บทที่ 603 ไฉ่หนิงชวน 1
เงี่ยนอีหลิงเป็นเพื่อนแม่และตระกูลเงินไปยังอาคารที่ดูแปลกตาในเป่ยจิง
อาคารนี้ถูกซ่อนอยู่ในตรอกของเป่ยจิง ยิ่งไปกว่านี้ เจ้าของอาคารหลังนี้ยังมีตัวตนและสถานะที่พิเศษในสังคมอีกด้วย
หากตระกูลเจียนมาเอง พวกเขาจะไม่สามารถเข้าประตูอาคารนี้ได้
แต่ทว่าตระกูลเวินมีเส้นสายในพื้นที่นี้ ดังนั้นเวินน่วนและเงี่ยนอีหลิงจึงสามารถเข้าไปในอาคารนี้ได้ในวันนี้
แน่นอนว่าเป็นเฉิงมีแผนที่จะชวนน้องสาวและหลานสาวมาร่วมสนุกกันอยู่แล้ว
เขายิ้มให้เป็นนวนและเจียนอีหลิง “ถ้าสนใจชิ้นไหนก็บอกมานะ ฉันจะซื้อให้”
เวินเฉิงใจกว้างมากเมื่อเป็นเรื่องของน้องสาวและหลานสาว เขายินดีอย่างยิ่งที่จะใช้จ่ายเงินให้กับพวกเธอ
จากนั้นเป็นนวนก็มองไปที่ไช่ชิงเยว่และเวินรั่ว วันนี้ไปชิงเยว่และเวินรั่วก็มาด้วย หลังจากหยุดครู่หนึ่งเธอก็พูดว่า “อย่ากังวลเรื่องของเราเลย พี่ควรซื้อของให้ภรรยาและลูกถ้าฉันอยากจะซื้ออะไรซักอย่างฉันก็มีเงินของสามีอยู่แล้ว”
ในครอบครัวเงี่ยนเวินน่วนมีหน้าที่ดูแลเงินทองของครอบครัว
แต่ทว่า เงี่ยนชูฉิงนั้นจะรับผิดชอบเรื่องเงินทองของบริษัท
พวกเขาจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับการใช้เงินของเด็กเลย
เมื่อได้ยินดังนั้นไปชิงเยว่ก็ต้องฝืนยิ้มขึ้นบนใบหน้า
ทําไมสามีจึงเห็นอกเห็นใจคนอื่นมากกว่า? ทําไมไม่ดูแลครอบครัวของตัวเอง? ช่างน่าหงุดหงิดที่เขาทําแบบนี้
เมื่อทั้งห้าคนมาถึงอาคาร สถานที่นั้นดูว่างเปล่าเหลือเกิน เมื่อมองเผินๆ ดูเหมือนว่าจะมีคนอยู่ในอาคารไม่มากนัก
อาคารที่ดูแปลกตานี้มีแผ่นโลหะแขวนอยู่เหนือประตู ป้ายนี้มีสีน้ํามันลอกออก มีคําว่าไฉ่หนิงชวนติดอยู่บน
จากนั้นก็มีลุงวัยกลางคนที่สวมเสื้อผ้าเรียบง่ายก็ปรากฏตัวขึ้นที่ประตู เขาถือกล้องยาสูบไว้ในมือ
ลุงผู้นี้ดูเข้ากับตัวอาคาร พวกเขาให้บรรยากาศที่ล้าสมัยมาก ดูราวกับว่าพวกเขาเป็นคนของอีกทศวรรษในอดีต
เวินเฉิงเดินเข้าไปคุยกับลุงวัยกลางคน “สวัสดี วันนี้เป็นงิ้วเรื่องอะไร? ติงจุนซาน หรือหัวฟางเฉา?”
ลุงคนนั้นเหลือบตามองที่เป็นเฉิง จากนั้นเขาก็ก้มหน้าลงสูบกล้องยาสูบ
“ติงจุนซาน” ชายคนนั้นตอบ
“ตกลง เราจะเข้าไปดูงิ้วกัน”
จากนั้นเป็นเฉิงก็เข้าไปในอาคารพร้อมกันกับครอบครัว
มีผู้ชายสองสามคนเฝ้าอยู่หลังประตู แต่ทว่าพวกเขาก็ไม่ได้หยุดเวินเฉิงและครอบครัวไม่ให้เข้าไป
นี่เป็นเพราะเป็นเฉิงได้พูดคํารหัส เมื่อเขาพูดถูกต้อง เขาก็สามารถเข้าไปในอาคารได้
เมื่อเข้าไปข้างในแล้ว ภายในตัวอาคารก็คล้ายกับภายนอก ตัวอาคารให้ความรู้สึกดั้งเดิมและล้าสมัย
ราวกับว่าพวกเขาย้อนเวลากลับไปสู่ยุคประวัติศาสตร์จีน
แต่ถึงกระนั้น นี่ก็เป็นเพียงแวบแรกเท่านั้น เมื่อมองอีกครั้ง จะสังเกตเห็นว่ามีอุปกรณ์เฝ้าระวังและกล้องตรวจ จับอยู่ทุกมุมห้อง นอกจากนี้ยังมีเซ็นเซอร์อินฟราเรดและเทคโนโลยีที่ทันสมัยอื่นๆอีกมากมาย
หลังจากที่พวกเขาเข้าไปด้านในแล้ว หญิงสาวสวมชุดกี่เพ้าคนหนึ่งก็นําทางไป
ภายในอาคารคล้ายกับโรงน้ําชาโบราณ
มีเวทีขนาดใหญ่ตั้งอยู่ที่ตรงกลางของชั้นล่างสุด
มีที่นั่งมากมายในชั้นล่างสุด แต่ที่ชั้นสองจะมีห้องส่วนตัวหลายห้อง ซึ่งสามารถมองเห็นเวทีได้จากห้องส่วนตัวทุกห้อง
เวินเฉิงและครอบครัวตามหญิงสาวไปยังห้องที่จองไว้
เช่นเดียวกัน ห้องนี้ก็ให้ความรู้สึกทางประวัติศาสตร์เช่นเดียวกัน มีโต๊ะสี่เหลี่ยมแบบโบราณอยู่กลางห้องโต๊ะสามารถจุคนได้อย่างน้อยแปดคน
จากนั้นเดินเฉิงก็ยิ้มให้หญิงสี่คนที่อยู่ข้างเขา”อีกสักครู่จะมีของนําขึ้นไปบนเวที บางอย่างที่นี่จะเป็นของปลอมแต่ว่าพวกเธอต้องตัดสินโดยใช้สายตา มันค่อนข้างเสี่ยงอยู่เหมือนกันมันคล้ายกับการพนันหินหยก”
พนันหินหยก* เป็นการประมูลหินจากแหล่งหยก แล้วทําการผ่าหินออกมาดูว่ามีหยกอยู่ข้างในนั้นหรือไม่ตาดีได้ตาร้ายเสีย
มันค่อนข้างคล้ายกับการประมูลทั่วไป แต่ไม่ว่ายังไง มันก็ไม่เหมือนกันไปเสียทีเดียว
ราคาของรายการเหล่านี้มักจะถูกกว่าปกติ เนื่องจากไม่มีการรับประกันว่าสินค้าเหล่านี้เป็นของแท้
ดังนั้นจึงคล้ายกับการพนัน
ตระกูลเวินรู้ว่าน้ําในวงการของโบราณนั้นลึกแค่ไหน
แต่ไม่ว่ายังไง ครอบครัวของพวกเขาก็มีประวัติอันยาวนานในเรื่องเกี่ยวกับโบราณวัตถุ ด้วยเหตุนี้เป็นเฉิงจึงประเมินได้ไม่ผิดพลาด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ / เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส
เรื่องนี้ยังอัปเดตต่อไหมคะ😭...