เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ / เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส นิยาย บท 821

สรุปบท ตอนที่ 821-822: เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ / เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส

สรุปเนื้อหา ตอนที่ 821-822 – เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ / เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส โดย Internet

บท ตอนที่ 821-822 ของ เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ / เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส ในหมวดนิยายดราม่า เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Internet อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

บทที่ 821 ของขวัญ คริสต์มาสจากนายท่านรองจ่าย

“แล้วแผนของนายล่ะ? ไม่สนใจแล้วเหรอ?”

สิ่งที่เจี่ยนอี้เฉินให้ความสําคัญมากที่สุด คือเรื่องของทายาทของตระกูลฉิน

“ว่าแต่ การเป็นพันธมิตรของเรา คงไม่เกี่ยวกับการตกหลุมรักใช่ไหม?”

“นายไม่กลัวว่าฉันจะยอมแพ้ แล้วเลิกจัดการกับฉันชวนรีไง?”

เจี่ยนอี้เฉินยักไหล่ “ก็กลัว แต่ฉันคงหลอกคบกับเธอเพื่อทําเรื่องแบบนั้นไม่ได้ ไม่อย่างนั้นมันจะเป็นการทําร้ายเธอตลอดชีวิตเลยไม่ใช่รึไง?”

“ที่นายพูดมามันทําร้ายจิตใจกันมากจริงๆ เจี่ยนอี้เฉิน เพราะฉันเป็นฉินหยุฝานเลยทําให้แย่มากขนาดนั้นเลยเหรอ? นายรังเกียจที่จะอยู่กับฉันใช่ไหม?”

ฉินหยฝานไม่ใช่คนปิดบังความคิดตัวเองได้ ถ้าเธอกลั้นไว้ไม่ได้ก็จะพูดออกมาตรงๆ

เจียนอี้เฉินเองก็ทนเห็นสีหน้าที่เจ็บปวดของฉินหยุฝานไม่ได้

สีหน้าของเจี่ยนอี้เฉินเปลี่ยนไปจริงจังและเคร่งขรึมมากขึ้น “อันที่จริง ไม่เกี่ยวว่าเธอจะเป็นฉินหยุฝาน หรือผู้หญิงคนอื่น แต่ฉันแค่ไม่ชอบผู้หญิง และคงจะชอบไม่ชอบไปตลอดชีวิตด้วย”

“นี่นายยังจะบอกว่าตัวเองชอบผู้ชายอยู่อีกเหรอ?”

“ฉันไม่ได้หมายความอย่างนั้น จะเชื่อหรือไม่เชื่อแต่ฉันก็พูดความจริง ฉันจะไม่แต่งงาน ก่อนหน้านี้ฉันก็สาบานไว้แล้ว”

แน่นอนว่าฉินหยุฝานไม่เชื่อ ในยุคนี้ใครจะไปพูดเรื่องคําสาบานที่ไร้สาระแบบนั้น?

เว้นแต่ค่าสาบานหลอกลวงที่ผู้ชายชอบพูดตอนไล่ตามผู้หญิง แล้วใครจะมาสาบานเรื่องแบบนั้นกัน?

เจียนอี้เฉินไม่ใช่คนไร้สาระแบบนี้

“เจี้ยนอี้เฉิน นายช่วยหาข้ออ้างดีๆ กว่านี้ได้ไหม”

“หาแล้ว ฉันบอกไปแล้วว่าฉันอยู่กับหยุซี แต่ถ้าเธอไม่เชื่อ ฉันก็ช่วยไม่ได้”

ฉินหยุฝานกัดฟัน ด้วยศักดิ์ศรีที่มีทําให้เธอไม่ยอมร้องไห้ต่อหน้าเจี้ยนอี้เฉิน ดังนั้น เธอจึงหันหน้าเดินจากไป

เมื่อเห็นแผ่นหลังของฉินหยุฝานที่กําลังห่างออกไปเรื่อยๆ เจี่ยนอี้เฉินก็ถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้

เขาหวังว่ามิสฉินจะคิดเรื่องนี้ได้ในไม่ช้า

“ใช่แล้ว วันคริสต์มาสกําลังจะมาถึง อารองของฉันเตรียมของขวัญไว้ให้เธอที่ดาดฟ้าแล้ว”

“ดาดฟ้า?” “ใช่ เดี๋ยวฉันจะพาเธอขึ้นไปด”

หลังจากทานอาหารเย็นเสร็จ จํายหวินเชิงก็พาเจียนอีหลิงขึ้นไปที่ดาดฟ้า

บนชานชาลาขนาดใหญ่ของดาดฟ้า มีเฮลิคอปเตอร์จอดอยู่

ทั้งเป็นสีชมพู

เฮลิคอปเตอร์ลํานี้เป็นของขวัญคริสต์มาสจากนายท่านรองจํายถึงเจี่ยนอีหลิง

เจียนอีหลิง “…”

ความคิดที่ว่าเธอชอบสีชมพูทําให้ตระกูลจํายติดเชื่อกันมาด้วยเหตุผลบางอย่าง เจียนอีหลิงรู้สึกเสียใจ “ฉันขับมันไม่เป็น” จํายหวินเชิง “ไม่เป็นไร ฉันขับได้”

“นายขับได้เหรอ?”

“ทําไมล่ะ? เธอไม่เชื่อเหรอ? ฉันมีใบขับขี่เฮลิคอปเตอร์ และก็มีใบขับขี่เรือยอร์ชด้วยนะ” จํายหวินเชิงเกือบจะทดสอบทุกรายการขับยานพาหนะหมดแล้ว ยังไงก็ตาม มันก็เป็นเรื่องทั่วไป ดังนั้น เขาจึงเรียนรู้มันทั้งหมดเลย จํายหวินเชิงมอบหมวกกันน็อคและชุดหูฟังให้เจียนอีหลิง

“ลองไปขับเล่นกันเถอะ อารองสมัครเส้นทางบินวันนี้ไว้ให้แล้ว”

นายท่านรองจ่ายคิดว่าหลานชายของตัวเองจะพาหลานสะใภ้ออกไปขับเฮลิคอปเตอร์ในวันที่ให้ของขวัญ แม้แต่ใบอนุญาตการบินของวันนี้ก็ยังยื่นขอไว้ล่วงหน้าเพื่อพวกเขาเรียบร้อย

เจียนอีหลิงขึ้นที่นั่งผู้โดยสารของเฮลิคอปเตอร์ ส่วนจํายหวินเซึ่งก็ขึ้นที่นั่งนักบิน

ตามด้วยบอดี้การ์ดอีกสองคน

“ลูกสาวของเอกอัครราชทูตชอบนาฬิกาของเสี่ยวหลิงและอยากซื้อจากเธอ แต่เสี่ยวหลิงไม่เห็นด้วย ผมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น อุปกรณ์บนตัวเสี่ยวหลิงก็ส่งกระแสไฟฟ้าไปที่ตัวลูกสาวของเอกอัครราชทูต”

เจียนอีหลิงซ่อนอุปกรณ์รุ่นใหม่ที่ไม่ได้มีอยู่ตามท้องตลาดไว้

ลูกสาวของเอกอัครราชทูตที่ถูกไฟฟ้าดูดนั้นเพียงแค่ชาเล็กน้อย และไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ

ยังไงก็ตาม เอกอัครราชทูตของประเทศ M ปฏิเสธที่จะปล่อยให้พวกเขาออกไปเพราะพวกเขาครอบครองอาวุธอันตราย

เนื่องจากอีกฝ่ายหนึ่งเป็นทูตของประเทศ M สิ่งต่างๆ ไม่ว่าจะใหญ่หรือเล็ก แต่ถ้ามันเกิดเรื่องบานปลาย ก็อาจกลายเป็นปัญหาระดับชาติได้

“รอฉันก่อน ฉันจะไปหาทันที นายทําให้เรื่องนี้สงบลงก่อน แล้วอย่าให้พวกเขาเข้าไปใกล้เสี่ยวหลิงอีก”

หลังจากที่เจี้ยนอี้เหิงคุยกับเจียนอี้เฉินแล้ว เขาก็รีบไปที่เกิดเหตุทันที

ทางฝั่งของเจียนอี้เฉินมีคนจากสถานทูตหลายคนกําลังล้อมเจียนอีหลิงและเขาอยู่ เพื่อขวางไม่ให้พวกเขาออกไป

เจียนอี้เฉินพยายามเจรจากับคนเหล่านี้ “ฉันอธิบายไปแล้วไง ว่านี่เป็นเพียงความเข้าใจผิด เราไม่ได้พกอาวุธร้ายแรงอะไรที่ตัวเลย กระแสไฟฟ้าเป็นเพียงอุปกรณ์ป้องกันหมาป่าทั่วไป และมันก็ไม่มีอันตรายด้วย”

ในขณะนั้นเอง เอกอัครราชทูตก็ปรากฏตัวขึ้น เขาเป็นชายต่างชาติวัยกลางคนที่ดูสุภาพมาก เขามีตาสีฟ้า ผิวขาว ผมสีน้ําตาล และร่างกายอ้วนเล็กน้อย

เขาพูดด้วยน้ําเสียงอ่อนโยนกับเจียนอี้เฉินและเจียนอีหลิง “ถ้าอย่างนั้น ให้เราตรวจค้นเพื่อพิสูจน์ว่าพวกคุณไม่ได้ครอบครองอาวุธอันตรายเถอะ ไม่ต้องกังวล ตราบใดที่แน่ใจว่าพวกคุณไม่เป็นอันตราย เราจะปล่อยพวกคุณไป”

เอกอัครราชทูตพูดภาษาจีนได้อย่างคล่องแคล่ว

แบตเตอรี่ที่ใช้ในอุปกรณ์ของเจียนอีหลิง เป็นแบตเตอรี่ชนิดใหม่ที่ไม่มีในท้องตลาด

เธอไม่แน่ใจว่าแบตเตอรี่ชนิดใหม่นี้จะผ่านการทดสอบอุปกรณ์ที่มีอยู่ได้รึเปล่า

นอกจากนี้ เทคโนโลยีของแบตเตอรี่ใหม่ยังไม่สามารถเปิดเผยต่อสาธารณะได้ในขณะนี้ และไม่สามารถมอบแบตเตอรี่ให้ผู้อื่นได้ด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สถานะของอีกฝ่ายนั้นพิเศษมาก

ดังนั้นเจี่ยนอีหลิงจึงปฏิเสธค่าขอ “คุณไม่มีหลักฐานว่าเรามีอาวุธอันตราย ดังนั้น คุณจึงไม่สามารถทําการตรวจค้นร่างกายเราได้”

เอกอัครราชทูตกล่าว “การที่พวกคุณปฏิเสธให้ความร่วมมือกับผมเป็นเรื่องที่น่าลำบากใจจริงๆ”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ / เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส