เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ / เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส นิยาย บท 667

สรุปบท ตอนที่ 667-668: เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ / เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส

สรุปตอน ตอนที่ 667-668 – จากเรื่อง เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ / เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส โดย Internet

ตอน ตอนที่ 667-668 ของนิยายดราม่าเรื่องดัง เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ / เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส โดยนักเขียน Internet เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ บทที่ 667 เธอคือ Dr. F.S. 3

“ฉันก็ไม่เชื่อเหมือนกัน เธอจะเป็น Dr. FS. ไปได้ยังไง นั่นเป็นไปไม่ได้” เป็นรั่วร่าร้องออกมา

เป็นรั่วก็ไม่สามารถยอมรับข้อเท็จจริงนี้ได้เช่นเดียวกัน

ชื่อของ Dr. FS. เป็นที่รู้จักกันดีในวงการ

ในทางตรงกันข้าม เจียนอหลิงอายุน้อยกว่าเธอหนึ่งปี

ตั้งแต่เล็ก เจียนอหลิงนั่นหยิ่งยะโสและซุกซน

ดังนั้น คนแบบนี้จะเป็น Dr FS. ไปได้ยังไง?

ท่านผู้เฒ่าหวินพูดขึ้นอีกครั้ง “ความพย่าามเป็นสิ่งสําคัญมากเหลือเกิน แต่ถึงกระนั้น บางครั้ง เราก็ต้องยอมรับว่าพรสวรรค์ของคนบางคนนั้นอยู่เกินเอื้อมของคนอื่น แม้ว่าเธอจะทํางานอย่างหนักมาสิบหรือยี่สิบปีก็ตาม”

นี่คือความจริงที่โหดร้าย

เจี่ยนอีหลิงและเป็นนวนก็ไม่สามารถคืนสติได้ไปอีกนานเช่นเดียวกัน

แพทย์ที่ช่วยครอบครัวพวกเขาถึงสองครั้งอยู่เคียงข้างพวกเขามาโดยตลอด

แพทย์คนนี้ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากลูกสาวของพวกเขา อีหลิง “อีหลิงคือ Dr. FS. อีหลิงคือ Dr. FS. อีหลิงคือ Dr. FS. ” เป็นนวนพึมพําพูดซ้ําวนไปมา

น้ําตาเริ่มไหลจากดวงตาเธออย่างควบคุมไม่ได้

จากนั้นเป็นนวนก็กอดเจี่ยนอีหลิงและสะอื้นไห้อย่างไม่สามารถควบคุมได้อีก

ในขณะนี้ เจียนหยุ่นเฉิงก็ได้มาถึงห้องผ่าตัด เขาได้ยินค่าพูดของแม่

น้องสาวเขา… เป็น Dr. FS. …

เมื่อได้ยินแบบนี้ เจี่ยนหยุ่นเฉิงก็ตกตะลึงเช่นเดียวกัน

เขาไม่สามารถย่อยสลายทําความเข้าใจข่าวนี้ได้

และสุดท้าย เจียนหยุ่นน่าวก็มาถึงโรงพยาบาล

เมื่อเจียนหยุ่นน่าวเห็นทุกคน เขาก็ก้มหน้าลง

จากนั้นเขาก็ได้ยินคําพูดของเวินรั่ว “อหลิงไม่ใช่ Dr. FS. แน่นอน เธอไม่มีความสามารถใน การช่วยพ่อฉัน”

เจียนหยุ่นน่าวลุกขึ้นจากม้านั่งของโรงพยาบาลทันที “เธอหวังว่าอีหลิงจะเป็น Dr FS. หรือเปล่า? เธออยากให้พ่ออาการดีขึ้นหรือไม่”

จากนั้น เขาก็ตั้งคําถามต่อเป็นรั่วอย่างโกรธเคืองว่า “ไม่ใช่ว่าควรคาดหวังหรือว่าอีหลังคือ Dr FS.? ไม่อยากให้พ่ออาการดีขึ้นเลยเหรอ? มีอะไรสําคัญไปกว่านี้อีกไหม”

ร่างกายของเวินรั่วตัวสั่นอย่างรุนแรงขณะที่เธอตอบว่า “เจี้ยนหยุ่นน่าว นายกําลังพูดไร้สาระอะไร”

“ไม่เข้าใจที่ฉันพูดเหรอ?” เจี่ยนหยุ่นน่าวตอบกลับ

“นายมีสิทธิ์ที่จะพูดที่นี่ด้วยเหรอ? ทําไมนายถึงยินดีที่จะเชื่อสิ่งนี้อยู่? พวกเขากําลังบอกว่า หลังคือ Dr. FS. พวกเขาก็บอกว่าเธอเป็นคนทําการผ่าตัดตอนนั้น ไม่ใช่ว่านายสงสัยว่าเธอทําให้ มือนายบาดเจ็บเหรอ? แล้วตอนนี้ ทําไมเธอถึงผ่าตัดมือของนายด้วยในเมื่อนายสงสัยเธอ นั่นไม่เกินความเป็นจริงไปหน่อยเหรอ?”

เป็นชั่วโกรธจัด เธอสารากออกมาทุกอย่างที่เกิดขึ้นในใจ

คําพูดของเธอนี้เหมือนมีดที่แทงเข้าที่หัวใจของเจียนหยุ่นน่าว

เจียนหยุ่นน่าวก้มหัวลง เสียงเขาต่ําและหนักแน่นมากในขณะที่พูด “ตั้งแต่ที่เธอผ่าตัดให้ย่าของเรา ฉันก็รู้แล้วว่าเป็นเธอ”

เขาตกตะลึงกับข่าวนี้มาก่อนหน้านี้แล้ว

นอกจากนี้ เขายังใช้เวลานานในการแยกแยะเรื่องนี้อย่างปรุโปร่ง

ทั้งยังใช้เวลานานในการเข้าใจทุกอย่าง

ในที่สุดเขาก็เข้าใจว่าพวกเขามาจากตระกูลเดียวกัน ย่าบอกว่าพวกเขาเชื่อมโยงกันด้วยเลือดเนื้อเชื้อไข

บางทีเธออาจจะโกรธเขา บางทีเธออาจไม่ไว้ใจเขาอีกต่อไป

แต่ไม่ว่ายังไงที่สุดแล้ว เธอก็ปล่อยให้เขาตายไปไม่ได้

นี่คือตระกูลของเธอ นี่คือพี่ชายเธอ

ตั้งแต่ต้นจนจบ เธอปฏิบัติต่อเขาเหมือนพี่ชายเสมอมา

บางทีเธออาจเคยหยิ่งยะโสและดื้อรั้น แต่เธอก็รักพวกเขาเสมอ

“หยุ่นน่าว ลูกก่าลังพูดว่าอะไร” เจี่ยนอีหลิงถามด้วยน้ําเสียงสั่นสะท้าน

“ผมบอกว่าตั้งแต่ที่เธอช่วยย่าของเรา ผมก็รู้ตั้งแต่ตอนนั้นเป็นต้นมาแล้ว ดังนั้น ผมจึงรู้อยู่แล้วว่าเธอคือ Dr. FS.” เจี่ยนหยุ่นน่าวตอบ

เจี่ยนหยุ่นน่าวก็รู้อยู่แล้ว

“แล้ว… แล้วทําไมลูกไม่พูดอะไรล่ะ” เจี่ยนซูฉิงถาม

และด้วยเหตุนี้จํายหวินเชิงจึงก่าลังจะปิดปากทุกคนที่นี่ ไม่ว่าจะเป็นตระกูลเป็น แพทย์ หรือเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย
จุสื่อโม่มองไปที่จํายหวินเพิ่งด้วยสีหน้าตกใจ

นั่นเป็นเพราะเขาต้องการให้คนผู้นี้หุบปาก

จสื่อโม่ไม่สนใจความโกลาหลเมื่อกี้นี้เลย แต่ทว่าเขาใส่ใจมากกับการมาถึงของจํายหวินเชิง

อะไรถึงทําให้จํายหวินเจ๋งมาโรงพยาบาลด้วยตัวเอง?

จุสื่อโม่พยายามพูดอย่างอื่นกับจํายหวินเชิง แต่ทว่าเขาถูกบอดี้การ์ดของจํายหวินเชิงลากตัวไปอย่างรวดเร็ว

ตอนแรก การบุกรุกเข้ามาของเจียนอีหลิงไปได้ไม่ดีนัก แต่ทว่าสถานการณ์เปลี่ยนไปทันที เมื่อผู้อํานวยการส่งคนเข้ามา

เธอได้รับอนุญาตให้เป็นหัวหน้าศัลยแพทย์

เจียนอหลิงใช้ยาตัวใหม่กับเงินเฉิงทันที

จากนั้น เธอเริ่มทําการผ่าตัดหลายครั้งเพื่อให้เป็นเฉิงรอดชีวิต

การผ่าตัดกินเวลาสองชั่วโมงเต็ม

เมื่อเธอออกจากห้องผ่าตัด ใบหน้าของเจี่ยนอีหลิงก็ซีดเหลือเกิน มีหยาดเหงื่อเม็ดโตเกาะพราวที่หน้าผากเธอ

ก่อนที่เธอจะทันมองไปรอบตัวได้อย่างชัดเจน ร่างหนึ่งก็เดินมาหา จากนั้นร่างนั้นก็อุ้มเธอขึ้นในทันใด

มีกลิ่นและการเต้นของหัวใจที่คุ้นเคย

เจียนอหลิงพิงไปบนหน้าอกของจํายหวินเชิงและฟังเสียงหัวใจเต้น ทันใดนั้นเธอก็รู้สึกโล่งใจเหลือเกิน

จากนั้นจํายหวินเชิงก็พาเจียนอีหลิงไปที่วอร์ด

เขากระซิบกับเธอด้วยความโกรธอยู่บ้าง “ดูแลร่างกายให้ดี ไม่ช้าก็เร็วเธอจะกลายเป็นกระต่ายผัดเผ็ด”

“ฉันไม่มีเวลาเตรียมตัว…” เจี่ยนอีหลิงพยายามอธิบาย

เมื่อเร็วๆนี้ เธอค่อนข้างยุ่ง ส่งผลให้เธอไม่มีเวลาพักผ่อนเพียงพอในตอนกลางคืน ยิ่งไปกว่านั้นการผ่าตัดครั้งนี้ค่อนข้างกะทันหัน ถ้าเธอรู้ล่วงหน้า เธอก็คงจะพักผ่อนเพียงพอก่อนเข้าห้องผ่าตัด

“อืม เธอไม่ควรเป็นแบบนี้อีก”

จํายหวินเชิงอุ้มเจี่ยนอีหลิงเข้าไปในวอร์ด เขาวางเธอลงบนเตียงแล้วเดินไปปิดประตู เขาปิดเสียงจากภายนอกและปิดกั้นคนอื่นที่ต้องการพบเธอ

ตอนไม่ครบ มีปัญหา ติดต่อสอบถาม ติดต่อมาได้ทางแฟนเพจหน้าหลักนะครับ