“สองวันแล้ว ทำไมเธอยังไม่ฟื้น”
เซียวเซิ่งนั่งอยู่ข้างเตียงของเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนที่ห้องพักผู้ป่วยVIPระดับสูงของโรงพยาบาลโนเบิลซูจี้ มือทั้งสองข้างกอดอก มองไปยังฉู่หยู้ซีด้วยสายตาเย็นชา นัยน์ตาคมเข้มมองเค้นอย่างต้องการคำตอบ
ตัวเขาเองถูกพิษมากกว่า นอนพักไม่นานก็ดีขึ้น แต่เสี่ยวเนี่ยน......
“ผู้หญิงที่เปราะบางราวกับดอกไม้ จะเอาไปเปรียบเทียบกับสัตว์ป่าดุร้ายเหมือนนายได้ไงกัน?” ฉู่หยู้ซีก้มตัวลง แล้วเอานิ้วดันเปลือกตาของเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนขึ้น เตรียมตรวจสอบว่ารูม่านตาขยายจริงไหม
“เพี๊ยะ!” เซียวเซิ่งตีมือเขาไปหนึ่งที “อย่าแตะต้องเธอ ฉันเตือนนายเป็นครั้งสุดท้าย”
ไอ้นี่หนิ
เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนฟื้นได้ก็แปลกแล้ว!ฉู่หยู้ซีถอดแว่นตาอย่างจนปัญญา แล้วเดินมานั่งอีกฝั่ง มองเซียวเซิ่งอย่างคับแค้นใจอยู่นาน “นายมีความรู้ถูกไหม? ฉันเป็นหมอ แม้แต่ผู้หญิงตรงนั้น......ฉันก็ต้องดูแล”
“สรุปเมื่อไหร่เธอจะฟื้น?”
เซียวเซิ่งไม่สนว่าเขาจะดูแลผู้หญิงที่ไหน แต่ผู้หญิงของเขาห้ามดูแล
“ร่างกายคงที่ สามารถฟื้นได้ตลอดเวลา ที่ที่รักนายไม่ฟื้น น่าจะเพราะไม่อยากเจอนาย”
ฉู่หยู้ซีลูบจมูกเล็กน้อย รอยยิ้มที่เจ้าเล่ห์เผยขึ้นบนใบหน้าที่สวยกว่าดอกกุหลาบสีชมพูเสียอีก “นายต้องฟังสิ่งที่ฉันพูด ปีศาจมัสตาร์ด ทั้งเมืองจงโจว ใครไม่รู้จักทักษะทางแพทย์ที่เก่งกาจของฉันบ้าง?”
หลงตัวเองขนาดนี้ จะให้รื้ออดีตเหรอ?
“สามปีก่อนนายรักษาจนปากของคุณยายท่านหนึ่งเบี้ยว สองปีก่อนนาย——”
“สามวัน!ถ้าภายในสามวันที่รักนายไม่ฟื้น นายจะดูถูกอะไรฉันก็แล้วแต่นายเลย”
เซียวเซิ่งพยักหน้า ห่มผ้าให้เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยน จู่ๆมือก็ชะงัก นัยน์ตาทั้งสองเบิกกว้าง “น้ำเชื่อม!ผ้าห่มของสาวฉันทำไมแดงขนาดนี้? แดงเยอะขึ้นเรื่อยๆเลย!เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนเลือดออก!”
หา? ฉู่หยู้ซีถูกสีหน้าตื่นตระหนกของเซียวเซิ่งทำให้ตกใจ รีบพุ่งเข้าไปดูอาการ “เร็ว รีบเอาผ้าห่มออกให้ฉันดูหน่อย!”
เซียวเซิ่งใช้มือทั้งสองกำไว้ที่ปลายผ้าห่มแน่น เปิดผ้าห่มออกในทันที แล้วรีบห่มเข้าไปใหม่ “ออกไปไกลๆหน่อย ประจำเดือนเธอมา ไปเอาผ้าเช็ดตัวมาให้ฉัน!”
“โห่ ทำฉันตกใจหมด” ฉู่หยู้ซีถอนหายใจ ขมวดคิ้วด้วยความเจ็บปวดใจ “ประจำเดือนเธอมาถูกเวลาจริงๆ ไม่มีอะไรหยุดเธอได้แม้ตอนไม่ได้สติ ”
“ฉันว่าจะถ่ายเลือดให้เธอสักหน่อย ไหลออกไม่น้อย แต่เธอยังนอนอยู่เลย เดาว่าน่าจะได้หนึ่งถ้วย เลือดของฉันกรุ๊ปเดียวกับเธอ ให้คนมาเอาไปสิ” เซียวเซิ่งแกะกระดุมออก เอาแขนเสื้อถกขึ้นบนข้อพับแขน ออกคำสั่งฉู่หยู้ซีด้วยสีหน้าจริงจัง
“เก็บแรงเอาไว้หน่อยเถอะ คุณชายเซียว” ฉู่หยู้ซียักไหล่เย้าหยอก “ผู้หญิงเป็นสิ่งมีชีวิตที่แปลกประหลาด เลือดออกแค่ไหนก็ไม่ตายหรอก”
ก๊อกๆ
พยาบาลสาวหน้าตาสะสวยผลักประตูเข้ามา พยักหน้าให้บอสทั้งสองอย่างมีมารยาท เดินมาตรงหน้าเตียงของเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยน ต้องการจะเอาผ้าห่มของเธอออก ภายในหนึ่งวินาทีข้อมือก็ถูกจับทันที
“เธอจะทำอะไร?” เซียวเซิ่งยกมือปกป้องเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนไว้ สายตาที่เย็นชาทำให้พยาบาลตกใจจนเกือบเป็นอัมพาต
“คุณชายเซียว ฉันจะเปลี่ยนผ้าห่มให้คนไข้ค่ะ แล้วก็อันนี้......” พยาบาลสาวเขย่าผ้าอนามัยในมือ มองไปทางคุณชายตระกูลสูงส่งที่ท่าทางกลัวท่านนี้
“เธอจะดูร่างกายของผู้หญิงฉัน?” เซียวเซิ่งถามอย่างเยือกเย็น เพิ่มแรงที่จับมือของเธอ น้ำตาของพยาบาลไหลออกมาด้วยความเจ็บ มองไปทางฉู่หยู้ซีเพื่อขอความช่วยเหลือ
“เฮ้อ นายอย่าทำให้พยาบาลของฉันตกใจสิ!” ช่วยพยาบาลออกมา “เธอเป็นพยาบาลผู้หญิง ช่วยเปลี่ยนให้ที่รักของนายมันจะเป็นอะไรไป?”
“นอกจากฉัน ใครก็ห้ามเห็นร่างกายของเธอทั้งนั้น” เซียวเซิ่งพูดด้วยสีหน้าแข็งกร้าว วางอำนาจอย่างเผด็จการ
“ไปเถอะ ยุแหย่ไม่ได้ก็หนีดีกว่า”
ฉู่หยู้ซีจูงพยาบาลออกไปอย่างช่วยไม่ได้ พอถึงหน้าประตู ก็ถูกเซียวเซิ่งตะโกนดักไว้ “ต้องล้างให้เธอก่อนไหม?”
ล้างตรงนั้น? ฉู่หยู้ซีกะพริบตา เขาก็ไม่เคยเจอสถานการณ์แบบนี้มาก่อน “ก็ได้นะ แต่อย่าให้น้ำสกปรกไหลเข้าไป ทางที่ดีไม่ต้องล้าง คนอื่นเขามีวิธีทำความสะอาดตัวเองอยู่”
ถึงแม้ว่าจะไม่ได้พูดถึงชื่อใคร แต่เซียวเซิ่งรู้ว่าเธอกำลังพูดถึงเขา
เซียวเซิ่งจับมือของเธอมาวางไว้ข้างริมฝีปาก แววตาสั่นไหว “เด็กโง่ ผมไม่เป็นอะไรหรอก ขอแค่คุณไม่เป็นอะไรก็พอแล้ว ไม่ต้องคิดมากแล้ว หืม?”
หลังจากนั้นสามวัน ในที่สุดเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนก็ลืมตาฟื้นขึ้นมา
บางทีอาจจะเหนื่อยเกินไป ลำบากเกินไป หรืออาจจะสิ้นหวังเกินไป ในตอนที่เธอเห็นตัวเองนอนอยู่ในอ้อมกอดของเซียวเซิ่ง ไม่ได้หลบเลี่ยง และไม่ได้ตกอกตกใจ ราวกับแมวที่หาที่พึ่งพิงขดตัวอยู่ในอ้อนแขนที่แข็งแรงของเขา
สีหน้าของเซียวเซิ่งยังคงแน่นิ่ง แต่ในใจนั้นเต็มไปด้วยความโชคดีที่หายไปแล้วกลับมา กอดเธอแน่นกว่าเดิม
เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนไม่รู้ว่าสามวันมานี้เซียวเซิ่งดูแลเธอยังไงบ้าง กอบกุมไว้ในมือก็กลัวจะล้มลง อมไว้ในปากก็กลัวจะละลาย ทะนุถนอม รักใคร่เอ็นดู หลงรักจนหัวปักหัวปำ
ต่อให้รู้ เธอก็คงไม่ซาบซึ้ง ความจริงแล้วเธอค่อนข้างจะปิดตัวเองอย่างกะทันหัน ไม่ยอมนึกถึงฉากที่เซียวเซิ่งดูดเลือดให้ตัวเอง เธอยอมรับไม่ไหว
เดิมทีพวกเขาเป็นปฏิปักษ์ต่อกัน เป็นศัตรูกัน ไม่ควรมีความรู้สึกที่ลึกซึ้งขนาดนี้ ไม่งั้นจะทำร้ายกันหนักกว่าเดิม
เซียวเซิ่งมองหญิงสาวที่อยู่ในอ้อมกอด มักจะรู้สึกว่าขาดอะไรไป ป้อนเธอกินโจ๊ก เธอก็กินอย่างว่าง่าย จูบเธอ เธอก็ให้จูบอย่างว่าง่ายเช่นกัน เพราะยอมง่ายเกินไป ในทางกลับกันไม่ได้มีความรู้สึกร่วมหรือความคิดร่วมเลย
ในความเป็นจริงการที่เธอยอมง่ายแบบนี้ ทำให้ระยะห่างระหว่างพวกเขากว้างกว่าทางช้างเผือกไปโดยปริยาย
วันที่สี่ เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนออกจากโรงพยาบาลกลับมาถึงวิลล่า
ตรงกับสุดสัปดาห์พอดี เซียวเซิ่งไม่ได้ทักทายอะไร ทิ้งเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนที่พึ่งจะฟื้นตัว ทิ้งเรื่องปวดหัวทุกอย่าง แล้วหายตัวไปอีกครั้งถึงสามวันเต็มๆ
เขาพาเอี๋ยนต้าฟาไปเยี่ยมอูเจินจู หลังจากนั้นก็ไปเที่ยวด้วยกัน กินอาหารอร่อยๆในสถานที่ต่างๆ เที่ยวทั่วทุกหนทุกแห่ง ทำหน้าที่ยิ่งกว่าพ่อแท้ๆเสียอีก ที่เขาชอบลูกติดคนนี้ เพราะว่า......บนร่างกายเขามีภาพลางๆของเสี่ยวเนี่ยนอยู่ด้วย
เอี๋ยนต้าฟาได้รับความรักจากพ่อที่ล้ำค่าที่สุด ขณะเดียวกัน ความเย็นชาที่เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนมีให้เซียวเซิ่งก็ค่อยๆจืดจางลง ได้รับประโยชน์ทั้งสองฝ่าย ความรู้สึกทั้งสองได้ถูกเพิ่มขึ้นอีกครั้ง
เซียวเซิ่งสำหรับเอี๋ยนต้าฟาแล้วชัดเจนขึ้นทุกวัน สำคัญขึ้นเรื่อยๆ ค่อยๆเข้ามาแทนที่ตำแหน่งของสวี่เจียน......
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เรื่องวิวาห์ของเจ้าสาวจำเป็น