ในฐานะที่เป็นคนบ้าคนหน้าตาดีอย่างมากคนหนึ่ง ตั้งแต่เกิดมาอูเจินจูก็หลงรักแต่เทพบุตรเท่านั้น ทันทีที่ได้เห็นเทพบุตรระดับนี้ ในดวงตาของเธอก็จะปรากฏคลื่นจักรวาลเล็กระลอกแล้วระลอกเล่า
แน่นอนว่าเธอรู้ดีว่ารูปร่างหน้าตาของตนเองธรรมดา ไม่มีทางได้ครอบครองเทพบุตร ทำได้เพียงแค่ชื่นชมก็เท่านั้น ในเมื่อเซียวเซิ่งเป็นราชาในบรรดาเทพบุตร ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตามเธอก็จะต้องจับเอาไว้ให้อยู่หมัดเพื่อพี่น้อง จะมอบให้แก่คนนอกอย่างง่ายดายไม่ได้
เมื่อคิดถึงตรงนี้ อูเจินจูก็หันไปยิ้มแย้มอย่างมีความหมายลึกซึ้งกับเซียวเซิ่ง หันหลังกลับเดินไปทางห้องของเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยน
เซียวเซิ่งก็เก็บรอยยิ้มลงไปอย่างรวดเร็ว แขนข้างหนึ่งวางอยู่บนโซฟา สีหน้าเย็นชาน่ากลัว สง่างามและชั่วร้ายซึ่งแตกต่างจากเมื่อตอนที่แสดงละครกับอูเจินจูราวกับคนละคน บนโลกนี้ มีเพียงแค่เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนเท่านั้นที่จะได้รับรอยยิ้มที่จริงใจของเขา
ก๊อกก๊อก
เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนที่กำลังแอบนอนร้องไห้ เมื่อได้ยินเสียงเคาะประตูก็สะดุ้งตกใจ ปาดน้ำตาอย่างลนลานแล้วเอ่ยถาม “ใครน่ะ?”
“ฉันเอง”เสียงที่เป็นเอกลักษณ์ของอูเจินจูดังลอยมา “ยังไม่นอนใช่ไหม พี่เข้าไปละนะ”
พูดจบก็ไม่ได้ให้เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนปฏิเสธ บิดที่จับเปิดเข้าไปทันที ตอนที่ปิดประตู เธอตั้งใจแง้มประตูเอาไว้เป็นพิเศษ
และเซียวเซิ่งก็แอบย่องไปที่ข้างประตูอย่างไร้เสียง หลังพิงกับกำแพง เอียงหัวเล็กน้อยไปมองที่ระหว่างช่องของประตู......
เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนนั่งปาดน้ำตาจากหางตาอยู่ตรงนั้น ใบหน้าเล็กที่งดงามมีประกายของน้ำตา ดวงตากลมโตคู่นั้นเปียกชื้น น้ำตาเกาะอยู่ที่ปลายขนตา ริมฝีปากอมชมพูงดงามเป็นที่สุดเมื่ออยู่ภายใต้แสงไฟ
เธอร้องไห้ตลอดเวลาเลยงั้นหรือ?
หัวใจของเซียวเซิ่งบีบรัดขึ้นมาฉับพลัน ร้อนใจจนดวงตาแดงฉานขึ้นมาทันที แทบอยากจะพุ่งตัวเข้าไปเสียตอนนี้ นำเธอมากอดไว้ในอ้อมอกแน่นๆ ไม่คลายอ้อมกอด
เขาไม่สามารถทนดูเธอเสียน้ำตาได้
ทุกครั้งที่เธอร้องไห้ เขารู้สึกว่าทั่วทั้งตัวไร้เรี่ยวแรง เข่าอ่อนจนอยากจะคุกเข่า เซลล์ทั้งหมดของร่างกายต่างก็เจ็บปวดจนเหมือนถูกควักหัวใจออกมา......
“เธอร้องไห้ทำไม?”เมื่อเห็นท่าทางที่น่าสงสารของเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยน อูเจินจูก็ทุกข์ใจอยู่ครู่หนึ่ง “ฉันบอกว่าเธอร้องไห้ตลอดเวลาเลยใช่ไหม? คิดถึงเซียวเซิ่งแล้วใช่ไหม? กลัวว่าเขาจะไม่แต่งงานกับเธออีกครั้ง กลัวว่าเขาจะทอดทิ้งเธอ?”
“ไม่ได้ร้องไห้ตลอดเวลานะ ฉันไม่ได้อ่อนแอขนาดนั้นซะหน่อย”เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนสูดจมูกทีหนึ่ง เอ่ยกล่าวอย่างหลบเลี่ยง
“เธอปิดบังความคิดเล็กๆนั้นกับฉันไม่ได้หรอก!”อูเจินจูจ้องมองเธอตาเขม็ง “ภายนอกไม่ใส่ใจ แต่ภายในใจบอบช้ำ ว่าแต่เสี่ยวเนี่ยนท้ายที่สุดแล้วเธอตกเป็นอยู่ในฐานะเบี้ยล่าง ถ้าหากตระกูลไม่เซียวไม่ยอมรับเธอตลอดไป เธอจะทำอย่างไร?”
ทันทีที่ถูกเธอถามแบบนี้ จมูกของเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนก็ปวดร้าวทันที น้ำตาไหลพรากออกมาอย่างควบคุมเอาไว้ไม่ได้อีกครั้ง “เจินจู ฉันขบคิดมาค่อนวัน คิดเสมอว่าวาสนาของฉันกับเซียวเซิ่งมาได้ถึงแค่ตรงนี้แล้ว”
เธอเหลวไหลสิ้นดี เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยน! เซียวเซิ่งโมโหจนอยากจะถีบประตู ยกขาขึ้นมาแล้ว ก็ค่อยๆวางกลับลงไป
ฟังดูก่อนว่าเธอจะพูดอย่างไร
“จะเป็นไปได้ยังไง?”อูเจินจูอารมณ์ฉุนเฉียวที่เธอร้องไห้ มองไปทางช่องประตูแวบหนึ่ง เสนอความคิดเห็นอย่างลองเชิง “ถ้าไม่อย่างนั้นฉันเรียกตัวเซียวเซิ่งมา เธอไปกับเขาเถอะ! ฉันคิดว่าหนีตามผู้ชายไปจะดีกว่า”
“ไม่ล่ะ”เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนเงยหน้ามองไปทางฝ้าเพดาน บังคับให้น้ำตากลับลงไป “ฉันไม่สามารถให้เซียวเซิ่งละทิ้งอนาคตที่สดใส แล้วมาใช้ชีวิตที่แขวนอยู่บนเส้นด้ายกับฉัน การอยู่ด้วยกันแบบนี้ก็จะไม่มีทางมีความสุข”
อีกอย่างถ้าหากหนีก็อาจจะถูกจับตัวกลับมาได้ ถึงตอนนั้นจะยิ่งแย่เข้าไปใหญ่
แม่ของเซียวเซิ่งยังร้ายกาจมากขนาดนั้น คงไม่ต้องพูดถึงพ่อของเขา? ตนเองยังมีลูกชายอายุสามขวบอีกคนหนึ่ง จะให้ไปเสี่ยงอันตรายง่ายๆไม่ได้
“ถ้าอย่างนั้นก็ให้เขามาหาสักรอบ?”อูเจินจูอยากจะนำเซียวเซิ่งดันออกมา “พวกเธอระบายความในใจที่คิดถึงกันและกันหน่อยก็ดี”
“ไม่ต้องหรอก”เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนส่ายหน้าอีกครั้ง “การหย่าร้างก็ต้องมีท่าทีของการหย่าร้าง ฉันไม่มีทางขอร้องให้ชาวบ้านเขามาดูฉัน ยิ่งไม่อยากจะตัวติดกันกับเขา ถึงอย่างไรฉันกับเขาก็ไม่เกี่ยวข้องกันแล้ว ชาวบ้านเขาไม่ได้มีหน้าที่ที่ต้องเรียกปุ๊บต้องมาปั๊บ”
ได้ยินมาว่าผู้ชายล้วนรำคาญภรรยาที่เจ้าคิดเจ้าแค้น ลักษณะท่าทางของเธอในตอนนี้ จะมีหน้าไปพบเซียวเซิ่งได้อย่างไรกัน?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เรื่องวิวาห์ของเจ้าสาวจำเป็น