เวลาสี่ทุ่ม สนามบินนานาชาติจงโจว บุรุษที่มีออร่าสูงศักดิ์คนหนึ่งปรากฏตัวขึ้นต่อสายตาของทุกคน
บุรุษที่อยู่ในวัยหนุ่มแน่นที่เต็มไปด้วยกำลังวังชา เขาสวมชุดสีดำทั้งตัว เดินมาด้วยสีหน้าท่าทางที่เคร่งขรึม เมื่อมองแวบแรกเหมือนกับจ้าวแห่งศาสตร์มืดที่เดินออกมาจากในการ์ตูน ทำให้บรรดาบุรุษต่างพากันก้มหน้าและหลีกทางให้ตามสัญชาตญาณ แต่ใบหน้าที่หล่อเหลาราวกับแกะสลักกลับทำให้สายตาของบรรดาหญิงสาวมองอย่างเพลิดเพลินจนลืมทางกลับบ้าน
ด้านหลังเขายังติดตามด้วยผู้ติดตามคนสนิทอีกเป็นจำนวนมาก แต่ละคนสวมชุดสูทตัวตรงแน่ว เหมือนดาวล้อมเดือนที่มอบการปกป้องให้แก่เขาเพียงคนเดียว
“พ่อ ท่านกลับมาแล้ว ลำบากท่านแล้ว”
เสียงที่คุ้นหูเสียงหนึ่งดังขึ้นข้างหู เซียวจวินเซิงเงยหน้าขึ้นอย่างไม่ใส่ใจ ดวงตาเย็นชาขยับเล็กน้อย ชายหนุ่มที่หน้าตาสง่าหล่อเหลายิ่งกว่าเขาคนหนึ่งพุ่งเข้ามาในระยะที่สายตาของเขามองเห็น
เซียวเซิ่ง
ทำไมเจ้าสารเลวนี่ถึงเรียกเขาว่าพ่อ? เซียวจวินเซิงชะงักฝีเท้าทันที ดวงตาที่เยือกเย็นเฉียบแหลมเคร่งขรึมเล็กน้อย บนใบหน้าไม่มีอารมณ์ใดๆ
เมื่อผู้ติดตามทั้งหลายเห็นว่าเถ้าแก่หยุดฝีเท้าลง ต่างก็ไม่กล้าขยับเช่นเดียวกัน มองตามสายตาเขาไป เงาร่างดำทะมึนของคุณชายพุ่งเข้ามาในสายตา นอกจากความประหลาดใจแล้ว ใบหน้าล้วนปรากฏความปีติยินดี
ดูเหมือนว่าคำสาปที่ถูกแช่แข็งมาเป็นเวลาสิบปี จะสลายตัวลงแล้ว
อีกฝั่งของถนน เซียวเซิ่งที่อยู่ใต้แสงไฟ เสื้อเชิ้ตสีดำและเนกไทแฝงไปด้วยออร่ายึดใจผู้คน เส้นผมสีดำขลับที่หนาแน่นหวีไปด้านหลัง ใบหน้าที่หล่อเหลาปรากฏความอบอุ่นขึ้นมา นัยน์ตาสีดำปรากฏรอยยิ้ม งดงามเสียจนแสงไฟสีซีดไป
“ท่านประธาน”ผู้ติดตามทั้งหลายก้มศีรษะลงทำความเคารพเขา
เซียวเซิ่งยิ้มเล็กน้อยทันที กล่าวอย่างถ่อมตัวและมีมารยาท “คุณอาทั้งหลายถ่อมตัวแล้ว ต่อไปเจอผมก็ไม่ต้องพิธีรีตอง”
น่าแปลก ไม่นึกเลยว่าจอมมารเล็กจะเรียกพวกเขาว่าคุณอา พระอาทิตย์ขึ้นมาจากทางทิศตะวันตกหรือ? ทุกคนนอกจากตื่นตะลึงเพราะได้รับความเมตตาที่คาดคิดไม่ถึงแล้ว ยังตกอยู่ในสภาพสัตว์ที่ลุกลี้ลุกลนผิดปกติเพราะเกิดแผ่นดินไหว อยู่ในสภาวะวิตกกังวลอย่างต่อเนื่อง
การเดินทางของเถ้าแก่เป็นความลับมาโดยตลอด แม้แต่คุณนายเซียวเซี่ยจิ่นยังไม่มีสิทธิ์ที่จะได้รู้ แต่เมื่อได้พบคุณชายเพื่อแสดงความกตัญญู ทุ่มเทความพยายามลงไปตั้งมากมาย......
เซียวจวินเซิงจ้องมองลูกชายอย่างใจเย็นอยู่เป็นเวลานาน จับความเจ็บปวดที่อยู่เบื้องหลังความฝืนยิ้มของเขาได้ ทันใดนั้นก็มีลางสังหรณ์ที่ไม่ดีบางอย่าง หรือว่าเซียวเซิ่งรู้ถึงเรื่องราวเมื่อสิบปีก่อนแล้ว?
ไม่ ไม่น่าใช่ แท้ที่จริงแล้วเกิดเรื่องใหญ่ที่พลิกจากหน้ามือเป็นหลังมืออะไรขึ้นกัน ถึงทำให้เซียวเซิ่งผู้ที่เต็มไปด้วยความหยิ่งในศักดิ์ศรีก้มหัวได้?
“พวกแกทั้งหมดกลับไปเถอะ”ออกคำสั่งด้วยเสียงที่เรียบเฉย เซียวจวินเซิงก้าวเท้าเดินไปทางลูกชายอย่างมั่นคง......
หลายวันมานี้เซียวจวินเซิงออกไปทำงานที่ต่างประเทศ เมื่อทราบว่าพี่สาวกลับประเทศ เขารีบจบการเดินทางอย่างรีบร้อนแล้วรีบกลับมา เคารพและรักพี่สาวเป็นอย่างยิ่ง
สาเหตุที่เซียวจุนหรูอวดดีมีความมั่นใจ เหยียบหัวของเซี่ยจิ่นไปเสียทุกด้าน ก็มีความเกี่ยวข้องกับน้องชายคนดี
โบราณกล่าวไว้ว่าความจงรักภักดีและความกตัญญูไม่สามารถเป็นทั้งสองอย่างพร้อมกันได้ เหตุผลเดียวกัน แม่สามีและลูกสะใภ้ไม่สามารถเป็นทั้งสองอย่างพร้อมกันได้ พี่สาวของสามี พี่สะใภ้ไม่สามารถเป็นทั้งสองอย่างพร้อมกันได้ ให้ความสำคัญกับอย่างหนึ่ง อีกอย่างหนึ่งก็จะถูกปฏิบัติอย่างเย็นชา
โดยปกติเซียวจวินเซิงปฏิบัติต่อเซี่ยจิ่นค่อนข้างดี แต่เมื่อทันทีที่พี่สาวกลับมา ก็จะลำเอียงทันที เซี่ยจิ่นก็จะไม่มีตัวตนอีกต่อไป
เซี่ยจิ่นไม่ยอมรับในตอนแรกๆ ร้องไห้ฟูมฟายอยู่หลายครั้งหลายครา แต่ว่าเซียวจวินเซิงก็ไม่ได้สนใจลูกไม้นั้นของเธอเลยสักนิด ชาวบ้านเขาก็คือรักพี่สาวของตนเอง เธอเซี่ยจิ่นทนได้ก็ทน ทนไม่ได้ก็ไสหัวออกไปซะ ไม่สามารถส่งคุณไปได้ไกลกว่านี้แล้ว
ใช้คำของเซียวจุนหรูมาพูด “สะใภ้ก็เหมือนกับเปลือกปูนบนกำแพง เอาชั้นนี้ออกไปแล้วก็ยังมีมาอีกชั้นหนึ่ง” ตระกูลเซียวมีทั้งอำนาจและอิทธิพล ไม่มีเซี่ยจิ่น น้องชายของเธอก็สามารถแต่งงานกับสาวที่สวยสดงดงามอายุสิบแปดปีได้ในไม่กี่นาที
เซี่ยจิ่นจะเป็นคุณย่าคนอยู่แล้ว ยังแบกรับความเสี่ยงที่จะถูกไล่ออก ดังนั้น เธอจะไม่กลัวพี่สาวของสามีได้งั้นหรือ? บนหัวเหมือนมีมีดคมเล่มหนึ่งแขวนอยู่ เมื่อไหร่ที่พี่สาวของสามีตาย เธอถึงจะสบายใจ
ดังนั้นก็สามารถคาดคะเนได้ว่า ความคิดที่เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนจะใช้ลูกเพื่อนั่งตำแหน่งลูกสะใภ้ของตนเองในตระกูลเซียวได้อย่างมั่นคง นั่นเป็นไปไม่ได้
หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโมง ณ ห้องน้ำชาหลานชิ่นที่มีชื่อเสียงที่สุดในจงโจว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เรื่องวิวาห์ของเจ้าสาวจำเป็น