ตอนนี้เมื่อเขามีรอยบาดแผลอยู่บนตัว อย่าว่าแต่หยูซี ต่อให้เป็นหยูซีเมี่ยว พ่อของหยูซีเองก็ตาม ก็ต้องรู้สึกถึงความร้ายแรงของเรื่องนี้
ถ้าผู้เฒ่าจ๋ายและนายท่านรองของกลุ่มเทียนซิงรู้เรื่องนี้ พวกเขาต้องหาคนมารับผิดชอบเรื่องนี้อย่างแน่นอน
ยิ่งไปกว่านั้น นายท่านเชิ่งไม่ได้ใส่ใจบาดแผลของตัวเองแม้แต่น้อย เขาไม่เพียงปฏิเสธที่จะไปยังโรงพยาบาล แถมยังไปออกกำลังกายอยู่ในฟิตเนสอีกด้วย
หยูซีเกือบจะร้องไห้ด้วยความหวาดกลัวว่าจ๋ายหวินเชิ่งจะเป็นลมขึ้นมาอย่างกระทันหัน
แต่ตอนนี้เขากับบอดี้การ์ดของจ๋ายหวินเชิ่งไม่สามารถที่จะหว่านล้อมจ๋ายหวินเชิ่งได้ หยูซีไม่มีทางเลือกนอกจากจะคิดถึงเจี่ยนอีหลิง
เขาไม่รู้ว่าเจี่ยนอีหลิงจะสามารถที่จะช่วยได้หรือไม่ ดังนั้นเขาจึงได้แต่รักษาม้าตายดั่งม้าเป็น*
หลังจากที่ได้ยินคำอธิบายของหยูซี เจี่ยนอีหลิงก็ลุกขึ้นและออกไปทันที
ในขณะที่เดินอยู่นั้น เธอก็ถามหยูซีว่า “รอยแผลลึกเท่าไหร่ เลือดออกมากไหม แล้วได้ทำการฆ่าเชื้อหรือยัง”
เพราะว่าบ้านอยู่ติดกัน เจี่ยนอีหลิงจึงวิ่งเหยาะๆไปตามเส้นทาง และเพียงห้านาทีให้หลัง เธอก็มาปรากฏตัวตรงหน้าหยูซีกับจ๋ายหวินเชิ่ง
บ้านตระกูลหยูมีฟิตเนสพิเศษ ที่มีอุปกรณ์เทียบเท่ากับฟิตเนสระดับมืออาชีพติดตั้งอยู่
ในตอนนี้ จ๋ายหวินเชิ่งกับคนอื่นๆต่างก็อยู่ที่นั่น
เจี่ยนอีหลิงหอบและหน้าแดงเพราะว่าเธอวิ่งเหยาะๆมา
เธอยืนอยู่ที่ประตู มองดูชายคนที่กำลังวิ่งอยู่บนลู่วิ่งสายพาน
เพราะว่าเครื่องทำความร้อนในห้องและเหงื่อ จ๋ายหวินเชิ่งจึงไม่ได้สวมอะไรบนส่วนบนของร่างกาย เพียงแค่สวมกางเกงกีฬาที่ส่วนล่างเท่านั้น
ในวันทั่วๆไป จ๋ายหวินเชิ่งจะดูผอมมากจากเสื้อผ้าที่เขาสวม
แต่เมื่อดูเขาในตอนนี้แล้ว ร่างกายส่วนบนของเขานั้นคมชัด กล้ามเนื้อทุกมัดแน่นกระชับและเหมาะสมกับร่างกายของเขา
ไม่ผอมหรืออ้วนจนเกินไป
และที่แขนขวาของเขานั้น พันรอบด้วยผ้ากอซ มีเลือดซึมออกมาจากด้านในย้อมผ้ากอซเป็นสีแดง
เจี่ยนอีหลิงยืนที่ประตูและมองไปยังจ๋ายหวินเชิ่ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ / เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส
เรื่องนี้ยังอัปเดตต่อไหมคะ😭...