสดงดงามอายุสิบแปดปีได้ในไม่กี่นาที

เซี่ยจิ่นจะเป็นคุณย่าคนอยู่แล้ว ยังแบกรับความเสี่ยงที่จะถูกไล่ออก ดังนั้น เธอจะไม่กลัวพี่สาวของสามีได้งั้นหรือ? บนหัวเหมือนมีมีดคมเล่มหนึ่งแขวนอยู่ เมื่อไหร่ที่พี่สาวของสามีตาย เธอถึงจะสบายใจ

ดังนั้นก็สามารถคาดคะเนได้ว่า ความคิดที่เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนจะใช้ลูกเพื่อนั่งตำแหน่งลูกสะใภ้ของตนเองในตระกูลเซียวได้อย่างมั่นคง นั่นเป็นไปไม่ได้

หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโมง ณ ห้องน้ำชาหลานชิ่นที่มีชื่อเสียงที่สุดในจงโจว

กลิ่นชาหอมกรุ่น เสียงเปียโนที่ไพเราะ สองพ่อลูกนั่งอยู่ตรงข้ามกัน เซียวเซิ่งกดปลายแขนเสื้อด้านหนึ่งไว้ รินชาร้อนสองถ้วยด้วยท่าทางที่เคร่งขรึม ส่งไปให้กับบิดาอย่างนอบน้อม “พ่อ เชิญดื่มชา”

เซียวจวินเซิงกำลังจ้องมองปลายนิ้วที่สง่างามมีพลังของลูกชาย สีหน้าที่แสดงออกตามปกติ แต่สายตากลับมีความหม่นหมองอยู่บ้าง หัวใจก็สูญเสียการเต้นที่ปกติไปเช่นกัน

สิบปีแล้ว ในที่สุดลูกชายก็เรียกพ่อสักที หากเป็นคนอื่นอาจจะก้มหน้าร้องไห้โฮไปแล้วก็ได้ แต่สองพ่อลูกนี้ต่างก็ชอบทำเป็นเข้มขรึม ไม่มีทางที่จะแสดงอาการออกมา

“มีเรื่องอะไร?”เซียวจวินเซิงรับชามา แต่ไม่ได้ดื่ม

เซียวเซิ่งยกถ้วยชาขึ้นมาจิบไปนิดหน่อย เหลือบตามองไปทางบิดา “พ่อ ผมหย่าแล้ว”

“ทำไมถึงตัดใจทิ้งเอียนหยู่โรวได้แล้ว?”เซียวจวินเซิงไม่แปลกใจ อันที่จริงแล้วทันทีที่ลงจากเครื่องบิน ผู้ติดตามที่มารับที่สนามบินได้นำข่าวข่าวนี้รายงานแก่เขาเรียบร้อยแล้ว

“เดิมทีผมกับเอียนหยู่โรวไม่มีความสัมพันธ์กันจริงๆ เพียงแค่เพราะเมื่อสี่ปีก่อนเธอช่วยชีวิตผมเอาไว้ด้วยความบังเอิญ ถึงได้เก็บเธอไว้ข้างกายเพื่อตอบแทนบุญคุณ บัดนี้อยากแต่งงานเหมือนคนทั่วไป ดังนั้นเลยหย่ากับเธอแล้วค่อยแต่งงานใหม่”เซียวเซิ่งอธิบาย

ในเมื่อก่อนหน้านี้บิดาไม่ได้รับรู้ถึงการมีตัวตนของเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยน เขาเองก็ไม่อยากจะขัดแข้งขัดขาตัวเอง

เซียวจวินเซิงช่างฉลาดเฉียบแหลม เข้าใจเหตุผลที่ทำไมวันนี้ลูกชายถึงว่านอนสอนง่ายรู้กตัญญูทันที คงจะพุ่งชนเข้ากับกำแพงนั้นของเซี่ยจิ่นแล้ว “แต่ไหนแต่ไรมาแกอยากแต่งกับใครก็แต่ง จำเป็นต้องมาบอกฉันด้วยหรือ?”

เซียวเซิ่งยิ้มหวานทันที “เจ้าสาวหวังว่าจะได้การยอมรับและคำอวยพรจากพ่อสามี”

“แกบอกเธอก็ได้ว่า แกถูกฉันตัดหางปล่อยวัดไปเรียบร้อยแล้ว”เซียวจวินเซิงกล่าวอย่างเจ้าคิดเจ้าแค้น เหมือนกับว่าผูกใจเจ็บมาก “แต่งงานกับเอียนหยู่โรว แกก็ไม่ได้ขอความยินยอมจากฉัน”

“ตอนนั้นยังไม่รู้ความ ขอให้คุณพ่อโปรดอภัย”เซียวเซิ่งก้มหัวลงเล็กน้อย สีหน้ามีความรู้สึกเสียใจ เหมือนกับว่ากลับตัวกลับใจแล้ว

“ห่างกันเวลาแค่เดือนเดียวก็รู้ความแล้ว? ถ้าอย่างนั้นแกอยากจะแต่งงานกับใครนาตาลีหรือว่าพอลล่าเหลียงเข่อชิง?”เซียวจวินเซิงยกชื่อหญิงงามขึ้นมาสองชื่อ พูดเป็นนัยๆก็คือเป็นการบอกเซียวเซิ่ง ว่าแต่งงานกับผู้หญิงที่มีชื่อเสียงได้เท่านั้น

เซี่ยจิ่นนำเรื่องที่จะแลกลูกสาวมาเป็นลูกสะใภ้กับตระกูลกงบอกกับเขาแล้ว ตระกูลกงและตระกูลเซียวฐานะทางสังคมเหมาะสมกัน ลูกสาวของทั้งสองตระกูลต่างก็งดงามไม่ธรรมดา ยังเป็นการแต่งงานในเครือญาติ เขาย่อมเห็นด้วยเป็นธรรมดา

เมื่อเซียวเซิ่งเข้าใจความหมายของบิดาแล้ว แต่เสแสร้งทำเป็นไม่เข้าใจ “ไม่ใช่ทั้งนั้น ผมอยากจะแต่งงานกับน้องสาวของเอียนหยู่โรว เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยน”

เซียวจวินเซิงที่เดิมทีจะดื่มชา เมื่อได้ยินดังนั้น มือที่ถือถ้วยชาก็ชะงักทันที เหลือบมองลูกชายอย่างเย็กยะเยือก “ถ้าหากแกเป็นพ่อของฉัน ฉันเอ่ยข้อเรียกร้องแบบนี้ออกมา แกจะยอมตกลงไหม?”

“ยอม นอกเสียจากผมจะรักพ่อไม่มากพอ”

ประโยคนี้ค่อนข้างรุนแรง ถ้าหากเซียวจวินเซิงไม่ตอบตกลง ก็หมายความว่าเขาไม่รักเซียวเซิ่ง

“ฉันไม่ตกลง”เซียวจวินเซิงวางถ้วยชาลง “อย่านึกว่าเพราะแกเรียกฉันว่าพ่อ ฉันก็จะซาบซึ้งใจจนน้ำตาไหล ยอมให้แกจูงจมูกเดิน!”

ไม่ว่าเขาจะเรียกหรือไม่เรียก ตนเองก็คือพ่อของเขา

ดวงตาของเซียวเซิ่งเคร่งขรึมทันที ลูกกระเดือกขยับขึ้นลงอยู่สองสามที อดทน หากในเวลาปกติ เซียวจวินเซิงกล้าพูดให้เขาแบบนี้ เขาก็จะโมโหทันที แต่เพื่อที่จะได้อยู่กับเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยน เขาอดทนได้ทุกอย่าง

“ถึงแม้ว่าแม่จะเป็นหญิงสาวที่มีชื่อเสียงสง่างาม งดงามสุภาพ แต่พ่อก็ไม่ได้ปฏิบัติต่อเธอด้วยความรัก เพราะอะไร?”

เซียวเซิ่งไม่เพียงแค่แสดงละครเก่ง ฝีปากก็ยังยอดเยี่ยมอีกด้วย “เป็นเพราะพ่อไม่รักเธอ ดังนั้นทำอะไรก็ล้วนไม่ถูกใจ คนอื่นต่างก็นึกว่าพ่อเย็นชามาแต่กำเนิด แท้ที่จริงแล้วพ่อเพียงแค่ไม่ได้พบคนที่ทำให้พ่ออบอุ่น”

เมื่อถูกลูกชายจี้ใจดำ เซียวจวินเซิงขมวดหว่างคิ้วอย่างรุนแรงทันที ครู่ใหญ่ถึงจะเปิดปากเอ่ยถาม “แกเจอคนที่ทำให้แกอบอุ่นได้แล้ว?”

“ใช่ครับ”เซียวเซิ่งพยักหน้าอย่างจริงจัง แล้วก็ช่วยบิดายกน้ำชาใบชาเขียวแก้วหนึ่งขึ้น ด้วยท่าทางที่ว่านอนสอนง่ายรู้กตัญญูนั้น ทำให้เซียวจวินเซิงนึกถึงตอนที่ลูกชายยังเป็นเด็ก ตอนอายุห้าหกขวบช่วงที่เป็นเด็กดีที่สุด

“ไม่ว่าเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนในสายตาคนอื่นจะเป็นอย่างไร แต่ว่าในใจของผม เธอคือสีสันที่ทำให้คนประทับใจที่สุดในโลก สายตาของเธอเหมือนกับแสงอาทิตย์ที่อบอุ่นยามหน้าหนาว สาดส่องลงมาภายในใจที่เย็นชาของผม เปลี่ยนแปลงความเข้าใจของการมีชีวิตกับผม เป็นเพราะมีเธอ ผมถึงได้ตระหนักรู้ว่าเมื่อก่อนตนเองทำเรื่องผิดไปมากมาย ดังนั้นอยากจะขอโทษพ่อ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เรื่องวิวาห์ของเจ้าสาวจำเป็น