เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ / เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส นิยาย บท 939

สรุปบท ตอนที่ 939-940: เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ / เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส

ตอน ตอนที่ 939-940 จาก เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ / เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

ตอนที่ 939-940 คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายดราม่า เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ / เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส ที่เขียนโดย Internet เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ บทที่ 939 กลับบ้านไปคุกเข่าบนกระดานซักผ้างั้นเหรอ?

เจี่ยนอีหลิงมองเห็นคนหลายคนในห้องของเควินได้อย่างชัดเจนผ่านกล้องของแล็ปท็อป

จ่ายหวินเชิ่ง หันเหมิงอวี้ ซิงเหว่ยและคนของพวกเขา

ทันทีที่สบตากัน ทั่วทั้งห้องชั้นพิเศษก็เงียบลง

ให้ตายสิ!

พี่สะใภ้!

รอยยิ้มบนใบหน้าของมิสเตอร์เควินนั้นสดใสมาก

“นายท่านเชิ่งจากตระกูลจ่ายบอกฉันหน่อยได้ไหม ว่าทําไมคุณกับกลุ่มพันธมิตรเหอฉี ถึงต้องการสืบสวนสืบสวนมิสเอลิมจากบริษัทเซียงตั๋วลี่ของเรา? คุณไม่ไว้วางใจ? หรือว่ามีแผนการอื่นงั้นเหรอ?”

เรื่องนี้ค่อนข้างซับซ้อน

ดวงตาของเจี่ยนอีหลิงกระจ่างชัด เธอมองไปที่จ่ายหวินเชิ่งด้วยดวงตาที่สดใส

ใบหน้าที่ใสซื่อของเธอ ไม่มีความโกรธหรือความไม่พอใจปรากฏอยู่เลย

หันเหมิงอวี้และซิงเหว่ยมองจ่ายหวินเชิ่งด้วยความกังวลใจ

สีหน้าของจ่ายหวินเชิ่งเปลี่ยนไปครั้งแล้วครั้งเล่า

“เธอฟังฉันอธิบายก่อน” จ่ายหวินเชิ่งพูดกับเจี่ยนอีหลิงในวิดีโอ

“หือ?” เจี่ยนอีหลิงมองเขาอย่างว่าง่าย

“ฉันจะกลับเดี๋ยวนี้ เธอรอฉันก่อน”

จ่ายหวินเหิ่งหันหลังเดินจากไป

หันเหมิงอวี้ที่เหลือและซิงเหว่ยที่ถูกทิ้งมองหน้ากัน ไม่รู้ว่าต้องทํายังไง

ตอนนี้พวกเขาควรทําอย่างไรดี?

ไม่รู้สิ

นายท่านเชิงไม่ทิ้งคําพูดอะไรก่อนจากไป

น่ากระอักกระอ่วน

ใบหน้าของทั้งสองเต็มไปด้วยความกระอักกระอ่วน

มิสเตอร์เควินยิ้มและพูดว่า “เป็นหนุ่มๆ นี่ดีจัง”

ซิงเหว่ยถามหันเหมิงอวี้ด้วยเสียงต่ํา “นายคิดว่านายท่านเชิ่งจะกลับบ้านไปคุกเข่าบนกระดานซักผ้า* งั้นเหรอ?”

(BB 5 ประเพณีวัฒนธรรม-การลงโทษของจีน กระดานซักผ้าของจีนจะเป็นรอยหยักฟัน จระเข้ รู้กันว่าหากภรรยาโกรธสามีจะลงโทษโดยการให้มาคุกเข่าบนกระดานซักผ้า คํานี้ยังสื่อถึงสามีที่กลัวภรรยาด้วย)

“ไร้สาระ มันเป็นไปไม่ได้ ทําไมนายท่านเพิ่งจะต้องคุกเข่าบนกระดานซักผ้าด้วย?” หันเหมิงอวี้ตอบอย่างมั่นใจ “ตอนนี้ที่บ้านคนเราจะไปมีกระดานซักผ้าได้ยังไง? คุกเข่าบนแป้นพิมพ์ก็คงจะเหมือนกัน”

จ่ายหวินเชิงกลับบ้าน ไฟที่บ้านยังคงเปิดอยู่

เมื่อตอนที่เขาอยู่ในห้องพักของโรงแรม เขาเห็นว่าพื้นหลังของเจี่ยนอีหลิงในวิดีโอคือห้องทํางานของพวกเขา

ดังนั้นตอนนี้เจี่ยนอีหลิงควรจะอยู่ในห้องทํางาน

จ่ายหวินเชิ่งเข้าไปในห้องหนังสือ เขาก็เห็นร่างบอบบางพิงอยู่ที่หน้าตู้หนังสือดูเหมือนกําลังยุ่งอยู่กับงาน

และยังไม่ได้ปิดวิดีโอคอลกับเควินบนหน้าจอแล็ปท็อป

จ่ายหวินเชิ่งก้าวไปตรงหน้าและวางสายวิดีโอคอล

“เรื่องเมื่อกี้…”

“นายกําลังตรวจสอบฉันอยู่เหรอ?” เจี่ยนอีหลิงถาม

ใบหน้าขาวเนียนไม่ได้อารมณ์เสียใจหรือโกรธ

“อือ”

“ทําไมล่ะ?” สงสัยเล็กน้อย แต่ไม่โกรธ

“ครีมลบรอยแผลเป็น”

“นายจําได้เหรอ?”

“แน่นอน ฉันจ๋าทุกอย่างที่เธอทําได้”

จ่ายหวินเชิ่งพูดแล้วพับแขนเสื้อของตัวเองขึ้น

“ไม่มีรอยแผลเป็น”

เพราะเขาฟังเธอ เขาเลยใช้ครีมลบรอยแผลเป็นที่เธอเตรียมไว้อย่างว่าง่าย

นิ้วของเจี่ยนอีหลิงแตะที่แขนของจ่ายหวินเชิ่งเบาๆ

ปลายนิ้วสัมผัสผิวที่เรียบเนียนเขา

ไม่ทิ้งรอยแผลเป็น

จ่ายหวินเชิ่งพูดว่า “เมื่อฉันถามเธอว่าจะร่วมมือกันได้ไหม เธอบอกว่าทําไม่ได้ในตอนนั้นแล้ว

ฉันก็พบว่ามีคนจากเซียงตั๋วลี่ทํามันขึ้นมา”

น้ําเสียงของเขามีความขุ่นเคืองเล็กน้อย

เจี่ยนอีหลิงตอบว่า “นายไปแล้ว ไปโดยที่ไม่บอกลากัน ทั้งยังไม่ยอมให้ฉันพบนายอีกด้วย”

ไม่รู้เหมือนกันว่าใครเป็นคนที่หนีหายไป

เมื่อมองไปยังคนน่ารักตรงหน้า ดวงตาของจ่ายหวินเชิ่งก็เต็มไปด้วยไฟราคะ
“อีหลิง วันนั้นเธอติดหนี้ฉัน…”

แม้ว่ากระต่ายจะมีขาสั้น แต่ก็วิ่งเร็วมาก

ถ้าจะบอกว่าใครเป็นผู้ชนะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในวันนี้ ก็คงจะไม่ใช่เควิน หรือจ่ายหวินเชิ่ง และเจี่ยนอีหลิง แต่เป็นเฉินลู่จากโซเฟียกรุ๊ป

จ่ายหวินเชิ่งบุกเข้าไปในห้องของเควิน และได้ข้อมูลประจําตัวเกี่ยวกับเอลิมมาให้เธอ
เชิ่งจากตระกูลจ่าย

ปรากฏว่าเอลิมคนนี้ไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นลูกสาวของเวินน่วน เจี่ยนอีหลิง คู่หมั้นของนายท่าน

ศัลยแพทย์ที่มีชื่อเสียงเล็กน้อย ซึ่งเพิ่งเข้าร่วมกับโรงพยาบาลรั่วไห่เซินเมื่อเร็วๆนี้ และกําลังเป็นที่นิยม

“ฉันน่าจะคิดถึงเธอตั้งนานแล้ว เวชสําอาง แพทย์ และเวินน่วน ตอนนี้เบาะแสทั้งหมดเชื่อมโยงกันหมดแล้ว” เฉินลู่อ่านชื่อภาษาอังกฤษของเจี่ยนอีหลิงอีกครั้ง “เอลิม อีหลิง ฉันน่าจะคิดเรื่องนี้มาก่อนหน้าแล้ว”

“ประธานเฉิน ตอนนี้เรายังจําเป็นต้องสัมภาษณ์ว่าเวินรั่วอยู่ไหม? เอลิมกับเวินรั่วเป็นญาติกัน

อาจจะมีประโยชน์ถ้าจะเก็บเธอไว้?”

เฉินลู่ “ก็ไม่แน่หรอก เวินรั่วลอกเลียนแบบเวินน่วน ฉันคิดว่าทั้งสองคนมีความสัมพันธ์ไม่ค่อยดีต่อกัน นอกจากนี้ ถ้าเอลิมดีกับเวินรั่วความสัมพันธ์ของเวินน่วนกับวินรั่วก็ควรที่จะดีด้วย”

เฉินลู่กล่าวต่อ “ฉันต้องการสัมภาษณ์เป็นรั่วเพื่อรับข่าวจากปากเธอ ตอนนี้ฉันรู้คําตอบแล้ว เธอจะไม่มีประโยชน์อีก ที่ฉันอยากเอาชนะให้ได้ในตอนนี้คือเจี่ยนอีหลิง และเธอจะทําให้เจี่ยนอีหลิงไม่สบายใจงั้นเหรอ? ฉันไม่ได้โง่ขนาดนั้น”

ผู้ช่วยเข้าใจว่าเฉินลู่หมายถึงอะไร “ฉันทราบแล้วประธานเฉิน เมื่อเธอมาสัมภาษณ์ในวันพรุ่งนี้ ฉันจะสัมภาษณ์เธอ”

เฉินลู่พูดกับผู้ช่วยอีกครั้ง “เธอช่วยฉันติดตามแผนการเดินทางล่าสุดของเจี่ยนอีหลิงที ฉันอยากหาโอกาสพบเธออย่างเป็นทางการ”

สิ่งแรกที่ต้องท่า คือการสร้างความประทับใจให้อีกฝ่ายก่อน

ผู้ช่วย “รับทราบค่ะ ประธานเฉิน”

เวินรั่วคิดว่าตัวเองได้รับโอกาสอีกครั้ง และไปสัมภาษณ์ที่โซเฟียกรุ๊ปด้วยความมั่นใจ

คิดไม่ถึงว่าตอนสัมภาษณ์จะทําให้เธอหงุดหงิด ซ้ํายังถูกอีกฝ่ายถามคําถามจนยากจะทน เป็นบรรยากาศที่น่าอึดอัดใจมาก

ในที่สุดเวินรั่วก็ออกจากตึกโซเฟียกรุ๊ปสาขาเป่ยจิงอย่างสิ้นหวัง

ตั้งแต่ที่เธอเรียนศิลปะมา นี่เป็นครั้งแรกที่เธอถูกโจมตีแบบนี้

หลังจากกลับมาถึงบ้าน เวินรั่วก็ร้องไห้

ไช่ชิงเยว่ไร้หนทาง เธอช่วยลูกสาวตัวเองไม่ได้

เธอทําได้แค่เกลี้ยกล่อมลูกสาวไม่ให้เศร้าและอยากให้เปิดใจอีกสักหน่อย

แต่เวินรั่วฉันคิดแบบนั้นได้ที่ไหน

เธอร้องไห้อยู่ในผ้าห่มเป็นเวลานาน

เห็นได้ชัดว่าเธอสามารถตอบคําถามได้อย่างคล่องแคล่วระหว่างการสัมภาษณ์กับเซียงตั๋วลี่

แล้วทําไมวันนี้เธอถึงนิ่งเงียบ?

เธอจ๋าแววตาของคนที่ผู้สัมภาษณ์มองเธอได้ เห็นได้ชัดว่ากําลังรังเกียจ

เวินรั่วฉันรู้สึกว่าตัวเองได้รับความน่าอับอายอย่างมาก

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ / เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส