อย่างไรเสียบนตัวของเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนมีลักษณะนิสัยบางอย่างที่ไม่เกรงกลัวอำนาจอยู่ข้างใน ทั้งฝีปากก็เก่งกล้า แถมยังมีความรับผิดชอบ ต่อต้านเซียวจุนหรูได้ไม่มีปัญหา
แต่ตอนนี้ตนเองยังมีหน้าอะไรไปขอความช่วยเหลือจากเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนกันล่ะ? เมื่อคิดถึงที่ตนเองปฏิบัติตัวต่อเธออย่างไร้ความเมตตา แม้แต่โทรศัพท์หาเซียวเซิ่ง เธอก็ไม่กล้าแล้วเช่นกัน
เซี่ยจิ่นใจร้อนราวกับไฟเผา เหงื่อไหลลงมาตามหน้าผากหยดเข้าไปในดวงตาของเธอ แสบตาจะตายอยู่แล้ว
“คุณลุงของฉันตัวหนักจัง”หญิงสาวที่ตัวเล็กอ่อนแอเหนื่อยจนเหงื่อไหลไคลย้อย รอให้เซียวจวินเซิงนั่งเรียบร้อย เนี่ยหยวนเกือบจะล้มพับลงบนแผ่นอกกว้างของเขา หัวใจเหมือนกำลังจะละลาย หัวใจเต้นรัวไม่เป็นจังหวะ
ถึงแม้จะพูดว่าเป็นผู้หญิงของคุณลง เป็นการทำตามคำสั่งของมารดา แต่ตนเองก็รักเขาจริงๆนะ
“ผู้ชายก็ต้องมีน้ำหนัก เบาจนเหมือนกบ ยังเรียกว่าผู้ชายอีกหรือ?”เซียวจุนหรูยิ้มตอบรับ จากนั้นยกมือขึ้นสางๆเส้นผมของน้องชาย “หยวนหยวน ไปทำซุปแก้เมาค้างให้คุณลุงหน่อยไป”
“ค่ะ”เนี่ยหยวนขานรับทีหนึ่ง
“ให้ฉันไปจัดการเถอะ”เซี่ยจิ่นลุกขึ้นยืน “สุขภาพร่างกายของเขาไม่เหมือนกับคนอื่น สัดส่วนของวัตถุดิบมีเพียงฉันที่ทราบดี”
เธอไม่ได้พกโทรศัพท์มือถือติดตัว จำเป็นต้องหาข้ออ้างออกไปโทรศัพท์ เรียกความช่วยเหลือจากภายนอกมา จะถูกรังแกอย่างเสียเปล่าไม่ได้
“ครอบครัวเดียวกันพูดว่ารังแกอะไร! คนเราต้องรู้จักดูแลภาพลักษณ์ผลประโยชน์ของส่วนรวม อดทนต่อความอัปยศอดสูชั่วคราวเพื่อให้งานยากสำเร็จ คนเจ้าเล่ห์ปากตลาดท่าทางไม่สุภาพเรียบร้อยแบบเธอ ยังวางแผนแต่งงานเข้าบ้านตระกูลผู้ลากมากดี จะตายก็ยังไม่รู้ว่าตายได้ยังไง!”
ประโยคหนึ่งที่เคยตำหนิเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนมาก่อน ตอนนี้กลายเป็นความเหลวไหลเสียแล้ว
“นำสัดส่วนบอกให้แก่หยวนหยวนก็ได้แล้วไม่ใช่หรือ?”เซียวจุนหรูมองไปทางเซี่ยจิ่นอย่างเย็นชา น้ำเสียงไม่เป็นมิตร “แม้แต่ตำรับยาเธอยังเก็บงำเอาไว้ ถ้าหากวันไหนเธอไม่อยู่แล้ว จวินเซิงก็ต้องรับให้ได้งั้นหรือ?”
ถูกพี่สาวคนโตของสามีใช้น้ำเสียงหาเรื่องทะเลาะแบบนี้ เซี่ยจิ่นโมโหจนสั่นเทาไปทั้งตัว สายตามองไปทางสามีอย่างต่อว่า หรือว่าเขาจะจัดการพี่สาวของตัวเองไม่ได้เลยหรือ? ปล่อยให้เธอทำพฤติกรรมไม่เหมาะสม!
แต่เซียวจวินเซิงไม่มีการแสดงออกใดๆ บางทีเขานึกว่าพี่สาวที่อายุมากกว่ายี่สิบปี ว่าภรรยาสักประโยคสองประโยคก็ไม่เป็นไร
ภายในใจของเซี่ยจิ่นปวดร้าวขึ้นมาทันที เสียใจจะตายอยู่แล้ว
ถ้าหากเธอยอมรับเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยน จัดการให้เซียวเซิ่งสองสามีภรรยากลับมาอยู่บ้าน สถานการณ์ไม่มีทางเป็นแบบนี้อย่างเด็ดขาด คนที่เป็นป้าไม่มีสิทธิ์มาตะคอกเสียงใส่เลยสักนิด มีเพียงแค่เธอเซี่ยจิ่นเป็นผู้มีอำนาจตัดสินใจเรื่องภายในครอบครัวเท่านั้น......
“ทำไมเธอยังไม่ให้อีกล่ะ?”เซียวจุนหรูถามด้วยเสียงเคร่งขรึม
เซี่ยจิ่นที่ทั้งโดดเดี่ยวและอ่อนแอไร้หนทางขัดขืน ทำได้แค่นั่งลงไปอีกครั้ง นำส่วนประกอบเขียนให้แก่เนี่ยหยวนอย่างกล้ำกลืนฝืนทน มือที่จับปากกาสั่นเทาตลอดเวลา
ถึงจะแค่มอบสูตรยาแก้เมาค้างออกไป เธอก็ไม่ทนรับไม่ไหวแล้ว ถ้าหากจะต้องนำสามีมอบออกไปให้จริงๆ เธอจะต้องตายอย่างแน่นอน
แท้ที่จริงแล้วการถูกพยายามนำคนมาแทรกกลางระหว่างคนรัก คือความเจ็บปวดแทบขาดใจเช่นนี้! เซี่ยจิ่นดูเหมือนว่าจะสามารถเข้าใจสาเหตุที่เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนมีท่าทางที่เย็นชาต่อเธอได้อย่างรวดเร็ว หลังจากที่ได้เจอกับกงเจี๋ยหรูแล้ว
นึกไม่ถึงว่า เวรกรรมจะตามทันได้รวดเร็วถึงเพียงนี้!
เขาเพิ่งจะจัดการกับเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนไป แต่ว่าเพียงแค่ชั่วพริบตาเดียวตนเองก็ถูกคนอื่นจัดการเสียแล้ว
เซี่ยจิ่นราวกับส่วนเกินเมื่ออยู่ตรงนี้ เจ็บปวดราวกับโดนเข็มทิ่มแทง แต่ว่าสามคนพี่น้องตระกูลเซียวกลับพูดคุยกันอย่างสนิทสนม “ฮ่าฮ่า มีภาพวาดภาพไหนของพี่สาวผมที่ไม่มีคุณค่าบ้าง......”
“พี่ ไม่ได้กินห่อสิ่วโอว(พืชเถาวัลย์ชนิดหนึ่ง)พันปี ที่ผมซื้อให้พี่ครั้งก่อนหรือ?”เซียวจวินเซิงมองพี่สาวอย่างเจ็บปวดใจ “ทำไมผมขาวถึงโผล่มาให้เห็นมากมายอีกแล้ว?”
“กินไปบางส่วนแล้ว”เซียวจุนหรูถอนหายใจ “ฉันอายุเจ็บสิบแล้ว ใกล้จะลงโรงแล้ว กินไปก็เห็นผลไม่มาก ส่วนที่เหลือทั้งหมดฉันนำกลับมาด้วยแล้ว พรุ่งนี้ให้หยวนหยวนทำให้เธอกิน”
“พี่ พี่พูดจาอะไรน่ะ?”เซียวจวินเซิงกุมขมับอย่างเวียนหัวเล็กน้อย “อย่าพูดอะไรลงโรง อายุเจ็ดสิบแล้วยังไงกัน พี่สาวผมอายุยืนยาวร้อยปี”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เรื่องวิวาห์ของเจ้าสาวจำเป็น