ภพนี้ตราบภิรมย์รัก นิยาย บท 94

หลินเมิ่งหวันเดินลงมาจากบันไดอย่างสง่าผ่าเผย ไม่ได้สนใจชายสวมใส่เสื้อแพรผู้นั้นเลย นางกล่าวเสียงดังขึ้นว่า“《ภาพวาดหญ้าภูเขา》นี้มีทัศนียภาพมากมายไม่ผิด หญ้าป่ามากมายก็ไม่ผิด แต่หญ้าป่าเยอะก็ไม่ได้หมายความว่าจะดี” 

“ทุกท่านโปรดดู”หลินเมิ่งหวันยืนมั่นคงอยู่ใต้ภาพ แล้วยกมือขึ้นชี้ 《ภาพวาดหญ้าภูเขา》กล่าวว่า“หากเพ่งมองอย่างละเอียดถี่ถ้วน ก็จะสามารถเห็นได้ว่าหญ้าป่าภายใน 《ภาพวาดหญ้าภูเขา》นี้ไม่ได้เขียวขจี แต่รูปร่างของแต่ละอัน คุณชายโม่ซวนได้เอาช่วงเวลาการเจริญเติบโตของหญ้าป่าที่แตกต่างกันและสภาพของมันเผยออกมา อยู่ตรงนี้ สามารถมองเห็นร่องรอยการเผาไหม้ของหญ้าป่าด้วย”

“วสันตฤดูมาถึงแล้ว สรรพสิ่งกำลังฟื้นคืน ถึงแม้ว่าต้นไม้จะมีหน่ออ่อนใหม่ แต่ที่ทำให้ภูเขาเขียวขจี ก็คือหญ้าป่าที่ไม่ดึงดูดสะดุดตานั่นเอง "

“สิ่งที่เรียกว่าไฟป่าเผาไม่สิ้น ลมฝนโชยกลับงอกงาม แม้ว่าหญ้าป่าจะไม่เด่นดึงดูดสายตา กลับไม่ระย่อท้อถอย มันเป็นสิ่งที่ถูกคนมองข้ามได้ง่ายที่สุด แต่ก็มีพลังชีวิตที่สุดเช่นกัน ข้าคิดว่าภาพนี้ของ คุณชายโม่ซวน อยากนำมาแสดงให้คนเห็นว่า แม้จะพบเจอเผชิญกับสถานการณ์ที่ย่ำแย่และไม่ได้รับความสำคัญ ก็ต้องเด็ดเดี่ยวเติบโตขึ้นมาเหมือนกับหญ้าป่า

นี่เป็นสิ่งที่ ฉินจุนหรันบอกนางเมื่อชาติปางก่อน แต่ตอนนั้นหลินเมิ่งหวันไม่เข้าใจความหมายลึกซึ้งที่มีอยู่ในนั้น จนเมื่อนางถูกหลินเป้ยเหยาขังอยู่ที่คุกใต้ดิน ถึงได้เข้าใจความหมายนั้น

อีกทั้ง คำพูดของฉินจุนหรัน ประคับประคองหลินเมิ่งหวันอย่างมาก นางยืนหยัดที่จะมีชีวิตรอด เฝ้ารอคอยว่าสักวันหนึ่งตัวเองจะเป็นอิสระ  

แต่สุดท้าย……

เมื่อนึกถึงเรื่องชาติปางก่อน หลินเมิ่งหวันอดกำหมัดไว้ไม่ได้เลย ดวงตาร้อนผ่าว ความเกลียดชังโหมกระหน่ำภายในใจนาง

ชายที่สวมใส่เสื้อแพรกล่าวว่า”พูดจาเลอะเทอะชัดๆ คุณหนูหลิน……”

“เยี่ยม!” เถ้าแก่ของหอภาพวาดหนังสือพูดตัดบทชายเสื้อแพรด้วยความตื่นเต้น และปรบมือทำความเคารพหลินเมิ่งหวันด้วยความนับถือ

“ทัศนะของคุณหนูหลินช่างเลิศล้ำเสียจริง คำพูดนี้กับความคิดของคุณชายโม่ซวน ช่างเหมือนกันนัก!”

ทุกคนอึ้งตะลึง โดยเฉพาะชายเสื้อแพรที่มองเถ้าแก่ของ หอภาพวาดหนังสือด้วยความตะลึงเหวอ

“ท่านพูดจริงหรือ? คุณชายโม่ซวนคิดอย่างนั้นจริงหรือ?”

ไม่รอให้เถ้าแก่ของหอภาพวาดหนังสือตอบ ชายเสื้อแพรจึงขมวดคิ้วด้วยความสงสัย กล่าวว่า“ไม่ใช่ว่าท่านเอาเงินจากนางมาแล้ว จงใจพูดเช่นนี้หรอกนะ?”

ใครต่างก็รู้ว่าหลินเมิ่งหวันร่ำรวยเงินตรา

เถ้าแก่ของหอภาพวาดหนังสือสีหน้าเปลี่ยนทันที กำลังจะเอ่ยปากตำหนิ หนานซีเฟิงที่เงียบตั้งแต่ต้นจนจบได้กล่าวขึ้นว่า“หุบปาก! หยุดพูดจาเลอะเทอะ!”

ชายเสื้อแพรเงียบเสียงทันที หนานซีเฟิงทำความเคารพเถ้าแก่ของ หอภาพวาดหนังสือกับหลินเมิ่งหวัน แล้วกล่าวว่า“เกิดความพลั้งปากพูด ข้าขอโทษทั้งสองท่านแทนเขาด้วย”

หลินเมิ่งหวันเหลือบมอง หนานซีเฟิง ไม่ได้พูดอะไร

นางไม่รอช้า มองเถ้าแก่ของหอภาพวาดหนังสือแล้วกล่าวว่า“ในเมื่อข้ามีทัศนะตรงกันกับ คุณชายโม่ซวน เช่นนั้นข้าสามารถซื้อภาพ 《ภาพวาดหญ้าภูเขา》นี้ได้หรือยัง?”

เถ้าแก่ของหอภาพวาดหนังสือชะงักงัน ประเดี๋ยวเดียวก็ได้กล่าวว่า“นั่นแน่นอนอยู่แล้ว ข้าคิดว่าถ้า คุณชายโม่ซวนรู้ว่าคุณหนูหลินใจตรงกัน จะต้องดีใจอย่างแน่นอน”

หลินเมิ่งหวันยิ้มเล็กน้อยแล้วพยักหน้าเถ้าแก่ของหอภาพวาดหนังสือรีบยืนอยู่ตรงหน้าทุกคนปลดภาพ 《ภาพวาดหญ้าภูเขา》ลง จากนั้นเอาใส่เข้าไปในกล่องผ้าไหมแล้วส่วมอบแก่หลินเมิ่งหวัน

เฝ่ยชุ่ยจ่ายเงินเรียบร้อยแล้ว หลินเมิ่งหวันได้รับภาพมา จากนั้นจึงเดินออกไป

หลี่จิ่นซูเห็นหลินเมิ่งหวันจะไปถึงได้สติกลับมา และตามออกไปด้วยความเร่งรีบ กล่าวว่า“เมิ่งหวัน ช้าก่อน!”

สายตาหลินเมิ่งหวันเย็นชา เดินอย่างรวดเร็ว คนบริเวณโดยรอบเห็นอย่างนั้นเลยฮือฮาขึ้น

หลี่จิ่นซูสีหน้าแข็งทื่อ และตระหนักได้ว่าตนเองยับยั้งสติไม่ได้ แต่เห็นหลินเมิ่งหวันเดินออกไป เขาสนใจอะไรมากไม่ได้ คิดไม่ถึงว่าจะจับพลัดจับผลูกระทำลงไปโดยไม่รู้ตัว

กลับชาติมาเกิด สิ่งที่เขาอยากทำมากที่สุดคือแต่งหลินเมิ่งหวันมาเป็นภรรยา แต่ทว่าชาตินี้หลินเมิ่งหวันกลับห่างเขาไกลขึ้นเรื่อยๆ

《ภาพวาดหญ้าภูเขา》สำคัญกับเขามาก เพราะตอนนี้ฮ่องเต้ชื่นชมคุณชายโม่ซวนเป็นอย่างยิ่ง

เขาก็ได้รับคำเชื้อเชิญไปงานเลี้ยงชมดอกไม้วันพรุ่งนี้ด้วย เพียงแค่เขาเอา《ภาพวาดหญ้าภูเขา》 ไปมอบฮ่องเต้ ก็จะมีโอกาสเข้าเป็นขุนนางในราชสำนัก เพียงแค่เท่านี้ เขาก็สามารถมีโอกาสแต่งกับหลินเมิ่งหวันแล้ว!

ไม่ว่าอย่างไร เขาจะต้องเอาภาพนั้นมาให้ได้!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ภพนี้ตราบภิรมย์รัก