บทที่ 833 แย่งออเดอร์
ตอนที่เวินน่วนก่อตั้งสตูดิโอขึ้นมาเธอก็ยังไม่มีชื่อเสียง เธอจึงขอให้ญาติและเพื่อนๆส่งต่อกันในกลุ่มเพื่อน ทําให้ลูกค้าในตอนแรกของเธอนั้นเป็นสุภาพสตรีและคนที่รู้จักในแวดวงเท่านั้น
ในเมื่อตอนนี้ลูกสาวของเธอนั้นก็เริ่มมีชื่อเสียงขึ้นมาแล้ว ก็ควรที่จะเริ่มสร้างแบรนด์ของตนเองขึ้นมาได้แล้วเหมือนกันไม่ใช่เหรอ?
ด้วยเหตุนี้ ไปชิงเยวจึงรู้สึกว่าสิ่งที่ลูกสาวของเธอพูดนั้นสมเหตุสมผล
ลูกสาวของเธอไม่ได้แย่ไปกว่าเวินน่วน สิ่งที่เวินน่วนทําได้ ลูกสาวเธอก็ทําได้เช่นเดียวกัน
หลังจากคิดดูแล้วไช่ชิงเยว่ก็พูดว่า “เอาเถอะ แม่จะเอาเงินส่วนตัวออกมาก่อน และลูกก็จะสามารถเริ่มต้นบริษัทของตัวเองได้ เวินน่วนสร้างสตูดิโอ ลูกก็ต้องสร้างสตูดิโอด้วย แม่เกรงว่าคนอื่นจะพูดว่าลูกเป็นคนลอกเลียนแบบ ดังนั้นเราต้องขยายกิจการ เริ่มจากตั้งบริษัทและท่าเสื้อผ้า ระดับไฮเอนด์กันก่อน หลังจากนั้นก็พัฒนาให้มีความมั่นคง แล้วเราก็จะขยายธุรกิจเครื่องประดับ เครื่องสําอาง และธุรกิจอื่นต่อไป”
หัวเดียวกระเทียมลีบ ส่งข้าวส่งน้ําผู้แปลหน่อยนะครับ
เดิมที่ความคิดนี้ถูกวางแผนไว้โดยเว้นรั่ว แต่การดําเนินการตามแผนนั้นจะเกิดขึ้นหลังจากที่เธอสร้างชื่อในวงการแล้ว
ตอนนี้ไช่ชิงเยว่พูดถึงการก้าวหน้าของแผนการทั้งหมด
“แม่คะ พูดจริงไช่ไหม?” ดวงตาของเวินรั่วเป็นประกาย
ไปชิงเยว่ยังกล่าวอีกว่า “อย่าเพิ่งลาออกจากงานของลูกที่เซียงตั๋วลี่ หลังจากก่อตั้งบริษัทแล้ว ลูกค่อยพิจารณาลาออก ส่วนเรื่องเล็กน้อยของบริษัทแม่จะช่วยลูกจัดการไปก่อน”
แผนของไช่ชิงเยว่คือสิ่งที่เวินรั่วใฝ่ฝัน
“ตกลงค่ะ” เวินรั่วมั่นใจในแผนของแม่
ไช่ชิงเยว่เป็นพี่สะใภ้ของเวินน่วน ความสัมพันธ์และกลุ่มเพื่อนของพวกเธอจึงมีความเกี่ยวข้องกัน
ไปชิงเยว่รู้ว่าหลายคนถูกเวินน่วนปฏิเสธที่จะรับออเดอร์ ดังนั้นเธอจึงเริ่มค้นหาคนเหล่านี้
หลังจากที่ได้ฟังไช่ชิงเยว่บอกว่าเวินรั่วเป็นผู้ออกแบบ หลายคนก็แสดงความสงสัย
พวกเธอได้เห็นทักษะของเวินนวนที่ได้รับการยอมรับจากมิสเตอร์เควินหัวหน้านักออกแบบของเซียงตัว
ส่วนเวินรั่วนั้น… พวกเธอไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อน
ไช่ชิงเยว่อธิบายว่า “คุณจะกังวลอะไรเกี่ยวกับความสําเร็จทางศิลปะของรั่วรั่ว เวินน่วนและเวินรั่วต่างก็มาจากตระกูลเป็น ทั้งสองคนมาจากครอบครัวเดียวกันและเติบโตในสภาพแวดล้อมเดียวกัน พวกเธอจะต่างกันได้อย่างไร? และในตอนนี้ชั่วรั่วก็ทํางานที่เซียงตั๋วลี่ ถ้าเธอยังดีไม่พอแบรนด์ใหญ่อย่างเซียงตัวลจะจ้างเธอได้ยังไง?”
ไช่ชิงเยว่ประสบความสําเร็จในการโน้มน้าวคนบางคนและได้รับเงินมัดจําจากพวกเธอ ด้วยออเดอร์เหล่านี้ ไปชิงเยวจึงมีความมั่นใจมากขึ้นในการเริ่มต้นบริษัท
หลังจากที่เป็นเฉิงรู้เรื่องนี้ เขาก็รู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อย “รั่วรั่วยังเด็ก และยังไม่จบการศึกษา จากมหาวิทยาลัย อีกทั้งไม่มีประสบการณ์ทางสังคมที่เพียงพอ เธอจะปล่อยให้ลูกเปิดบริษัทตอนนี้จะดีเหรอ?”
ไช่ชิงเยว่โกรธอย่างอธิบายไม่ถูกเมื่อเธอได้ยินคําพูดของเวินเฉิง “เมื่อเวินน่วนต้องการสร้างแบรนด์ของตัวเอง คุณยังชื่นชม โอ้อวด แต่ทําไมพอเป็นรัวรัวของเราคุณถึงอยากให้เธอถอย?”
ทัศนคติตรงกันข้ามของทั้งสองคนทําให้ไช่ชิงเยวรู้สึกรําคาญ
เวินเฉิงอธิบายว่า “ไม่ใช่อย่างนั้น อานวนและรั่วรั่วมีช่องว่างระหว่างอายุและประสบการณ์ชีวิตที่แตกต่างกัน”
ไปชิงเยว่โต้กลับ “ประสบการณ์ชีวิตก่อนหน้าของเงินน่านเป็นประสบการณ์ในฐานะภรรยาของตระกูลเจียน ซึ่งไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการออกแบบเลยด้วยซ้ํา อีกทั้งเธอกับรั่วรั่วก็มีจุดเริ่มต้น เหมือนกันในเรื่องของการออกแบบและสตูดิโอ”
เงินเฉิงไม่สามารถหักล้างคําพูดของไปชิงเยวได้
แต่เขารู้สึกไม่สบายใจอยู่ลึกๆ ไม่ใช่ว่าเขาดูถูกลูกสาว แต่เขารู้สึกจริงๆว่าลูกสาวของเขานั้น ยังไม่มั่นคงและเป็นผู้ใหญ่เท่ากับน้องสาวของเขา
ไช่ชิงเยว่พูดอีกครั้ง “นอกจากนี้ นี่เป็นเงินส่วนตัวของฉัน ฉันยินดีที่จะให้เงินลูกสาวของฉันเพื่อเริ่มต้นบริษัท”
บทที่ 834 สิ่งเดียวที่ฉันทําได้เพื่อเธอ
เป็นเฉิงไม่สามารถหยุดภรรยาและลูกสาวของเขาได้ เขาท่าได้แค่เดือนเท่านั้น “ถ้าอย่างนั้น เธอควรระมัดระวังและอย่าไปสนใจผลประโยชน์ชั่วคราว”
เมื่อเห็นว่าสามีเธอไม่คัดค้านอีกต่อไป ไช่ชิงเยว่ก็ปรับทัศนคติของตัวเองให้อ่อนลง “ฉันรู้ ฉันจะตั้งใจ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ / เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส
เรื่องนี้ยังอัปเดตต่อไหมคะ😭...