ภพนี้ตราบภิรมย์รัก นิยาย บท 95

สรุปบท บทที่ 95 อย่าพูดทำให้ข้าหลงใหลเคลิบเคลิ้ม: ภพนี้ตราบภิรมย์รัก

อ่านสรุป บทที่ 95 อย่าพูดทำให้ข้าหลงใหลเคลิบเคลิ้ม จาก ภพนี้ตราบภิรมย์รัก โดย ท้อเยาเยา

บทที่ บทที่ 95 อย่าพูดทำให้ข้าหลงใหลเคลิบเคลิ้ม คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายประวัติศาสตร์ ภพนี้ตราบภิรมย์รัก ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย ท้อเยาเยา อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

ภายในค่ายทหารชานเมือง เหล่าทหารฝึกฝนกันเป็นระเบียบเรียบร้อย

ภายในกระโจมผู้นำ การตกแต่งเรียบง่ายแต่ทว่าไม่ได้สูญเสียความองอาจ ฉู่โม่หยวนสีหน้าเคร่งขรึมนั่งลงหน้าโต๊ะอ่านจดหมายราชการอยู่

เสวียนยีรีบเดินเข้ามาทำความเคารพเขา แล้วกล่าวอย่างนอบน้อมว่า“เจ้านาย คุณหนูหลินมาพ่ะย่ะค่ะ”

ฉู่โม่หยวนอึ้ง รีบทิ้งสมุดเล็กๆที่อยู่ในมือลง แล้วหมุนตัวออกไปนอกกระโจม

มองไกลๆ ฉู่โม่หยวนก็มองเห็นด้านนอกประตูใหญ่ของค่าย หลินเมิ่งหวันกำลังอุ้มกล่องผ้าไหมด้อมๆมองๆอยู่

นางสวมใส่เสื้อสีขาวกระโปรงแดง สวยกินใจเหลือเกิน

เมื่อเห็นฉู่โม่หยวนออกมา หลินเมิ่งหวันยิ้มออกมาทันที ก็ทำให้คนรู้สึกว่าแสงอาทิตย์สวยงามขึ้นทันตา

“น้อมเคารพจิ่งอ๋องเตี้ยนเซี่ยเพคะ!”

ฉู่โม่หยวนมาถึงตรงหน้า หลินเมิ่งหวันถึงได้คุกเข่าทำความเคารพเขา

ฉู่โม่หยวนมองหลินเมิ่งหวันด้วยความสงสัย กล่าวว่า“เจ้าเป็นอะไรหรือ?”

“เมิ่งหวันได้ของดีมาเพคะ จึงเอามาส่งมอบให้จิ่งอ๋องเตี้ยนเซี่ยโดยเฉพาะเลย”ระหว่างที่กล่าวพูด หลินเมิ่งหวันก็ได้เอากล่องผ้าไหมที่อยู่ในมือมอบให้กับฉู่โม่หยวนราวกับของรัก

ฉู่โม่หยวนขมวดคิ้วเล็กน้อย และส่งให้คนเปิดประตูใหญ่ของค่ายทหาร หลังจากที่ออกไปจึงได้รับกล่องผ้าไหมที่อยู่ในมือของหลินเมิ่งหวันมา

“นี่คืออะไรหรือ?”ฉู่โม่หยวนกล่าวถาม เมื่อเห็นลักษณะของกล่องผ้าไหมก็คาดเดาได้แล้วว่าน่าจะต้องเป็นภาพวาดพู่กัน

แต่ของประเภทนี้ไม่น่ามาอยู่ในมือของหลินเมิ่งหวันได้

ใบหน้าหลินเมิ่งหวันเต็มไปด้วยรอยยิ้ม กล่าวว่า“นี่คือ《ภาพวาดหญ้าภูเขา》ที่ คุณชายโม่ซวนวาดเพคะ เมิ่งหวันซื้อประมูลมาได้ เลยเอามาให้จิ่งอ๋องเตี้ยนเซี่ยโดยเฉพาะ”

นัยน์ตาฉู่โม่หยวนทอประกายความตะลึง เสวียนยียิ่งมีท่าทางเหวอ

ไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่หลินเมิ่งหวันไม่ชอบภาพเขียนและแบบหนังสือศิลปะการประพันธ์เลย อยู่ดีๆนางเอาภาพวาดมาให้ฉู่โม่หยวนมันเกิดความคาดหมายมาก

พูดแบบง่ายๆภาพวาดนี้ของ คุณชายโม่ซวนชิ้นนี้ จะต้องขายให้คนที่ดวงสมพงศ์กัน

คนซื่อบื้ออย่างหลินเมิ่งหวัน จะมองภาพของคุณชายโม่ซวนทะลุปรุโปร่งได้อย่างไร?

หรือว่ามีเงินตราก็สามารถทำทุกอย่างตามอำเภอใจได้แล้ว?

เสวียนยีมองหลินเมิ่งหวันด้วยความสงสัย ทว่าฉู่โม่หยวนกลับเก็บอาการความคิดไว้ มองหลินเมิ่งหวันอย่างจริงจัง กล่าวขึ้นว่า“พูดมา มีอะไรที่ต้องการให้ข้าช่วย?”

ไม่มีเรื่องอะไรก็ทุ่มเทขนาดนี้ แสดงว่าจะต้องมีอะไรอย่างแน่นอน

จู่ๆหลินเมิ่งหวันก็เอาของมาให้เขา ยังมาไกลขนาดนี้ โดยเฉพาะยิ้มอย่างประจบ แสดงว่าต้องสร้างหายนะมาแน่

หลินเมิ่งหวันหน้าร้อนผ่าว เหลือบมองฉู่โม่หยวนด้วยความไม่พอใจ

มือขาวนุ่มของนางจับบิดผ้าเช็ดหน้าตัวเอง หน้ามุ่ยกล่าวว่า“จิ่งอ๋องเตี้ยนเซี่ยพูดอะไรกันเพคะ?เมิ่งหวันตั้งใจมาส่งภาพวาดให้ท่านโดยเฉพาะเลย”

“ใช่หรือ?”ฉู่โม่หยวนกล่าวเสียงลากยาว มองหลินเมิ่งหวันด้วยความตลกขบขัน กล่าวว่า“ไม่ใช่ครั้งแรกที่เจ้ามาให้ข้าเป็นแพะรับบาป”

“พูดมาเถอะ เกิดอะไรขึ้น?หากแค่อยากจะมาส่งภาพวาด เจ้าไม่จำเป็นต้องวิ่งมา ชานเมืองหรอก”

ค่ายทหารไม่อนุญาตให้ผู้หญิงเข้าไป อีกทั้งมาจากเมืองหลวง ก็ต้องใช้เวลามากกว่าหนึ่งชั่วยาม หลินเมิ่งหวันไม่จำเป็นต้องดิ้นรนขนาดนี้

นางรีบร้อนอย่างนี้ แน่นอนว่าจะต้องมีเรื่องร้อนใจ

หลินเมิ่งหวันสะอึกเสียใจ กล่าวว่า“จิ่งอ๋องเตี้ยนเซี่ย ท่านถึงกับไม่ไว้หน้าเมิ่งหวันขนาดนี้เชียวหรือ?”

ฉู่โม่หยวนอดยกริมฝีปากขึ้นไม่ได้ กอบกุมมือของหลินเมิ่งหวัน แล้วมองนางด้วยความอ่อนโยน

หลินเมิ่งหวันสูดหายใจเข้าลึกๆ รีบยกมือข้างหนึ่งขึ้น มองฉู่โม่หยวนด้วยสีหน้าจริงจัง กล่าวว่า“จิ่งอ๋องเตี้ยนเซี่ย เมิ่งหวันสาบาน เมิ่งหวันเป็นคนที่เชื่อฟัง ปฏิบัติตามสิ่งที่จิ่งอ๋องเตี้ยนเซี่ยร้องขออย่างเคร่งครัด”  

หลินเมิ่งหวันจินตนาการได้ วันพรุ่งนี้ งานเลี้ยงชมดอกไม้ จะต้องมีคนว่านาง“วีรกรรมใหญ่หลวง”

จนกระทั่งความสนใจของทุกคนที่มีต่อนางเรื่องเฆี่ยนตีหลี่จิ่นซู จะหนักหนาสาหัสกว่าเรื่องหลี่อี๋เหนียงวางยาพิษหลินฮูหยินใหญ่อีก

นึกได้ถึงตรงนี้ หลินเมิ่งหวันก็รู้สึกไม่สบอารมณ์ แต่นางไม่ได้เสียใจภายหลังที่เฆี่ยนนะ นางเพียงแค่เสียใจที่ตีเฆี่ยนเบาเกินไป

ฉู่โม่หยวนเห็นสายตาความไม่พอใจของหลินเมิ่งหวันยังอยู่ เขาเลยเอื้อมมือไปโอบหลินเมิ่งหวันเข้ามาในอ้อมกอด “เจ้าไม่ต้องเป็นกังวล ข้าจะจัดการเรื่องนี้ เจ้าเตรียมเรื่อง งานเลี้ยงชมดอกไม้วันพรุ่งนี้ก็พอ”

หลินเมิ่งหวันหลุบตาขึ้นมองด้วยความตะลึง“จิ่งอ๋องเตี้ยนเซี่ยพูดเช่นนี้ เมิ่งหวันวางใจอยู่แล้วเมิ่งหวันไม่รบกวนจิ่งอ๋องเตี้ยนเซี่ยแล้ว เมิ่งหวันทูลลาเพคะ!”

หลินเมิ่งหวันถอนสายบัว แล้วจะออกไป

ใครจะคาดคิด ฉู่โม่หยวนรีบคว้าข้อมือนางไว้ ขมวดคิ้วกล่าวว่า“ใช้ช้าเสร็จก็จะไปแล้วหรือ?”

“หืม?”หลินเมิ่งหวันกระพริบตาปริบๆมองด้วยความสงสัย

ฉู่โม่หยวนกล่าวว่า“เสวียนยี พาคุณหนูหลินไปพักที่สวน และให้นางได้ลิ้มลองอาหารป่าของชานเมืองด้วย

“พ่ะย่ะค่ะ”เสวียนยีตอบรับ ฉู่โม่หยวนมองไปทางเมิ่งหวัน“เจ้าพักผ่อนสักครู่หนึ่งก่อน อีกประมาณหนึ่งชั่วยามข้าจะจัดการภารกิจเสร็จสิ้น พอถึงเวลานั้นข้าจะส่งเจ้ากลับ”

“อืม เช่นนั้นขอบคุณจิ่งอ๋องเตี้ยนเซี่ยมากเพคะ”

หลินเมิ่งหวันยิ้มตาหยีตอบรับ นางหิวแล้วจริงๆ

ค่ายทหารไม่อนุญาตให้ผู้หญิงเข้า แต่ทว่าสวนด้านนอกค่ายทหารกลับไม่มีกฎเกณฑ์นี้

หลินเมิ่งหวันนั่งรถม้าไป เพิ่งจะจัดหาที่พักเรียบร้อย ห้องครัวก็ได้ยกอาหารที่กลิ่นหอมกรุ่นเข้ามา

หลินเมิ่งหวันกินอิ่มพุงกาง แรงกำลังฟื้นฟูได้มาก

แต่ทว่าในใจของหลินเมิ่งหวันกลับยังไม่วางใจ มือที่อยู่ในแขนเสื้อกำแน่นมากขึ้น

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ภพนี้ตราบภิรมย์รัก