เรื่องวิวาห์ของเจ้าสาวจำเป็น นิยาย บท 258

อย่างไรเสียบนตัวของเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนมีลักษณะนิสัยบางอย่างที่ไม่เกรงกลัวอำนาจอยู่ข้างใน ทั้งฝีปากก็เก่งกล้า แถมยังมีความรับผิดชอบ ต่อต้านเซียวจุนหรูได้ไม่มีปัญหา

แต่ตอนนี้ตนเองยังมีหน้าอะไรไปขอความช่วยเหลือจากเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนกันล่ะ? เมื่อคิดถึงที่ตนเองปฏิบัติตัวต่อเธออย่างไร้ความเมตตา แม้แต่โทรศัพท์หาเซียวเซิ่ง เธอก็ไม่กล้าแล้วเช่นกัน

เซี่ยจิ่นใจร้อนราวกับไฟเผา เหงื่อไหลลงมาตามหน้าผากหยดเข้าไปในดวงตาของเธอ แสบตาจะตายอยู่แล้ว

“คุณลุงของฉันตัวหนักจัง”หญิงสาวที่ตัวเล็กอ่อนแอเหนื่อยจนเหงื่อไหลไคลย้อย รอให้เซียวจวินเซิงนั่งเรียบร้อย เนี่ยหยวนเกือบจะล้มพับลงบนแผ่นอกกว้างของเขา หัวใจเหมือนกำลังจะละลาย หัวใจเต้นรัวไม่เป็นจังหวะ

ถึงแม้จะพูดว่าเป็นผู้หญิงของคุณลง เป็นการทำตามคำสั่งของมารดา แต่ตนเองก็รักเขาจริงๆนะ

“ผู้ชายก็ต้องมีน้ำหนัก เบาจนเหมือนกบ ยังเรียกว่าผู้ชายอีกหรือ?”เซียวจุนหรูยิ้มตอบรับ จากนั้นยกมือขึ้นสางๆเส้นผมของน้องชาย “หยวนหยวน ไปทำซุปแก้เมาค้างให้คุณลุงหน่อยไป”

“ค่ะ”เนี่ยหยวนขานรับทีหนึ่ง

“ให้ฉันไปจัดการเถอะ”เซี่ยจิ่นลุกขึ้นยืน “สุขภาพร่างกายของเขาไม่เหมือนกับคนอื่น สัดส่วนของวัตถุดิบมีเพียงฉันที่ทราบดี”

เธอไม่ได้พกโทรศัพท์มือถือติดตัว จำเป็นต้องหาข้ออ้างออกไปโทรศัพท์ เรียกความช่วยเหลือจากภายนอกมา จะถูกรังแกอย่างเสียเปล่าไม่ได้

“ครอบครัวเดียวกันพูดว่ารังแกอะไร! คนเราต้องรู้จักดูแลภาพลักษณ์ผลประโยชน์ของส่วนรวม อดทนต่อความอัปยศอดสูชั่วคราวเพื่อให้งานยากสำเร็จ คนเจ้าเล่ห์ปากตลาดท่าทางไม่สุภาพเรียบร้อยแบบเธอ ยังวางแผนแต่งงานเข้าบ้านตระกูลผู้ลากมากดี จะตายก็ยังไม่รู้ว่าตายได้ยังไง!”

ประโยคหนึ่งที่เคยตำหนิเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนมาก่อน ตอนนี้กลายเป็นความเหลวไหลเสียแล้ว

“นำสัดส่วนบอกให้แก่หยวนหยวนก็ได้แล้วไม่ใช่หรือ?”เซียวจุนหรูมองไปทางเซี่ยจิ่นอย่างเย็นชา น้ำเสียงไม่เป็นมิตร “แม้แต่ตำรับยาเธอยังเก็บงำเอาไว้ ถ้าหากวันไหนเธอไม่อยู่แล้ว จวินเซิงก็ต้องรับให้ได้งั้นหรือ?”

ถูกพี่สาวคนโตของสามีใช้น้ำเสียงหาเรื่องทะเลาะแบบนี้ เซี่ยจิ่นโมโหจนสั่นเทาไปทั้งตัว สายตามองไปทางสามีอย่างต่อว่า หรือว่าเขาจะจัดการพี่สาวของตัวเองไม่ได้เลยหรือ? ปล่อยให้เธอทำพฤติกรรมไม่เหมาะสม!

แต่เซียวจวินเซิงไม่มีการแสดงออกใดๆ บางทีเขานึกว่าพี่สาวที่อายุมากกว่ายี่สิบปี ว่าภรรยาสักประโยคสองประโยคก็ไม่เป็นไร

ภายในใจของเซี่ยจิ่นปวดร้าวขึ้นมาทันที เสียใจจะตายอยู่แล้ว

ถ้าหากเธอยอมรับเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยน จัดการให้เซียวเซิ่งสองสามีภรรยากลับมาอยู่บ้าน สถานการณ์ไม่มีทางเป็นแบบนี้อย่างเด็ดขาด คนที่เป็นป้าไม่มีสิทธิ์มาตะคอกเสียงใส่เลยสักนิด มีเพียงแค่เธอเซี่ยจิ่นเป็นผู้มีอำนาจตัดสินใจเรื่องภายในครอบครัวเท่านั้น......

“ทำไมเธอยังไม่ให้อีกล่ะ?”เซียวจุนหรูถามด้วยเสียงเคร่งขรึม

เซี่ยจิ่นที่ทั้งโดดเดี่ยวและอ่อนแอไร้หนทางขัดขืน ทำได้แค่นั่งลงไปอีกครั้ง นำส่วนประกอบเขียนให้แก่เนี่ยหยวนอย่างกล้ำกลืนฝืนทน มือที่จับปากกาสั่นเทาตลอดเวลา

ถึงจะแค่มอบสูตรยาแก้เมาค้างออกไป เธอก็ไม่ทนรับไม่ไหวแล้ว ถ้าหากจะต้องนำสามีมอบออกไปให้จริงๆ เธอจะต้องตายอย่างแน่นอน

แท้ที่จริงแล้วการถูกพยายามนำคนมาแทรกกลางระหว่างคนรัก คือความเจ็บปวดแทบขาดใจเช่นนี้! เซี่ยจิ่นดูเหมือนว่าจะสามารถเข้าใจสาเหตุที่เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนมีท่าทางที่เย็นชาต่อเธอได้อย่างรวดเร็ว หลังจากที่ได้เจอกับกงเจี๋ยหรูแล้ว

นึกไม่ถึงว่า เวรกรรมจะตามทันได้รวดเร็วถึงเพียงนี้!

เขาเพิ่งจะจัดการกับเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนไป แต่ว่าเพียงแค่ชั่วพริบตาเดียวตนเองก็ถูกคนอื่นจัดการเสียแล้ว

เซี่ยจิ่นราวกับส่วนเกินเมื่ออยู่ตรงนี้ เจ็บปวดราวกับโดนเข็มทิ่มแทง แต่ว่าสามคนพี่น้องตระกูลเซียวกลับพูดคุยกันอย่างสนิทสนม “ฮ่าฮ่า มีภาพวาดภาพไหนของพี่สาวผมที่ไม่มีคุณค่าบ้าง......”

“พี่ ไม่ได้กินห่อสิ่วโอว(พืชเถาวัลย์ชนิดหนึ่ง)พันปี ที่ผมซื้อให้พี่ครั้งก่อนหรือ?”เซียวจวินเซิงมองพี่สาวอย่างเจ็บปวดใจ “ทำไมผมขาวถึงโผล่มาให้เห็นมากมายอีกแล้ว?”

“กินไปบางส่วนแล้ว”เซียวจุนหรูถอนหายใจ “ฉันอายุเจ็บสิบแล้ว ใกล้จะลงโรงแล้ว กินไปก็เห็นผลไม่มาก ส่วนที่เหลือทั้งหมดฉันนำกลับมาด้วยแล้ว พรุ่งนี้ให้หยวนหยวนทำให้เธอกิน”

“พี่ พี่พูดจาอะไรน่ะ?”เซียวจวินเซิงกุมขมับอย่างเวียนหัวเล็กน้อย “อย่าพูดอะไรลงโรง อายุเจ็ดสิบแล้วยังไงกัน พี่สาวผมอายุยืนยาวร้อยปี”

“ฉันมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นานแล้ว สิ่งที่ภายในใจปล่อยวางไม่ได้มากที่สุดก็คือเธอและจวินม่อ”เซียวจุนหรูเริ่มปาดน้ำตา

ทุกครั้งที่เจอหน้าเธอมักจะพูดว่าตนเองมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน สองคนพี่น้องมักจะถูกพูดขู่จนไม่กล้าเอ่ยปากพูดสักแอะ ทำได้แค่เพียงโอนอ่อนตามเธอทุกอย่าง

เซียวจุนหรูร้องไห้จนพอใจแล้ว มองไปรอบๆหนึ่งรอบ ออร่ากลับคืนมาตามสภาพเดิม “ถือโอกาสที่พวกเราสามคนพี่น้องอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา เซี่ยจิ่นเองก็ไม่ใช่คนนอก ฉันมีเรื่องอยากจะบอกสักหน่อย”

“ตอนนี้ดึกมากแล้ว”เซียวจวินเซิงงอแขนขึ้นมา ขวมดคิ้วมองนาฬิกาข้อมือแบรนด์สวิส “พี่ มีเรื่องอะไรพรุ่งนี้พวกเราค่อยว่ากันเถอะ”

“ไม่ได้ คืนนี้ไม่พูด ถ้าหากฉันตายอย่างกะทันหันเพราะโรคกำเริบตอนกลางคืนล่ะ?”หญิงชราดื้อรั้นหัวชนฝา

“ถ้าอย่างนั้นพี่ก็พูดมา”เซียวจวินเซิงยอมล่าถอยอย่างจำใจ

“นับตั้งแต่วันนั้นที่รับเลี้ยงเนี่ยหยวน ฉันก็คิดที่จะยกเธอให้กับแก”เซียวจุนหรูดึงมือของน้องชายเอาไว้ “ดังนั้นจึงได้ปลูกฝังเธอว่าจะต้องดูแลแกยังไงมาโดยตลอด เธอก็ยอมที่จะเรียนรู้ บัดนี้เธอใกล้จะอายุสิบแปดปีแล้ว แกก็รับเธอเอาไว้เถอะ! แกมีคนที่คอยดูแลติดตัวสักคน ฉันก็นอนตาหลับแล้ว”

ภายในใจของเซียวจวินเซิงก็ตึงเครียดขึ้นมาทันที ตกใจจนสร่างเมา “พี่ พี่คิดจะทำอะไรกันแน่?”

“คุณป้าของเซียวเซิ่ง คุณหมายความว่ายังไง พูดให้มันชัดเจนอีกที!”เซี่ยจิ่นถามด้วยสีหน้าที่ขาวซีดราวกับกระดาษ น้ำเสียงสั่นเทา

“ความหมายชัดเจนมาก ฉันกลัวกว่าน้องชายของฉันจะได้รับความลำบาก”เซียวจุนหรูเอ่ยกล่าวด้วยใบหน้าเย็นยะเยือก ขมวดคิ้วแล้วมองไปทางเซียวจวินเซิง “ถ้าอยู่ในสมัยโบราณก็คือให้เธอเป็นอนุภรรยาของแก แค่ตอนนี้ไม่ได้เรียกแบบนี้แล้ว แต่ความหมายไม่ได้เปลี่ยนแปลง คืนนี้พวกเธอก็ร่วมหอกันซะ”

“พี่ เธอเป็นลูกสาวของพี่!”นัยน์ตาดำขลับเซียวจวินเซิงเคร่งขรึมทันที สีหน้าท่าทางจริงจังขึ้นมา “เนี่ยหยวนเพิ่งจะอายุเท่าไหร่ พี่อย่าทำลายทั้งชีวิตของเธอ!”

“เรียกว่าทำลายเธอได้อย่างไร?”เซียวจุนหรูพูดอย่างหนักแน่น “ฉันถึงรับเลี้ยงเธอเพราะอะไร ก็เพื่อเธอ คุณย่ารองในละครเรื่องThe Grand Mansion Gate รู้จักไหม เธอก็ตกรางวัลเป็นหญิงสาวให้ลูกชายตนเองอยู่บ่อยๆ เนื่องจากแกคือน้องชายของฉัน ฉันถึงให้สิ่งนี้กับแก ถ้าหากเธอเป็นลูกชายของฉัน ฉันจะยกให้เธอสักสิบคนแปดคน......”

“เซียวจุนหรู คุณมันวิปริตจริงๆ!”เซี่ยจิ่นโมโหเป็นอย่างยิ่ง ลุกขึ้นยืนแล้วตะคอก ไม่มีความสง่างามในอดีตอีกต่อไป

“เพี๊ยะ!”เซียวจวินม่อตบฉาดลงบนโต๊ะ ชี้ไปที่จมูกของเซี่ยจิ่น “พี่สะใภ้ พี่โปรดระวังคำพูดด้วย! พี่สาวของผมโตกว่าพี่ยี่สิบปี พี่กล้าด่าเธอ? ถ้าอาศัยข้อนี้ พี่ชายผมก็ควรจะต้องหย่ากับพี่ ขอโทษพี่สาวผม!”

ขอโทษ ไม่มีทาง เซี่ยจิ่นโมโหจนหัวใจสั่นเทาไม่หยุด มองไปทางเซียวจวินเซิงน้ำตารื้น “ที่รัก คุณพูดอะไรสักคำเถอะ”

“ผมไม่เห็นด้วย พี่”เซียวจวินเซิงไม่ได้สนใจเซี่ยจิ่น เพียงแค่พูดกับพี่สาวด้วยเหตุผลอย่างอ่อนโยน “ไม่ว่าผมจะแต่งงานกับใครไปแล้ว นั่นก็คือชั่วชีวิต ผมเป็นคนที่มีลูกชายลูกสาว ถ้าหากทำอะไรส่งเดช จะเอาหน้าที่ไหนไปเจอหน้าพวกเขากัน?”

อีกอย่างเขากับเซียวเซิ่งก็เพิ่งจะคลี่คลายลง ช่วงเวลาสำคัญแบบนี้จะผิดพลาดไม่ได้อย่างเด็ดขาด

ถึงแม้จะเซียวเซิ่งจะโมโหมารดา แต่เมื่อเป็นเรื่องสำคัญจะต้องเข้าข้างฝั่งมารดาอย่างแน่นอน เวลานั้นก็จะต้องมองเขาเป็นศัตรูอีก......ภายในใจของเซียวจวินเซิง ลูกชายสำคัญกว่าผู้หญิง

เมื่อเห็นว่าสามีเมาเหล้าแต่ไม่เมารัก เซี่ยจิ่นซาบซึ้งใจจนดวงตาแดงก่ำ น้ำตารื้นเต็มตาขึ้นมาอีกครั้ง หัวใจสั่นเทาไม่หยุด......แต่งงานกับผู้ชายแบบเซียวจวินเซิงนี้ คุ้มค่า!

แต่ว่าเธอดีใจเร็วเกินไป วินาทีต่อมาพี่สาวคนโตของสามีก็โฮ่ร้องเสียงดังขึ้นมา “ฉันไม่สามารถมีชีวิตอยู่ต่อไปได้แล้ว! เซี่ยจิ่นคนนั้นไม่ใช่ภรรยาที่ดีของสามีแม่ที่ดีของลูก วันวันเอาแต่พูดคุยเรื่องธุรกิจ จะเอาเวลาที่ไหนไปดูแลแก? ฉันจำเป็นต้องปลูกฝังเด็กผู้หญิงเอาไว้เพื่อดูแลแก แกไม่ต้องการหยวนหยวน ก็เท่ากับรังเกียจฉัน ฉันจะพาเธอไปเดี๋ยวนี้!”

เมื่อเห็นว่าพี่สาวใช้ความตายมาข่มขู่ เซียวจวินเซิงก็รู้สึกจนปัญญาทันที

เมื่อเซียวจุนหรูเห็นว่าน้องชายเป็นคนซื่อสัตย์ ก็หันไปต่อว่าเซี่ยจิ่นอีกครั้ง “ในเมื่อเธอเป็นหญิงแกร่ง ตนเองหาเงินได้มากมาย ถ้าอย่างนั้นเธอใช้ชีวิตด้วยตนเองก็ได้นี่ ก็ไม่จำเป็นต้องการสามี พวกเธอ หย่ากันเถอะ!”

เซี่ยจิ่นสั่นระริกเม้มริมฝีปาก ดวงตากลายเป็นสีแดงฉาน “ผู้หญิงหาเงินเก่งก็มีความผิด?”

“ผู้หญิงหาเงินเก่งไม่ผิด ผิดที่เธอแต่งงานเข้าตระกูลพวกเรา ตระกูลของพวกเราไม่ต้องการผู้หญิงแกร่ง!”เซียวจุนหรูโบกมือ เอ่ยกล่าวอย่างทรงพลัง

เซี่ยจิ่นอยากเถียงกับเธอ แต่ไปเห็นน้องชายสามีที่กำลังจ้องอย่างกินเลือดกินเนื้อ ก็เลยไม่กล้าพูดอะไรอีก

คนท้องถิ่นของจงโจวเข้าใจประโยคหนึ่งดี——น้องชายสามีทำร้ายพี่สะใภ้ สมเหตุสมผล

สุดท้ายทั้งสองฝ่ายประนีประนอมกัน อย่างไรเสียเซียวจวินเซิงก็ต้องรับเนี่ยหยวนเอาไว้ ความสัมพันธ์ภายนอกก็คือคุณลุงกับหลานสาว ส่วนภายในก็คือแบบนั้น......แต่วันเวลาที่ร่วมหอกันกำหนดไว้ในวันเกิดของเนี่ยหยวนคืนนั้น

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เรื่องวิวาห์ของเจ้าสาวจำเป็น