เวลาอาหารค่ำ
หนูกะทิหยิบใบประกาศเกียรติคุณออกมาอย่างภาคภูมิใจ“กีฬาพ่อแม่ลูกสัมพันธ์ คะแนนรวมของเราเป็นอันดับหนึ่ง ”
วันวิวาห์แสร้งทำเป็นประหลาดใจ หยิบใบประกาศมาแล้วมองดูอย่างมีความสุขอยู่ครู่หนึ่ง “กะทิของเราเยี่ยมมาก”
เด็กน้อยเชิดหน้าขึ้นอย่างภาคภูมิ และพูดอย่างภูมิใจว่า “ คุณก็เยี่ยมเหมือนกัน!”
จอมพลมองไปยังคนตัวเล็กและตัวโตที่ต่างเยินยอกันไปมา “กะทิได้รางวัลนี้มา ต้องขอบคุณคุณ เพื่อแสดงความขอบคุณ หรือให้กวินทร์ลงทุนเปิดบริษัทเครื่องสำอางให้คุณดี รับรองว่าไม่ให้น้อยหน้าของเดิมที่ตระกูลโสธรณาลัยของคุณแน่ ”
“แค่กๆ!”
วันวิวาห์สำลัก เดี๋ยวนี้เวลาจะโอ้อวดไม่ต้องเกริ่นนำก่อนเลยหรือยังไง ? !
เขาในฐานะหมอ ต่อให้จะเป็นเพื่อนกับคุณชายกวินทร์ก็ไม่ได้มีหน้ามีตาขนาดนั้นไหม? !
เธอรีบโบกมือปฏิเสธ“ไม่ต้องค่ะไม่ต้อง ตอนนี้ฉันยุ่งมาก ต้องดูแลผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ แล้วยังยุ่งกับการแข่งขันด้วย หากต้องมาดูแลบริษัทอีก คงแยกร่างไม่ได้”
จอมพลขมวดคิ้วเล็กน้อย บริษัทหนึ่งสู้การแข่งขันที่ไร้สาระไม่ได้เลยหรือไง ? !
มองไม่เห็นความหวังดีของคนอื่น !
เขาหน้านิ่ง“ตามใจ ผมก็พูดไปงั้นๆ ”
นี่โกรธเหรอ? !
ผู้ชายคนนี้นี่ยังไง หากเธอเปิดโปงเขาอย่างไม่ไว้หน้า ดูสิว่าเขาจะหาทางลงยังไง!
ช่างมัน เห็นแก่ที่เขาเข้ากับเด็กน้อยได้ จะไม่ถือสาแล้วกัน
วันวิวาห์คีบผักและตักน้ำซุปให้ด้วยรอยยิ้ม พูดอธิบาย“ต้องขอบคุณที่รักมากที่คิดเผื่อฉันอยู่ตลอด ฉันรู้สึกซาบซึ้งใจมาก แต่เมื่อเทียบกับการต้องให้คุณชายกวินทร์มาลงทุนเปิดบริษัทให้ ฉันอยากจะพึ่งตัวเองมากกว่า พึ่งใครก็ไม่สู้พึ่งตัวเอง ต่อให้คนคนนั้นจะเป็นเพื่อนของคุณก็ตาม”
เธอพูดอย่างจริงใจว่า“ในเมื่อฉันกล้าที่จะเดินออกมาจากตระกูลโสธรณาลัยด้วยตัวเอง ก็ย่อมต้องมีความสามารถนั้นอยู่แล้ว อาจจะต้องลำบากสักหน่อย แต่ฉันไม่กลัว ฉันอยากจะใช้ความสามารถของตัวเอง พิสูจน์ให้ทุกคนได้เห็น ว่าต่อให้จะไม่มีโสธรณาลัยกรุ๊ปคอยหนุนหลัง ฉันก็ทำมันด้วยตัวเองได้!”
หญิงสาวพูดถึงแผนการอันยิ่งใหญ่ของตัวเอง ระเบียบแบบแผน ใบหน้าก็เต็มไปด้วยความมั่นอกมั่นใจ
จอมพลเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย
คนหน้าไม่อาย ล้วนมีความมั่นอกมั่นใจทุกคน!
วันวิวาห์ไม่ได้สังเกตเห็น ย้ายไปนั่งข้างๆจอมพล จับไปที่แขนของเขาและพูดอย่างออดอ้อนว่า“ฉันรู้ว่าคุณมีความสามารถมาก และรู้จักคนเยอะ หากฉันต้องการความช่วยเหลือ จะมาหาคุณเป็นคนแรกแน่นอน ”
ความเย็นเยือกบนหัวคิ้วของจอมพลก็ค่อยๆจางหายไป
หน้าไม่อาย!
ผู้หญิงคนนี้ มีความละอายอยู่บ้างไหม ? !
เขาผลักเธอออกด้วยความรังเกียจ“นั่งดีๆ”
วันวิวาห์รีบนั่งกลับไปยังที่นั่งของตัวเองเหมือนเดิม
ใบหน้าที่ประจบเอาใจก็พลันหายไป ราวกับเปลี่ยนไปเป็นคนละคน
หว่างคิ้วของจอมพลขมวดกันอย่างไม่พอใจอีกครั้ง ชำเลืองมองเธอ“ คุณจะเข้าร่วมการแข่งขันอะไร?”
“เออคือ……”
วันวิวาห์หยุดพูดอย่างกะทันหัน ในหัวก็นึกไปถึงคำพูดของโมโมะที่เตือนเธอว่าให้ระวังเขาเอาไว้
ส่วนผสมรั่วไหลได้ยังไงตอนนี้ยังไม่มีคำตอบ หากเป็นเขาจริงๆ……
วันวิวาห์เหลือบมองไปยังจอมพลแวบหนึ่ง
ความลังเลของเธอทำสีหน้าของจอมพลนิ่งเฉย“ ไม่อยากพูดก็ไม่ต้องพูด”
จอมพลไม่น่าใช่คนที่ขโมยส่วนผสมของเธอไป !
วันวิวาห์ส่ายหัว แล้วยิ้มอย่างเอาใจ “ไม่ใช่อย่างนั้น ฉันแค่กำลังคิดว่าจะบอกคุณยังไงดี เพราะคุณไม่ใช้เครื่องสำอาง และไม่อยู่ในสายอาชีพนี้ คงเข้าใจยาก คือฉันกับอาจารย์ได้ก่อตั้งโครงการหนึ่งขึ้นมา พัฒนาเครื่องสำอางตัวใหม่ หากโครงการนี้สำเร็จ ก็จะสามารถนำไปร่วมงานนิทรรศการผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางตัวใหม่ได้”
“อืม”
จอมพลรับคำ พูดเสียงเรียบ“หากมีอะไร ก็ไปหากวินทร์ได้ มีเส้นสายและคนรู้จักหากไม่ใช้ให้เป็นประโยชน์ก็เสียเปล่า”
วันวิวาห์พยักหน้า“วางใจเถอะค่ะ ฉันไม่มานั่งกดดันตัวเองแน่ ที่รัก คุณดีกับฉันจริงๆ อ่ะนี่กินเยอะๆนะ ฉันทำให้คุณโดยเฉพาะเลยนะ ”
หนูกะทิ“……”
เด็กสมัยนี้เป็นกันไม่ง่ายเลยจริงๆ
ต้องเป็นคนกลางคอยกระชับความสัมพันธ์ของพวกเขาให้แนบแน่น ไหนจะต้องมาดูเขาหวานใส่กันอีก
ช่างลำบากเหลือเกิน
ชีวิตนี้ ช่างยากจริงๆ!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เสพรักร้อน กลางใจตัวพ่อ