เสพรักร้อน กลางใจตัวพ่อ นิยาย บท 38

“พวกพ่อรอก่อน”

วันวิวาห์ถือบัตรเดินเข้าโรงพยาบาล

เธอใช้เงินทั้งหมดในบัตรจ่ายค่ารักษาล่วงหน้า

จากนั้นก็โทรหาคุณหมอ เมื่อมั่นใจว่าเงินหกล้านเพียงพอต่อการรักษาจนหายดี เธอก็โล่งอก

ก่อนเซ็นชื่อ วันวิวาห์นึกถึงเรื่องราวในอดีตมากมายตลอดยี่สิบปีก่อน พลางก้มหน้าอย่างไม่เต็มใจ

เธอจับปากกาแน่น จ้องพวกเขาด้วยแววตาขมขื่น“พ่อ แม่ เพื่อพี่สาวแล้ว พวกท่านไม่เอาหนูแล้วหรือ?หนูทำผิดอะไร?!”

ชูเกียรติเผยหน้าตาสงสารเล็กน้อย

เขาเตรียมจะพูด ทว่าเทียนแขแย่งพูดด้วยเสียงเย็นชาและหนักแน่นก่อนว่า“แกเป็นลูกของพวกเรา เลนไทน์ก็ใช่ ชีวิตครึ่งแรกพวกเราเอาความรักความห่วงใยที่ควรให้เลนไทน์มาให้แกหมดแล้ว พวกเราจึงติดค้างเลนไทน์ ชีวิตครึ่งหลังที่เหลืออยู่นี้ พวกเราต้องคืนให้เลนเทน์ แบบนี้ถึงจะยุติธรรม”

ชูเกียรติเสริมว่า“สัญญาฉบับนี้แค่ให้แกมอบบริษัทให้พี่สาวเฉย ๆ ถึงแกจะไม่มีบริษัท แต่ก็ยังเป็นลูกสาวของพวกเรา ถ้าแกทำตัวดีหน่อย ที่บ้านก็ยินดีต้อนรับเสมอ”

วันวิวาห์ยกมุมปากโค้งขึ้นอย่างเรียบเฉย เธอไล่อ่านทีละบรรทัดเสร็จ มั่นใจว่าไม่มีปัญหา จึงได้เซ็นชื่อลงไป

สองสามีภรรยาสบตากัน มุมปากเผยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ขึ้น พวกเขารีบเก็บสัญญา

ทั้งสองเตรียมจะจากไป

วันวิวาห์เตือนเสียงเย็นเยียบว่า“ไม่ต้องคุยเรื่องนี้ต่อหน้าคุณปู่ หนูจะอธิบายกับท่านเอง ถ้าอาการคุณปู่ดีขึ้น ทุกอย่างที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ หนูอาจจะไม่บอกท่าน หนูไม่สนใจว่าจะขายหน้าหรือเปล่า แต่ถ้าเรื่องนี้ทำให้คุณปู่โกรธจนอาการทรุดเข้าโรงพยาบาลอีก หนูก็จะไม่ยอมเลิกราแน่”

ทั้งสองพยักหน้าอย่างเหลืออด“รู้แล้ว รู้แล้ว แกเรื่องมากที่สุดเลย”

……

โรงเรียนอนุบาลหนึ่งใจ

วันวิวาห์กับจอมพลเกือบไปถึงโรงเรียนในเวลาเดียวกัน

หนูกะทิที่จัดแถวเดินไปยังสนาม เมื่อเห็นทั้งสอง มุมปากก็ยกขึ้น

เด็กน้อยแสร้งทำหน้า“หนูไม่สนใจว่าพวกพ่อจะมาหรือเปล่า”เมื่อเดินเข้าไปอยู่ตรงกลางทั้งสองคน หนูกะทิก็จูงมือคนละข้าง ยิ้มแก้มปริจนตาหยี

ครอบครัวพร้อมหน้าพร้อมตากันสามคน กลายเป็นเป้าสายตาโดยปริยาย

มีผู้ปกครองและเหล่าคุณหนูที่จ้องมาเป็นครั้งคราว

“ดูครอบครัวนั้นสิ สามีภรรยาเหมาะสมกันมาก ลูกสาวก็เป็นเด็กดี น่าชื่นชมจริง ๆ”

“ก่อนหน้านี้หนูกะทิมีแต่คุณพ่อรับส่ง ฉันยังคิดว่าไม่มีแม่สักอีก ที่แท้ก็สวยจนคุณพ่อเก็บซ่อนไว้นี่เอง”

“มีแต่ฉันคนเดียวหรือเปล่าที่รู้สึกคุ้นหน้าแม่ของกะทิมากเลย?”

เมื่อมีคนเอ่ยถึง ทุกคนก็สังเกตใบหน้าวันวิวาห์กันยกใหญ่

ไม่นานก็มีคนจำได้“เอ๋ เธอคือลูกสาวที่โดนไล่ออกจากตระกูลโสธรณาลัยไม่ใช่เหรอ?”

“ไม่ใช่ยังไม่แต่งงานหรอกหรือ?แล้วไปมีลูกโตขนาดนี้ตั้งแต่ตอนไหน?”

“คิก สังคมไฮโซวุ่นวายมาก”

“ได้ยินว่าพ่อของกะทิเป็นหมอ คุณหนูผู้ตกอับกับหมอธรรมดา ถึงแม้จะหน้าตาดี แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ก็แค่นั้นแหละ”

ผู้คนที่มีหน้าตาด้อยกว่า เมื่อมีสถานะสูงกว่าจึงรู้สึกมีสมดุลมากขึ้นไม่น้อย

“เดี๋ยวตอนเล่นเกม ทุกคนอย่ายอมพวกเขานะ”

“ใช่ อย่าคิดว่าใครก็มาเรียนที่นี่ได้”

……

รายการกีฬาแรกสำหรับครอบครัวคือ สามคนสี่ขา

โดยมีกติกาว่า ให้สมาชิกยืนเรียงเป็นแนวกระดาน โดยให้ลูกอยู่ตรงกลาง และขาที่ติดกันให้พันกันไว้ จากนั้นก็ให้วิ่งไปยังเส้นชัยด้วยความสามัคคี

มือข้างหนึ่งของกะทิจับขาของคุณพ่อ ส่วนอีกข้างจับขาของวันวิวาห์

เด็กน้อยร่วมเล่นกีฬาครอบครัวแบบนี้เป็นครั้งแรก จึงรู้สึกตื่นเต้นดีใจยิ่ง กะทิใช้แรงทั้งหมดที่มี ทว่ากลับวิ่งไปไม่ถึงไหน

ทั้งสามคนเดินสะดุดไม่เป็นท่า

วันวิวาห์ขบฟัน เอื้อมมือไปโอบเอวบางของจอมพลไว้

คิก

สัมผัสมือดีชะมัด

เธอบีบอย่างไม่รู้ตัว

จอมพลกวาดสายตามองอย่างเย็นเยียบ

วันวิวาห์รีบคลี่ยิ้มอธิบาย“ฉันไม่ได้แต๊ะอั๋งคุณนะ ฉันกำลังหาวิธีการวิ่งเร็วที่สุดอยู่”

กล่าวจบก็เสริมหนึ่งประโยคเสียงเบาอย่างหน้าด้าน“แต่สามีฉันมีกล้ามเป็นมัด ๆ จับแล้วรู้สึกดีมากเลย ได้แต่งงานกับคุณถือว่าเป็นบุญที่ฉันสั่งสมมาจากชาติที่แล้ว”

จอมพลยกมุมปากโค้งขึ้น“หุบปาก ตั้งใจแข่งดี ๆ ”

กล่าวจบ แขนยาวยื่นออกไปจับเอวของสาวน้อย แล้วใช้แรงนิด ๆ ดึงเธอมาทางตัวเอง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เสพรักร้อน กลางใจตัวพ่อ