ใบหน้าของหลินเซวียนแดงก่ำจนเป็นสีม่วง ดวงเบิกกว้างจนถลนออกมา มือเท้าดินไปดิ้นมาอย่างเจ็บปวด แต่จะสู้แรงของมือใหญ่ที่แข็งแรงอย่างกับเหล็กของสวี่เจียนได้อย่างไร? ความหวาดกลัวว่าจะตายปกคลุมลงมา......
ในแววตาของสวี่เจียนต่างเต็มไปด้วยความเยือกเย็นและความตาย สีหน้ามืดดำอย่างน่ากลัว เหมือนราชาแห่งปีศาจบ้าคลั่งที่ออกมาจากขุมนรก แบบนี้ถึงแม้ว่าเขาจะน่ากลัว แต่ก็หล่อมาก
หลินเซวียนเปลี่ยนความคิด สามารถตายด้วยน้ำมือของชายที่ตัวเองรักก็เป็นความหอมหวานอย่างหนึ่ง จึงหลับตาลง แสดงสีหน้าว่าฉันยอมตาย ตายอย่างทุ่มเทเสียสละอย่างไร้ความรู้สึก
เธอสูดลมหายใจเข้าเป็นครั้งสุดท้าย สวี่เจียนกลับปล่อยมือลง
เขาไม่ใช่ฆาตกรที่จิตใจต่ำช้าบ้าคลั่ง คุณธรรมที่หลงเหลืออยู่เตือนสติเขา ผู้หญิงคนนี้ยังไม่เพียงเป็นห่วงเขา ทุกวันยังดูแลการกินอยู่ ทำไม่ลงจริงๆ
หลินเซวียนกลอกตามองบน เหมือนกับใบไม้ที่ร่วงหล่นลงมา ฟุบอยู่บนพื้นพะอืดพะอมแทบตาย สูดอากาศสดใหม่เข้าไปเฮือกใหญ่ ยังไม่ทันจะได้ดีขึ้นเท่าไหร่ ทันใดนั้นขาของเธอก็ถูกจับเอาไว้ เธอตกใจจนตัวสั่น
“หลิน ขอโทษด้วย”น้ำเสียงของสวี่เจียนเยือกเย็นเหมือนปีศาจ “วันนี้ผมจำเป็นต้องทำร้ายคุณ มีเพียงแบบนี้หัวหน้าผู้บัญชาการถึงจะปล่อยตัวผม อยู่นิ่งๆไปซะ เขาคิดว่าอยู่อย่างสงบสุข จึงลืมความมีตัวตนของผมไป หลิน ผมทนต่อไปไม่ไหวแล้ว......”
หลินเซวียนยิ้มออกมาอย่างขมขื่น น้ำตาไหลออกมาเป็นทาง “สวี่เจียน คุณอยากได้อะไรก็เอาไปเถอะ อย่าพูดว่าแค่หักขาของฉันเลย ต่อให้คนเอาศพของฉันสับละเอียดเป็นหมื่นชิ้น ฉันก็ไม่มีทางเกลียดคุณ ยิ่งไม่มีทางที่จะให้เบื้องบนตามเรื่องของคุณ”
งั้นยังจะหักทำไม?
สวี่เจียนทิ้งขาของหลินเซวียนออกไป ลุกขึ้นมาอย่างโมโห มือหนึ่งค้ำยันกำแพงเอาไว้ “คุณกลับมาทำไม ออกไป!”
“สวี่เจียน ฉันเข้าใจว่าในใจของคุณทุกข์ทรมาน แต่ว่าอย่าได้ตีโพยตีพายไปเอง” หลินเซวียนลุกขึ้นมา ให้คําแนะนําอย่างจริงใจ “ถึงแม้ว่าเซียวเซิ่งจะแข็งแกร่ง แต่เป็นคนต่างก็มีจุดอ่อน ถ้าใช้จุดนี้เพียงจุดเดียวเขาก็คงไม่มีข้อเสีย คุณอย่าได้เอาความเจ็บปวดเพียงชั่วครู่มาเป็นสิ่งที่นำพาให้เดินไปสู่ทางที่ไม่ดี นอกเสียจากว่าจะยอมแพ้อย่างราบคาบ สัตบุรุษแก้แค้นสิบปียังไม่สาย เขาเป็นเพียงนักธุรกิจ ทว่าเบื้องหลังของคุณ――”
“ผมรอถึงสิบปีไม่ได้แล้ว”สวี่เจียนหลับตาลง น้ำตาไหลออกมาอย่างเจ็บปวด “เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนอยู่ในมือของเขา อยู่อีกวันหนึ่งใจของผมก็พังลงอีกวันหนึ่ง หลินเซวียน ทำไมจดหมายลาออกของผมยังไม่มีคนตอบกลับมา?”
“อันนี้......”หลินเซวียนนิ่งไป กลอกตาไปมา พูดอย่างใจสั่นว่า “เบื้องบนยังไม่ได้บอกอะไรกับฉัน ฉันก็ไม่กล้าถาม พรุ่งนี้ค่อยถามละกัน”
สวี่เจียนรู้ว่าคงไม่ง่ายขนาดนั้น พูดอย่างเย็นชา “คุณบอกกับผู้บัญชาการ แล้วก็แม่ของผม ให้เวลาพวกเขาหนึ่งสัปดาห์ปล่อยผมออกไป ไม่งั้นก็รอเห็นศพผมได้เลย ผมฆ่าตัวเองตายก็คงทำได้ใช่ไหมล่ะ?”
“สวี่เจียนขอร้องคุณล่ะอย่าได้เอาเรื่องความเป็นความตายมาเดิมพัน แบบนี้ยิ่งจะทำให้คนอื่นมองข้ามไป” หลินเซวียนห้ามปรามเขาด้วยความหวังดี “สวี่เจียนคุณต้องควบคุมอารมณ์ ทำตัวดีๆ อย่าให้พวกเขาหาเหตุผลที่จะขังคุณเอาไว้ต่อได้ ฉันจะไปหาคนที่พอจะมีลู่ทาง ดูสักหน่อยว่าสามารถติดต่อกับเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนได้หรือเปล่า”
สวี่เจียนไม่ได้หวังจะให้หลินเซวียนเข้ามาช่วยเหลือ ครุ่นคิดอยู่สักพัก หันหน้ากลับมา มองไปบนรอยบีบที่อยู่บนคอของหลินเซวียนอย่างรู้สึกผิด
หลินเซวียนจับคอเอาไว้ น้อยใจจนน้ำตาไหลออกมา
สวี่เจียนเบนสายตากลับไป ใบหน้าหล่อเหลาคมเข้มรู้สึกอับอาย “วันนี้ต้องขอโทษด้วย หลินเซวียนคุณออกไปเถอะ ผมไม่ใช่คนดีอะไร ต่อไปนี้อย่าได้ตามติดผมแล้ว”
“ไม่ สวี่เจียน ทั้งชีวิตนี้ฉันไม่มีทางไปจากคุณอย่างแน่นอน” หลินเซวียนมองไปยังสวี่เจียนด้วยความรักอันแสนลึกซึ้งอยู่หลายวินาที ทันใดนั้นก็ตะครุบเข้าไปในอ้อมกอดของเขา กอดเอวเขาเอาไว้แน่น “ฉันชอบคุณมาก ต่อให้คุณฆ่าฉัน ฉันก็รักคุณ”
สวี่เจียนหวั่นใจอยู่สักพัก พยุงไหล่ของเธอเอาไว้อย่างเหนื่อยใจ “เจ้าเด็กโง่ อย่าทำแบบนี้......ผมไม่มีค่ามากพอให้คุณทุ่มเทเรื่องอะไรเลย ในใจของผมมีเพียงเธอ ไม่ว่าจะเกิดแก่เจ็บตาย ก็มีเพียงเธอ ไม่สามารถใส่คนอื่นเข้าไปได้อีก”
“งั้นเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนมีอะไรดี? โอเค ฉันไม่พูดอะไรแล้ว” เมื่อพูดออกมาสวี่เจียนก็จ้องเขม็ง น่ากลัวเหลือคณา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เรื่องวิวาห์ของเจ้าสาวจำเป็น