บทที่ 767 มีตาแต่ไม่เห็นไท่ซาน 2
เงินสองล้านหยวนที่เธอลงทุนในบริษัทของฉันชวนเมื่อสองสามปีก่อน ได้กลายเป็นสินทรัพย์จํานวนมหาศาล
ยิ่งไปกว่านั้น ในตอนนี้เธอถือหุ้นมากมายในบริษัทอุปกรณ์ทางการแพทย์ชื่อหมิงด้วยเช่นกัน
ในเมื่อไม่ต้องการให้เงินทองรั่วไหลออกภายนอก เธอจึงประสานความร่วมมือระหว่างผู้อาวุโสจางและฉันชวน
ผู้อาวุโสจางรู้ว่าเจียนอีหลิงเป็นผู้ถือหุ้นหลักของบริษัท ตรงกันข้ามกับฉันชวนที่ยังไม่รู้ว่านักลงทุนในตอนนั้นคือเจียนอีหลิง
“ผู้อาวุโสจาง” ฉันชวนทักทายจางชวีหมิงด้วยความเคารพ
การร่วมมือในครั้งนี้ นําโดยนักลงทุนรายใหญ่ของบริษัท
ในขณะเดียวกัน เขาเองก็มองโลกในแง่ดี
เขาเชื่อมั่นในวิสัยทัศน์การลงทุนของเหล่านักลงทุนเป็นอย่างมาก
ความคิดเห็นของพวกเขาสอดคล้องกันอย่างน่าประหลาดใจ
ยังไงก็ตาม ในตอนนี้เว่ยจีรุ่ยคาดเดาว่าฉันชวนซึ่งเป็นคนที่เขาพบในวันนี้ จะมาเป็นผู้สืบทอดตําแหน่งของจางชวีหมิง
ในขณะเดียวกัน นี่หมายความว่าเขาเป็น “ท่านรอง” ลึกลับ
เว่ยจีรี่ยก้าวไปตรงหน้าและทักทายฉันชวนอย่างกระตือรือร้น
“มิสเตอร์ฉันชวน ผมได้ยินเรื่องเกี่ยวกับความสามารถอันโด่งดังของคุณในเป่ยจิงมาบ้างแล้ว”
จากนั้นเว่ยฉีรี่ยก็ยื่นมือออกไปด้านหน้าเพื่อจับมือกับฉันชวน
ฉันชวนจับมือเว่ยจีรุ่ยอย่างสุภาพ “มิสเตอร์เว่ย”
“มิสเตอร์ฉินชวน เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้พบคุณ”
“มิสเตอร์เว่ยสุภาพเกินไปแล้ว” แม้นี้จะเป็นการพูดคุยพอเป็นพิธี แต่ฉันชวนก็ยังคงพูดอย่างสุภาพ
ฉันชวนเป็นคนที่เข้าถึงได้ง่าย ไม่เหมือนกับจํายหวินเชิงที่มีนิสัยเย่อหยิ่ง
ตราบใดที่อีกฝ่ายไม่ก้าวข้ามเส้นที่เขาตั้งไว้ ฉันชวนจะไม่ทําให้คนอื่นอับอายในโลกธุรกิจ
“มิสเตอร์ฉินชวน คุณเป็นแบบอย่างของคนรุ่นผมมากจริงๆ ไม่เพียงแต่มาจากตระกูลที่ดี แต่คุณก็ยังไม่ลืมที่จะสร้างธุรกิจของตัวเองและขยายมันออกไป ดีกว่าคนที่ทําแค่รักษาธุรกิจที่บรรพบุรุษทิ้งไว้” เว่ยรุ่ยยกย่อง
นอกจากจะเกิดในตระกูลฉินแล้ว ฉันชวนยังก่อตั้งบริษัทด้วยตัวเอง ดังนั้น คําพูดยกย่องของเว่ยฉีรุ่ยจึงไม่ผิดแม้แต่น้อย
ฉันชวนค่อนข้างระแวดระวัง เมื่อเผชิญกับค่าชมของเว่ยจีรี่ย
ยังไงก็ตาม เขารู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเว่ยกรุ๊ปในช่วงสองวันที่ผ่านมา ดังนั้น จึงเป็นไปได้สูงที่เว่ยฉีรุ่ยต้องการขออะไรบางอย่างจากเขา
ไม่ว่ายังไง ฉันชวนก็ไม่ได้แสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้ ในทางกลับกันเขาตอบกลับอย่างสุภาพและเฉยเมย
แต่ดูเหมือนว่าเว่ยจีรุ่ยจะไม่เข้าใจสิ่งนี้ เขายังคงพูดกับฉันชวนอย่างกระตือรือร้น
จางชวีหมิงไม่สามารถเข้าไปขัดจังหวะการสนทนาด้านข้างได้เลย
“มิสเตอร์ฉินชวน คงจะเยี่ยมมากถ้าเราจะได้ร่วมงานกัน คุณรู้ไหม แม้ว่าเว่ยกรุ๊ปจะประสบปัญหาเมื่อไม่นานนี้ แต่รากฐานของเราก็ยังคงอยู่”
ฉันชวนยิ้มก่อนพยักหน้า “หากมีโอกาสในอนาคต”
“ผมรู้สึกว่านี่เป็นโอกาสที่ดีมาก มิสเตอร์ฉันชวนลองพิจารณาดูก่อนได้”
“จริงเหรอครับ แต่ไม่ว่าโอกาสนั้นจะดีหรือไม่ ผมคงต้องพิจารณาหลายๆ ด้านถึงจะรู้”
“มิสเตอร์ฉินชวนพูดถูกแล้ว ถ้าคุณอยากตรวจสอบอะไร ผมจะให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่”
รอยยิ้มบนใบหน้าของฉันชวนค่อนข้างอึดอัด
ทันใดนั้น เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น
หลังจากเคาะเบาๆ สองครั้ง ประตูสํานักงานก็เปิดออกอย่างช้าๆ
เจียนอีหลิงเดินเข้ามาจากด้านนอก
เจียนอีหลิงยังคงสวมชุดเดิมเช่นเคย เธอสวมเสื้อกันหนาวสีขาวกับกางเกงขายาวสีดํา เครื่องแต่งกายของเธอหลวมและดูเรียบง่าย
ผมยาวถูกมัดเป็นหางม้า ดูเป็นระเบียบเรียบร้อย
ทันทีที่เขาเห็นเจียนอีหลิง สีหน้าของเว่ยรุ่ยก็มืดลง
เธอมาทําอะไรที่นี่ ?
นี่เธอเป็นวิญญาณร้ายที่ตามหลอกหลอนเขารีไง?
เมื่อนึกถึงความโกรธที่ได้รับจากจํายหวินเซึ่งเมื่อวาน เว่ยรุ่ยก็อารมณ์เสียเมื่อเห็นเจี่ยนอีหลิง
แต่เนื่องจากฉินชวนอยู่ด้วย เขาจึงแสดงความไม่พอใจออกมาโดยตรงไม่ได้
“เสี่ยวหลิง เธอมาที่นี่ด้วยเหรอ?” จางชวีหมิงพูดด้วยสีหน้าที่ดูมีความสุข “เธอมาที่นี่คนเดียวรี? ทําไมไม่บอกก่อนล่วงหน้าล่ะ ฉันจะได้ส่งคนไปรับเธอ”
“คนขับรถมาส่งฉันมาที่นี่”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ / เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส
เรื่องนี้ยังอัปเดตต่อไหมคะ😭...