เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ / เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส นิยาย บท 499

สรุปบท ตอนที่ 499-500: เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ / เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส

ตอนที่ 499-500 – ตอนที่ต้องอ่านของ เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ / เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส

ตอนนี้ของ เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ / เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส โดย Internet ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายดราม่าทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง ตอนที่ 499-500 จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

บทที่ 499 ก็เหมือนกับไปพบผู้ปกครอง

“ไม่… ฉันไม่ได้ไร้ยางอาย…” เงี่ยนอีหลิงโต้กลับด้วยน้ําเสียงแผ่วเบา

“เอ้อ ฉันเดาว่าเธอกําลังสัญญากับฉันว่าจะไม่กอดคนอื่นแบบนี้อีก”

“อือ…” เจี้ยนอีหลิงตอบขณะที่เธอส่งเสียงเล็กๆในลําคอ

เนื่องจากเธอไม่เงยหน้าขึ้น เงี่ยนอีหลิงจึงไม่เห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของจํายหวินเชิง

หลังจากลงบันไดไปแล้ว เงี่ยนอีหลิงก็เป็นเพื่อนจํายหวินเพิ่งไปที่คฤหาสน์ตระกูลจําย

คฤหาสน์ตระกูลจํายไม่ใช่อพาร์ตเมนต์ที่พวกเขาอาศัยอยู่ในตอนนี้ แต่เป็นคฤหาสน์ขนาดใหญ่ที่ท่านผู้เฒ่าจํายอาศัยอยู่

มีห้องพยาบาลอยู่ภายในคฤหาสน์หลังนี้ ห้องพยาบาลถูกสร้างขึ้นสําหรับจํายหวินเชิง

ภายในห้องมีอุปกรณ์ทางการแพทย์มากมาย นอกจากเจียนอีหลิงแล้ว ตระกูลนี้ก็ยังมีแพทย์ ส่วนตัวอีกคนหนึ่ง

อย่างไรก็ตาม จํายหวินเฉิ่งได้ต่อต้านการจัดการเช่นนี้มาโดยตลอด

แต่ครั้งนี้จํายหวินเพิ่งกลับมาตรวจร่างกายทุกเดือน

จํายหวินเพิ่งได้มาตรวจสุขภาพตามปกติเดือนละครั้ง

โดยปกติคนปกติต้องตรวจสุขภาพปีละครั้งเท่านั้น อย่างไรก็ตามตระกูลจํายเกลียดความจริงที่ว่าจํายหวินเซิ่งไม่ได้มาตรวจสุขภาพทุกสัปดาห์

หัวใจที่ไม่แข็งแรงอาจส่งผลต่อระบบไหลเวียนโลหิตทั้งหมด ซึ่งอาจนําไปสู่ปัญหากับอวัยวะอื่นในร่างกายได้เช่นเดียวกัน

ดังนั้นจึงจําเป็นต้องมีการตรวจร่างกายเป็นประจําเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีปัญหาอื่นในร่างกายของจํายหวินเพิ่ง

ทันทีที่ท่านผู้เฒ่าจํายเห็นเจี้ยนอีหลิงกับจํายหวินเชิงเข้าบ้านด้วยกัน เขาก็ไม่สามารถซ่อนรอยยิ้มบนใบหน้าไว้ได้

อาา… ผ่านไปหลายปีแล้ว เขารอคอยภาพนี้มาหลายปีแล้ว

คราวนี้ สุดท้ายเขาก็ได้เห็นฉากนี้

แม้ว่าจํายหวินเฉิ่งไม่ได้พาเธอกลับมาพบพ่อแม่ของเขา แต่พวกเขาก็อยู่ใกล้ชิดเคียงคู่กันแล้ว

นั่นก็เหมือนกับการพาเธอกลับบ้านไปพบพ่อแม่เขา

งานแต่งงานจะอยู่ไกลอีกแค่ไหนกันเชียว? และลูกหลานของเขาจะอยู่ไกลอีกแค่ไหนกัน?

ขณะที่แพทย์อีกคนกําลังตรวจจํายหวินเชิง จํายหวินเชิงก็หยิบหูฟังข้างตัวอย่างไม่ใส่ใจส่งให้เจียนอีหลิง

“ฟังเสียงหัวใจฉันสิ”

เจียนอีหลิงหยิบหูฟังขึ้นมาสวม

มือเล็กๆของเธอถือหูฟังและวางไว้บนหน้าอกของจํายหวินเชิง

เธอฟังเสียงหัวใจเขา

หัวใจเต้นดังขึ้นมาแต่ละครั้ง หัวใจของเขาเต้นแรง

การเต้นของหัวใจเขาเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าเขายังมีชีวิตอยู่

ในทางกลับกัน จํายหวินเชิงกําลังเฝ้ามองดูมือของเจียนอีหลิงเคลื่อนผ่านไปบนหัวใจเขา

เขาไม่รู้ว่าหัวใจเขาจะเต้นอีกนานแค่ไหน แต่ทว่า เขาก็หวังว่าทุกครั้งที่เธอฟัง เธอจะได้ยินเสียงหัวใจเขา

หลี่จั่วเจียมาถึงบ้านของฉินหงรุ่ย

ฉินหงรุ่ยเป็นลูกพี่ลูกน้องของผู้นําตระกูลฉินคนปัจจุบัน เขาอยู่ในตําแหน่งที่เป็นที่นับถือในครอบครัว

อย่างไรก็ตาม ในตอนนี้ เขามีเนื้องอกในสมอง สิ่งนี้ทําให้เขาประสบกับแขนขาอ่อนแรงนอกจากนี้ยังมีความเป็นไปได้ที่เขาจะเป็นลมได้ตลอดเวลา

นี่เป็นผลให้ฉินหงรุ่ยล้มหมอนนอนเสื่อมาเกือบเดือนแล้ว

หากไม่ได้รับการผ่าตัดเร็วๆนี้ เนื้องอกก็จะเติบโตและกดทับสมอง ส่งผลให้ความเสี่ยงในการผ่าตัดเพิ่มขึ้น

การผ่าตัดมีความเสี่ยงสูง ส่งผลให้โรงพยาบาลทั่วไปส่วนใหญ่ไม่สามารถรับประกันความสําเร็จของการผ่าตัดได้

ตระกูลฉินได้ปรึกษาโรงพยาบาลหลายแห่ง โรงพยาบาลต่างบอกพวกเขาว่าอัตราความสําเร็จของการผ่าตัดนั้นต่ําเหลือเกิน

เนื่องจากฉินหงรุ่ยไม่ต้องการเสี่ยง เขาจึงตัดสินใจใช้ชีวิตร่วมกับเนื้องอกในสมองต่อไปนั่นเป็นเพราะเขาสามารถมีชีวิตอยู่ได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น

เขายินดีจ่ายทุกอย่างเพื่อช่วยชีวิตของตัวเอง ชีวิตเขามีค่ามากกว่าเงิน

หลังจากคุยกับฉินหงรุ่ยได้ชั่วขณะ หลี่จั่วเจียก็ออกจากห้องไป อย่างไรก็ตาม เขาถูกใครบางคนขวางไว้ที่นอกประตู

ฉินหยฝานรู้ว่าลุงเธอเป็นผู้ชายที่ใจดีเหลือเกิน ย้อนกลับไปตอนนั้น เขามักจะยิ้มเสมอ

อย่างไรก็ตาม คําพูดของฉันหยุฝานสร้างความโกรธให้กับพ่อเธอ “แกต้องการให้มีชีวิตอยู่เพราะเขาสนับสนุนแกงั้นใช่ไหม”

สําหรับตอนนี้ ครึ่งหนึ่งของคณะกรรมการสนับสนุนฉินหยูฝาน ในขณะที่ อีกครึ่งหนึ่งสนับสนุนฉันชวน

และในบรรดาผู้ที่สนับสนุนฉินหยูฝานนั้น ฉินหงรุ่ยเป็นคนที่แบกน้ําหนักไว้มากที่สุด

ฉินหยูผ่านหัวเราะอย่างเย็นชาเมื่อได้ยินเช่นนี้ “โอ? พ่อไม่ต้องการให้อีกเขาสนับสนุนฉันเหรอ แล้วพ่อต้องการให้เขาสนับสนุนลูกนอกสมรสของพ่อหรือไงกัน? หรือพ่ออยากให้ลุงตาย? เขาเป็นลูกพี่ลูกน้องของพ่อนะ พ่อน่ะมีปูคนเดียวกันนะ”

“ฉินหยูฝาน ระวังสิ่งที่แกพูดด้วย ฉันเป็นพ่อแกและเด็กนอกสมรสที่แกกําลังพูดถึงก็คือพี่ชายแก”

“แม่คลอดฉันเท่านั้น ฉันไม่มีพี่ชาย”

เฉินหงจื้อลุกขึ้นในทันทีและเดินไปที่ฉินหยุฝาน เขาหยุดอยู่ตรงหน้าเธอและตบหน้าเธอ

“เพี้ยะ “

“ไร้สาระ แกเป็นคุณหนูจากตระกูลฉิน มารยาทของแกอยู่ที่ไหน ทําไมแกถึงยังดื้อดึงนัก? แกทําให้ฉันผิดหวังมาก”

ฉินหยูฝานยกมือขึ้นปิดหน้าครึ่งที่ถูกตบ เธอไม่ได้ร้องไห้ แต่กลับหัวเราะ

“มารยาทของหนูเหรอ? พ่อพาลูกนอกสมรสเข้ามาในตระกูลและพ่อก็กําลังบอกหนูว่าต้องมีมารยาท? ในสายตาของพ่อ คนเดียวที่มีมารยาทน่าจะเป็นลูกนอกสมรสของพ่อ อีกทั้งพ่อยังให้แม่เขาอยู่ในวิลล่าด้วยไม่ใช่เหรอ? พ่อวางแผนที่จะไปเยี่ยมเธอทุกสัปดาห์ใช่ไหม”

” แก” ฉินหงจื้อตะโกนขณะที่เอื้อมือขึ้นอีกครั้ง ดูเหมือนว่าเขากําลังคิดที่จะตีลูกสาวอีกครั้ง

“เอาเลยสิ” ฉินหยูฝานตะโกนกลับ เธอยื่นหน้าเข้าไปใกล้มือเขามากยิ่งขึ้น

มือของฉินหงจื้อเสื้อค้างกลางอากาศ

ทัศนคติของลูกสาวได้ที่มแทงเขา

เมื่อเขาเห็นว่าหน้าลูกสาวแดง ฉินหงจื้อก็เริ่มเสียใจกับการกระทําของตนเอง

เมื่อกี้เขาโกรธจัด

เรื่องของลูกพี่ลูกน้องเขายังไม่ได้รับการแก้ไข และลูกสาวเขาก็ไม่เข้าใจเขา ว่าไปแล้ว เธอปฏิเสธที่จะฟังเขาโดยสิ้นเชิง

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ / เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส