ทั้งสองร่างกลิ้งพลิกไปมา ลงเขาไปด้วยกัน
เมฆขาวบนท้องฟ้าและดอกไม้ใบหญ้ากลับหัวหลับหางไปหมด หญ้าสีเขียวถูกกดเป็นรอยทอดยาว ตั้งแต่เนินเขาลงไปถึงตีนเขา กลิ่นหอมตลบอบอวล......
เขารัดเธอไว้อย่างแน่น แม้แต่อากาศก็เข้าไปไม่ได้ แขนทั้งสองรัดแน่นที่ด้านหลังของเธอ กอดเข้าแนบชิดกับร่างกายของตัวเอง ไม่ให้แม้แต่หินกรวดทำร้ายร่างกายที่อ่อนโยนของเธอ
ขาที่เรียวยาวทั้งสองข้างของเธอวางอยู่บนหน้าขาของเขา ท่าทางแบบนี้......อึก เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนหน้าแดงอย่างมาก หลบสายตาจากใบหน้าของคนสูงใหญ่ตรงหน้าด้วยความเขินอาย มองทิวทัศน์ที่กลับหัวกลับหางอยู่อย่างต่อเนื่อง ทนดูภาพตรงหน้าไม่ได้ เสียงลมพัดดังมา
“ฟู่ว…...” ริมฝีปากจู่ๆก็ถูกความร้อนแผดเผา เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนรีบหลบสายตา ทันใดนั้นก็ชนกับสายตาของเซียวเซิ่งที่เต็มไปด้วยความเป็นห่วง ปลายจมูกที่โด่งเป็นสันของเขาคลาดกันเล็กน้อยกับปลายจมูกของเธอ แล้วประทับไปที่ริมฝีปากของเธออย่างตั้งใจ
อะๆๆ......ในสถานการณ์อันตรายแบบนี้ เขายังมีเวลาเอาเปรียบเธองั้นเหรอ?
ผู้ชายคนนี้......จะบอกว่าเลว ก็เลวเข้ากระดูก;แต่เขากลับมีความสามารถเปลี่ยนแปลงบรรยากาศของสถานการณ์ได้
เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนถูกจูบจนตาลาย ร่างกายเริ่มร้อน กอดเอวของเขาแน่นอย่างไม่รู้ตัว ทั้งสองจูบสลับกันไป ราวกับกระแสน้ำขึ้นลง จนเธอหายใจไม่ทัน เขาถึงค่อยๆปล่อยเธอ ค่อยหายๆใจแต่ริมฝีปากยังคงติดกันอยู่
ปัก!
หลังจากที่หมุนไปหมุนมา ร่างกายทั้งสองที่แนบชิดกัน ก็ตกลงบนแปลงผักกาด ละอองเกสรสีเหลืองถูกกระแทกจนลอยละล่องไปในอากาศ และในที่สุดก็หยุดกลิ้ง
ผักกาดที่สูงนั้นบังวิสัยทัศน์ด้านนอก กลีบดอกไม้สีเหลืองโปรยลงมาบนร่างกายทั้งสองคน
เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนถูกชายหนุ่มกดทับอยู่ด้านล่างเขา ขณะที่หายใจก็ได้กลิ่นน้ำหอมจากตัวเขา ริมฝีปากอยู่ใกล้แค่เอื้อม ลมหายใจอุ่นๆประสานเข้าหากัน บรรยากาศก็ค่อยๆ......แปลกไป
เขาจ้องเธออย่างนิ่งๆ พยายามเอามือไปด้านหลังเธอเพื่อตรวจสอบ รู้สึกว่าไม่มีรอยบาดเจ็บอะไรก็เลยวางลง แล้วถามเสียงแหบพร่า “ตกใจไหม?”
เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนส่ายหน้า มองเขากลับ นัยน์ตาที่ถูกน้ำตาไหลผ่านทำให้ผู้คนหลงใหล เธอไม่รู้สึกว่ากลัวเลยสักเล็กน้อย ในทางกลับกันมีความตื่นเต้นเล็กน้อยในร่างกายวนเวียนอยู่
“บาดเจ็บตรงไหนไหม?” เขาถามต่อ
เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนส่ายหน้าอีกครั้ง ตัวเองถูกกอดแน่นขนาดนั้น จะบาดเจ็บตรงไหนได้ “คุณ คุณล่ะ?”
“คุณเป็นห่วงผม?” จู่ๆก็เกิดความอบอุ่นขึ้นในหัวใจ เซียวเซิ่งมองเธอด้วยสายตาอมยิ้ม มือลูบไปยังแผ่นหลังที่เนียนละเอียดของเธอ อดไม่ได้ที่จะกอดเธอให้แนบชิดกับร่างกาย
“ฉันจั๊กจี้ มือของคุณ......” เอาออกไปได้ไหม?
มองผู้หญิงในอ้อมกอดที่สั่นเทาไม่หยุด เซียวเซิ่งถึงนึกขึ้นได้ว่าภรรยาน้อยของเขาเป็นคนไวต่อความรู้สึก ไม่เคยผ่านมือชายใด เลยยิ้มมุมปาก “มือของผมถูกคุณทับอยู่น่ะ”
“ขอ ขอโทษ” เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนอับอาย แล้วรีบยกตัวขึ้นเพื่อจะเอามือของเขาออกมา แต่ใครจะไปรู้ว่าริมฝีปากของเธอจะเผลอยกขึ้นประชิดกับริมฝีปากของเขา......
ใบหน้าของเธอแดงก่ำ แล้วถอยหลังออก แต่เขากลับไม่อนุญาต ฝ่ามือรองแผ่นหลังเธอให้เข้ามาใกล้ตัวเอง ทันใดนั้นก็เพิ่มแรงบนริมฝีปาก จูบเธออย่างโหดเหี้ยม ลิ้มรสบนริมฝีปากเธอที่หอมหวานไม่สิ้นสุด......
“อึก!”
เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนเขินอายอย่างมาก แล้วกัดไปที่ริมฝีปากเขา ทำให้ตัวเองหลุดพ้นออกมาได้สำเร็จ
“เนี่ยนเอ๋อร์ ผมไม่เคย…...” ผมไม่เคยสูญเสียการควบคุมขนาดนี้เลย
“มาเป็นผู้หญิงของผม” จ้องไปที่ใบหน้าที่เขินอายของหญิงสาว ความต้องการในร่างกายของเซียวเซิ่งก็พลุ่งพล่านขึ้นทันทีทันใด อารมณ์ของเขานั้นยากจะควบคุม มือของเขาข้างหนึ่งรองเอวของเธอ มืออีกข้างหนึ่งแกะกระดุมของตัวเองอย่างรวดเร็ว
“อะ!” เสียงแหลมที่บีบหัวใจ หยุดการเคลื่อนไหวของเขาไว้ ที่ขมับของเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนจู่ๆก็มีเหงื่อผุดขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
มองสีหน้าซีดเผือดด้วยความเจ็บปวดของหญิงสาวตรงหน้า เซียวเซิ่งก็ใจร้อนขึ้นมาจนวิญญาณเขาเกือบหลุดออกจากร่าง แล้วยกเธอขึ้นมาวางบนขาเขา ถามอย่างรีบร้อน “เป็นอะไร? เจ็บตรงไหนเปล่า?”
“ข้อเท้าเจ็บ......มาก!”
“ไม่ต้องกลัวนะ ผมขอดูหน่อย” เซียวเซิ่งถกขากางเกงของเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนขึ้น เห็นว่ามีเลือดสองหยดไหลลงมาจากข้อเท้าของเธอที่ขาวดุจหิมะ สายตาเขาก็แข็งขึ้นมา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เรื่องวิวาห์ของเจ้าสาวจำเป็น