ภายในค่ายทหารชานเมือง เหล่าทหารฝึกฝนกันเป็นระเบียบเรียบร้อย
ภายในกระโจมผู้นำ การตกแต่งเรียบง่ายแต่ทว่าไม่ได้สูญเสียความองอาจ ฉู่โม่หยวนสีหน้าเคร่งขรึมนั่งลงหน้าโต๊ะอ่านจดหมายราชการอยู่
เสวียนยีรีบเดินเข้ามาทำความเคารพเขา แล้วกล่าวอย่างนอบน้อมว่า“เจ้านาย คุณหนูหลินมาพ่ะย่ะค่ะ”
ฉู่โม่หยวนอึ้ง รีบทิ้งสมุดเล็กๆที่อยู่ในมือลง แล้วหมุนตัวออกไปนอกกระโจม
มองไกลๆ ฉู่โม่หยวนก็มองเห็นด้านนอกประตูใหญ่ของค่าย หลินเมิ่งหวันกำลังอุ้มกล่องผ้าไหมด้อมๆมองๆอยู่
นางสวมใส่เสื้อสีขาวกระโปรงแดง สวยกินใจเหลือเกิน
เมื่อเห็นฉู่โม่หยวนออกมา หลินเมิ่งหวันยิ้มออกมาทันที ก็ทำให้คนรู้สึกว่าแสงอาทิตย์สวยงามขึ้นทันตา
“น้อมเคารพจิ่งอ๋องเตี้ยนเซี่ยเพคะ!”
ฉู่โม่หยวนมาถึงตรงหน้า หลินเมิ่งหวันถึงได้คุกเข่าทำความเคารพเขา
ฉู่โม่หยวนมองหลินเมิ่งหวันด้วยความสงสัย กล่าวว่า“เจ้าเป็นอะไรหรือ?”
“เมิ่งหวันได้ของดีมาเพคะ จึงเอามาส่งมอบให้จิ่งอ๋องเตี้ยนเซี่ยโดยเฉพาะเลย”ระหว่างที่กล่าวพูด หลินเมิ่งหวันก็ได้เอากล่องผ้าไหมที่อยู่ในมือมอบให้กับฉู่โม่หยวนราวกับของรัก
ฉู่โม่หยวนขมวดคิ้วเล็กน้อย และส่งให้คนเปิดประตูใหญ่ของค่ายทหาร หลังจากที่ออกไปจึงได้รับกล่องผ้าไหมที่อยู่ในมือของหลินเมิ่งหวันมา
“นี่คืออะไรหรือ?”ฉู่โม่หยวนกล่าวถาม เมื่อเห็นลักษณะของกล่องผ้าไหมก็คาดเดาได้แล้วว่าน่าจะต้องเป็นภาพวาดพู่กัน
แต่ของประเภทนี้ไม่น่ามาอยู่ในมือของหลินเมิ่งหวันได้
ใบหน้าหลินเมิ่งหวันเต็มไปด้วยรอยยิ้ม กล่าวว่า“นี่คือ《ภาพวาดหญ้าภูเขา》ที่ คุณชายโม่ซวนวาดเพคะ เมิ่งหวันซื้อประมูลมาได้ เลยเอามาให้จิ่งอ๋องเตี้ยนเซี่ยโดยเฉพาะ”
นัยน์ตาฉู่โม่หยวนทอประกายความตะลึง เสวียนยียิ่งมีท่าทางเหวอ
ไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่หลินเมิ่งหวันไม่ชอบภาพเขียนและแบบหนังสือศิลปะการประพันธ์เลย อยู่ดีๆนางเอาภาพวาดมาให้ฉู่โม่หยวนมันเกิดความคาดหมายมาก
พูดแบบง่ายๆภาพวาดนี้ของ คุณชายโม่ซวนชิ้นนี้ จะต้องขายให้คนที่ดวงสมพงศ์กัน
คนซื่อบื้ออย่างหลินเมิ่งหวัน จะมองภาพของคุณชายโม่ซวนทะลุปรุโปร่งได้อย่างไร?
หรือว่ามีเงินตราก็สามารถทำทุกอย่างตามอำเภอใจได้แล้ว?
เสวียนยีมองหลินเมิ่งหวันด้วยความสงสัย ทว่าฉู่โม่หยวนกลับเก็บอาการความคิดไว้ มองหลินเมิ่งหวันอย่างจริงจัง กล่าวขึ้นว่า“พูดมา มีอะไรที่ต้องการให้ข้าช่วย?”
ไม่มีเรื่องอะไรก็ทุ่มเทขนาดนี้ แสดงว่าจะต้องมีอะไรอย่างแน่นอน
จู่ๆหลินเมิ่งหวันก็เอาของมาให้เขา ยังมาไกลขนาดนี้ โดยเฉพาะยิ้มอย่างประจบ แสดงว่าต้องสร้างหายนะมาแน่
หลินเมิ่งหวันหน้าร้อนผ่าว เหลือบมองฉู่โม่หยวนด้วยความไม่พอใจ
มือขาวนุ่มของนางจับบิดผ้าเช็ดหน้าตัวเอง หน้ามุ่ยกล่าวว่า“จิ่งอ๋องเตี้ยนเซี่ยพูดอะไรกันเพคะ?เมิ่งหวันตั้งใจมาส่งภาพวาดให้ท่านโดยเฉพาะเลย”
“ใช่หรือ?”ฉู่โม่หยวนกล่าวเสียงลากยาว มองหลินเมิ่งหวันด้วยความตลกขบขัน กล่าวว่า“ไม่ใช่ครั้งแรกที่เจ้ามาให้ข้าเป็นแพะรับบาป”
“พูดมาเถอะ เกิดอะไรขึ้น?หากแค่อยากจะมาส่งภาพวาด เจ้าไม่จำเป็นต้องวิ่งมา ชานเมืองหรอก”
ค่ายทหารไม่อนุญาตให้ผู้หญิงเข้าไป อีกทั้งมาจากเมืองหลวง ก็ต้องใช้เวลามากกว่าหนึ่งชั่วยาม หลินเมิ่งหวันไม่จำเป็นต้องดิ้นรนขนาดนี้
นางรีบร้อนอย่างนี้ แน่นอนว่าจะต้องมีเรื่องร้อนใจ
หลินเมิ่งหวันสะอึกเสียใจ กล่าวว่า“จิ่งอ๋องเตี้ยนเซี่ย ท่านถึงกับไม่ไว้หน้าเมิ่งหวันขนาดนี้เชียวหรือ?”
ฉู่โม่หยวนอดยกริมฝีปากขึ้นไม่ได้ กอบกุมมือของหลินเมิ่งหวัน แล้วมองนางด้วยความอ่อนโยน
หลินเมิ่งหวันสูดหายใจเข้าลึกๆ รีบยกมือข้างหนึ่งขึ้น มองฉู่โม่หยวนด้วยสีหน้าจริงจัง กล่าวว่า“จิ่งอ๋องเตี้ยนเซี่ย เมิ่งหวันสาบาน เมิ่งหวันเป็นคนที่เชื่อฟัง ปฏิบัติตามสิ่งที่จิ่งอ๋องเตี้ยนเซี่ยร้องขออย่างเคร่งครัด”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ภพนี้ตราบภิรมย์รัก