大姐大 บทที่ 389 เด็กโง่ เธอจะไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเธอถูกหลอกในอนาคต
ดังนั้นเจี่ยนอีหลิงจึงหวังว่าเขาจะพูดอะไรที่เขาต้องการความช่วยเหลือจากเธอ เธอต้องการมีการค้าที่เป็นธรรมกับเขา
ไม่อย่างนั้นเธอจะรู้สึกว่า…
หืม…เจี่ยนอีหลิงไม่รู้จะอธิบายความรู้สึกเธอยังไงดี เธอแค่รู้สึกว่าความสัมพันธ์ของทั้งคู่จะค่อนข้างแปลกถ้าเธอไม่ตอบแทนบุญคุณที่เขาช่วยเธอไว้
ตอนนี้จ๋ายหวินเชิ่งรู้ความสัมพันธ์ของเธอกับสถาบันแล้ว เขาน่าจะรู้ว่าเธอสามารถทำอะไรได้มากมาย นี่หมายความว่าเขาสามารถขอความช่วยเหลือจากเธอซึ่งมีค่ามากสำหรับเขา
จ๋ายหวินเชิ่งมองดูเด็กหญิงที่อยู่ข้างหน้าเขา เธอมีสีหน้าดื้อดึง เขาโกรธ แต่เขาไม่สามารถแสดงความโกรธออกมาได้
เขาไม่สามารถดุหรือตีเธอได้
“เอาล่ะ ถ้างั้นพวกเรามาเป็นอันดับหนึ่งในการแข่งขันออฟไลน์กันเถอะ” คำพูดเหล่านี้ถูกเค้นออกจากฟันของจ๋ายหวินเชิ่ง
ถ้าเขาขออะไรน้อยกว่านี้ เจี่ยนอีหลิงจะไม่ยอมรับมันเป็นคำขอ เธอจะบอกว่าเขาไม่เต็มใจขอให้เธอทำอะไรเพื่อเขา หากเป็นกรณีนั้น คำขอจะไม่นับ
อย่างไรก็ตาม ถ้าเขาขออะไรที่มากกว่านี้ เธอก็คงจะต้องเหนื่อย
สิ่งเดียวที่เธอรู้คือต้องอยู่ทั้งคืนและทำงานอย่างหนัก
เธอมักจะทำอะไรเพื่อใครซักคน
เธอไม่อยากสูงหรอกเหรอ เธอต้องการที่จะแก่ก่อนที่เธอโตขึ้นงั้นเหรอ
เด็กโง่เอ้ย มีอะไรบ้างที่ได้ผ่านสมองเธอในทุกวันนี้
เมื่อหยูซีได้ยินคำขอนี้ ดวงตาเขาก็สว่างขึ้น ดวงตาเขาสว่างราวกับหลอดไฟ 500 วัตต์
นายท่านเชิ่งจริงจังหรือเปล่า
พวกเขากำลังวางแผนที่จะชนะการแข่งขัน ‘Zerg Invasion’ ใช่หรือไม่
อะไร
จริงหรือ
เดิมทีเขาตั้งเป้าที่จะอยู่ใน 20 อันดับแรก เขาพอใจกับอันดับดังกล่าวแล้ว
เจี่ยนอีหลิงจ้องไปที่ดวงตาของจ๋ายหวินเชิ่งอย่างสงสัย ราวกับว่าเธอกำลังค้นหาว่านี่เป็นคำขอที่เขาต้องการจริงๆหรือไม่
“นายไม่เคยสนใจอันดับมาก่อน” เจี่ยนอีหลิงตอบกลับ เธอตั้งคำถามถึงความถูกต้องของคำขอของจ๋ายหวินเชิ่ง
จ๋ายหวินเชิ่งสนุกกับการเล่น ‘Zerg Invasion’ อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้หมกมุ่นอยู่กับเกม
ดูเหมือนว่าเขามีทัศนคติที่ ‘ขี้เล่น’ ต่อทุกสิ่ง เขาไม่เคยใส่ใจในสิ่งใดเลยจริงๆ
“ฉันขอให้หยูซี” จ๋ายหวินเชิ่งตอบกลับ เขาทำให้ดูเหมือนหยูซีเป็นผู้รับผิดชอบคำขอดังกล่าว
หากหยูซีมีคำขอดังกล่าว จ๋ายหวินเชิ่งก็ย่อมจะช่วยเขาทำตามคำขอนั้น มีเหตุผลสำหรับเขาที่จะทำเช่นนั้น เพราะเขาเป็นเพื่อนที่ดีของหยูซี
หยูซีสะเทือนใจจนน้ำตาแทบไหล
เดิมทีเทพหลิงไม่ได้วางแผนที่จะเข้าร่วมการแข่งขันแบบออฟไลน์ ซึ่งหมายความว่าทีมของพวกเขาอาจต้องเสียตำแหน่ง อย่างไรก็ตามนายท่านเชิ่งได้ช่วยเขาขอเจี่ยนอีหลิง เขารู้สึกขอบคุณเหลือเกิน
จ๋ายหวินเชิ่งเป็นเพื่อนที่ดีจริงๆ
ครั้งต่อไปที่เขาไปงานบอล เขาจะเต็มใจเป็นคู่เต้นของนายท่านเชิ่งอีกครั้ง
เจี่ยนอีหลิงหันกลับมามองหยูซี เธอเห็นว่าดวงตาของหยูซีเต็มไปด้วยความคาดหวัง
หยูซีรีบอ้อนวอนเจี่ยนอีหลิงให้ยอมรับคำขอของนายท่านเชิ่ง “เทพหลิงโปรดตอบตกลง นายท่านเชิ่งกับพี่ฉันเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน ถ้าน้องช่วยพี่เติมเต็มความปรารถนาของพี่ เธอก็เหมือนได้ช่วยนายท่านเชิ่งทางอ้อม”
หยูซีต่อรอง เขามีความสุขมากจนแทบจะหุบปากไม่ได้
เจี่ยนอีหลิงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตอบว่า “อย่างงั้นก็ได้”
“แล้วคำขอของเธอล่ะ” จ๋ายหวินเชิ่งถามเจี่ยนอีหลิง
เด็กน้อยตรงหน้าเขาต้องการอะไรกันแน่ หรือว่าเธอพบปัญหาหรืออะไรบางอย่าง
ดังนั้น เจี่ยนอีหลิงจึงถามถึงเจี่ยนหยู่โป๋
หลังจากได้ยินอย่างนั้น ใบหน้าของจ๋ายหวินเชิ่งก็มืดลง
แค่นั้นเหรอ นั่นคือทั้งหมดที่เธอขอเขางั้นเหรอ
ตลอดเวลาที่ผ่านมา นั่นเป็นสิ่งเดียวที่เธอคิดอยากจะถามเขาอย่างงั้นเหรอ
จ๋ายหวินเชิ่งมองไปที่หัวเล็กๆที่อยู่ข้างหน้าเขา เขาต้องการที่จะเขกให้เหมาะเหม็งสักโป๊ก
“นายรู้เรื่องนี้ไหม” เจี่ยนอีหลิงถาม จ๋ายหวินเชิ่งไม่ได้ตอบเธอมาระยะหนึ่งแล้ว
“เธอกำลังคิดว่าจะทำตามคำขอของฉันในขณะที่เธอยังไม่รู้ว่าฉันรู้ข้อมูลเกี่ยวกับเจี่ยนหยู่โป๋หรือเปล่างั้นเหรอ”
45) What a silly girl! Would she even know that she was deceived by someone in the future?
ช่างเป็นเด็กโง่อะไรเช่นนี้ เธอจะรู้ไหมว่าเธอถูกหลอกจากใครสักคนในอนาคต
“ถึงยังไง ต่อให้นายไม่รู้ ฉันก็ไม่ได้เสียอะไร”
เจี่ยนอีหลิงรู้สึกว่าเธอเป็นหนี้เขามากจากเมื่อก่อน ดังนั้น แม้ว่าจ๋ายหวินเชิ่งจะไม่ทราบข้อมูลที่เธอขอจากเขา เธอก็ไม่ได้สูญเสียสิ่งที่เรียกว่าการค้าของพวกเขาเช่นกัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ / เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส
เรื่องนี้ยังอัปเดตต่อไหมคะ😭...