ด้านในคือรูปกองหนึ่ง ทั้งหมดเป็นภาพถ่ายของวันวิวาห์ถ่ายรูปคู่กันกับชายคนหนึ่ง
สีหน้าของวีระเกรงขามขึ้นมาทันที ราวกับว่าเห็นรัศมีความหึงวนอยู่บนหัวของBossตัวเอง
จอมพลสีหน้าเย็นชา “ตรวจสอบความสัมพันธ์ของพวกเราในแน่ชัด แล้วก็ตรวจสอบข่าวคราวของเธอที่โรงเรียนกับแวววงเมืองนราวัณด้วย ”
“ครับ!”
……
วันวิวาห์ค้างที่โรงพยาบาลเป็นเพื่อนหนูกะทิหนึ่งคืน
เช้าวันรุ่งขึ้น ก็ลุกขึ้นมาต้มโจ๊กอีกครั้ง
ขณะที่กำลังจะป้อนเด็กน้อยนั้น กวินทร์ก็เข้ามา
สีหน้าเขาไม่ดีนัก “พี่สะใภ้ เกิดเรื่องบางอยางขึ้นที่ทางบ้านพักคนชรา คงต้องให้พี่ไปจัดการหน่อย ”
วันวิวาห์เพียงแค่ชะงักไปครู่หนึ่ง ไม่ขยับเขยื้อน ป้อนอาหารต่อ “คนที่บ้านฉันเป็นคนก่อเหตุหรือเปล่า?”
“คุณพ่อของพี่พาลุงใหญ่อาสามแล้วก็ตำรวจไปด้วย กำลังจะก่อเหตุอยู่ที่นั่น แต่ไม่ต้องห่วง ผมให้คนขวางไว้อยู่ ไม่ได้ปล่อยให้เข้าไปข้างใน ”
“ขอบคุณนะ ”
วันวิวาห์ขอบคุณอย่างซาบซึ้ง “รอกะทิกินเสร็จแล้วฉันจะเข้าไป ”
เมื่อป้อนโจ๊กในถ้วยหมด เธอก็ค่อยๆ เช็ดมุมปากให้เด็กน้อยอย่างอ่อนโยน “ต้องเชื่อฟังพ่อนะ เป็นเด็กดีให้ความร่วมมือกับคุณหมอ ถ้าแข็งแรงเร็ว เราก็จะได้ออกจากโรงพยาบาลเร็ว ”
เด็กน้อยเงยหน้าอย่างสงสัย “คุณจะไปแล้วไม่กลับมาแล้วเหรอคะ?”
“ไม่มีทางแน่นอน ”
หนูกะทิสบายใจ
วันวิวาห์เก็บของกำลังที่จะออกไป
เมื่อจอมพลเห็นว่าเธอไม่มีท่าทีว่าจะขอความช่วยเหลือจากเขาตั้งแต่ต้นจนจบ สีหน้าก็บูดเบี้ยวเล็กน้อย “เธอจัดการเองได้เหรอ?”
ผู้หญิงคนนี้ ไม่รู้จักเอ่ยปากขอให้คนอื่นช่วยหรือไง?
วันวิวาห์ยังไม่ทันได้ตอบ เสียงเย็นชาของเขาก็พูดขึ้นอีกครั้ง “ให้กวินทร์ตามไปด้วย ”
กวินทร์ “……”
อย่างน้อยเขาก็เป็นเจ้าพ่อเกตุดิสรณ์กรุ๊ปเหมือนกัน จะอยากเป็นเหมือนพวกสาวก มาใช้ทำตามใจสั่งหรือไง?!
“เชือดไก่ไม่จำเป็นต้องใช้มีดฆ่าวัวหรอกนะ ”
ใบหน้าเล็กๆของวันวิวาห์เต็มไปด้วยความมั่นใจ แล้วหันไปขยิบตาให้จอมพลอย่างอวดดี “แค่เรื่องเล็กน้อยแค่นี้ยังจัดการไม่ได้ แล้วจะสมกับเป็นภรรยาของจอมพลได้ไงใช่ไหม?”
ความไม่พอใจในใจของจอมพลได้รับการเยียวยาขึ้นในทันที เสียงเย็นชากระแอมเสียงสูง ไม่ได้พูดอะไรต่อ
“วางใจเถอะพี่พล ทุกคนที่บ้านพักคนชราเรารู้กันดีว่าพี่สะใภ้เป็นคนที่ผมดูแลอยู่ เขาไม่กล้าปล่อยให้เธอเจอกับความสูญเสียหรอก ”
กวินทร์ที่เพิ่งรู้สึกว่าตัวเองถูกสั่งใช้อย่างไร้จุดยืน ก็แสดงความจงรักภักดีขึ้นมาทันที
……
บ้านพักคนชราภูดิน
เมื่อวันวิวาห์มาถึง ประตูบ้านพักคนชราก็ถูกห้อมล้อมด้วยคนกลุ่มหนึ่ง
ครอบครัวของชูเกียรติ พี่ใหญ่ตระกูลโสธรณาลัยชูรักษ์ น้องสามชูฤทธิ์และจิราวัฒน์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนมากกำลังเผชิญหน้าอยู่กับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของบ้านพักคนชรา
บรรยากาศในเหตุการณ์อยู่ในสถานการณ์ตึงเครียด
วันวิวาห์เดินเข้าไป แล้วเรียกอย่างน่าเอ็นดู “ลุงใหญ่ อาสาม ”
สามพี่น้องตระกูลโสธรณาลัยหน้าตาเหมือนกันมาก
ชูรักษ์อายุหกสิบ แก่กว่าชูเกียรติสิบปี เนื่องจากการบำรุงอย่างเหมาะสม ทั้งสามจึงดูอายุห่างกันไม่มาก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เสพรักร้อน กลางใจตัวพ่อ