เทพบุตรในคราบซาตาน นิยาย บท 10

หลังจากที่กวินรับประทานมื้อกลางวันเสร็จ เขาได้รับสายโทรเข้าจากตะวัน เรื่องที่เขากุเรื่องที่ท่านประธานเรียกให้ใบบุญไปพบที่ห้องทำงาน จนท่านประธานหนุ่มถึงกับทำตัวไม่ถูก เพราะเขายังไม่อยากเปิดเผยสถานะที่แท้จริงให้ใบบุญได้ทราบ เพราะเขาไม่อยากให้เธอไม่สบายใจ ถ้าหากหญิงสาวรู้ว่าเขาเป็นใครเธออาจจะลาออกไปทำงานที่อื่นก็ได้

แต่สิ่งสำคัญตะวันได้เล่าเรื่องที่หัวหน้างานอย่างเพชรภูมิเข้าไปพัวพัน เหมือนกำลังตามจีบใบบุญ และยังมีอีกเรื่องที่เขาสงสัยคืออันดา ซึ่งเป็นหัวหน้าที่เป็นเป็นกลางดูไม่ชอบหน้าใบบุญเลยสักนิด

“น่าแปลกนะครับที่ไอ้เพชรภูมิ แฟนหนุ่มคุณไพลิน ลงไปที่โรงอาหารชวนพนักงานออกไปทานมื้อเที่ยงข้างนอก”

“เรื่องนั้นเอาไว้ทีหลัง เดี๋ยวฉันสะสางเอง แต่เรื่องนี้ทำไมนายไม่ปรึกษาฉันก่อนละตะวัน ฉันจะทำยังไงดี ฉันยังไม่พร้อมจะเจอกับเธอในตอนนี้ ในฐานะของท่านประธานบริษัท ฉันกลัวว่าเธอจะหนีไป ใบบุญคงโกรธมาก” คำพูดของกวินฟังดูเป็นกังวลอย่างมาก ทำให้ตะวันถึงกับกลั้วหัวเราะออกมาอย่างไม่ตั้งใจ

“นายรองรู้ตัวรู้เปล่า ว่ากำลังทำเหมือนกับคนที่กำลังกลัวเมีย เธอเป็นแค่พนักงานนะครับ ทำไมนายรองถึงต้องซีเรียสขนาดนั้นด้วย” คำพูดของตะวันกำลังทำให้กวิน นึกทบทวยถ้อยคำที่เขาเคยสนทนากับเอเดน ที่เคยบอกว่า

‘เออ! นายไม่กลัวเมียบ้างให้มันรู้ไป’ สรุปว่าเขากลัวใบบุญทำไม ในเมื่อสถานะของเธอกับเขานั้น ยังไม่มีวี่แววว่าจะสามารถสานสัมพันธ์ไปในทิศทางใดได้เลย บางทีเธออาจจะมีใครที่เป็นเจ้าของหัวใจแล้วก็ได้

“ใบบุญเธอคือผู้หญิงของฉัน นายต้องระวังตัวให้ดี การสะกดรอยตามครั้งนี้ห้ามให้เธอจับได้เด็ดขาด” กวินพูออกมาด้วยน้ำเสียงเข้ม จนตะวันเริ่มแน่ใจ เจ้านายของเขาคงตกหลุมรักพนักงานสาวอย่างจังเข้าให้แล้ว

“ตกลงครับ นี่ก็ใกล้เวลางานแล้ว นายรองเตรียมตัวพบกับเธอได้เลยครับ” พูดจบตะวันก็รีบตัดสายก่อนที่เขาจะถูกเจ้านายหนุ่มด่าเข้าให้ แต่สิ่งที่เขาทำในวันนี้ ก็ได้ข้อมูลเพิ่มเติม นั่นคือผู้หญิงของเจ้านาย ที่ดูเหมือนจะมีอิทธิพลของกวินกลับเป็นใบบุญไม่ใช่ริสา

ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก! เสียงคนเคาะประตูดังขึ้น ทำให้ท่านประธานหนุ่มรีบถอดสูทออกมาพาดไว้กับพนักเก้าอี้ พร้อมกับรีบเดินไปที่กระจกใสริมห้อง ยืนชมวิวกอดอกด้วยมาดเข้ม ขณะที่หัวใจเจ้ากรรมของเขามันกำลังเต้นไม่เป็นจังหวะ เมื่อกำลังจะได้เจอกับใบบัวอีกครั้ง ในรอบที่สองของวันนี้

“ท่านประธานค่ะ คิวซีที่นัดเอาไว้ มาขอพบค่ะ” เสียงหวานของเลขาดังขึ้น

“ให้เธอเข้ามาได้” กวินพูดออกไปด้วยเสียงเข้ม

“ค่ะ ท่านประธาน” หลังจากที่เลขาสาวเดินออกไป ใบบุญได้เดินเข้าก้มหน้าเข้ามาภายในห้องของท่าประธานด้วยอาการเกร็งๆ เพราะเธอไม่รู้ว่าจะได้รับโทษหนักแค่ไหน เขาจะไล่เธอออกหรือเปล่า นั่นคือคำถามที่เกิดขึ้นภายในใจของใบบุญ

“สวัสดีค่ะท่านประธาน” หญิงสาวยกมือขึ้นไหว้ พร้อมกับกล่าวทักทาย บุคคลที่เธอเรียกเขาว่าท่านประธานไปตามมารยาท

“นั่งลงสิ” เสียงทุ้มที่ฟังดูคุ้นหู แต่บุญบุญก็ไม่กล้าเงยหน้าขึ้นไปสบตาเขา ตอนนี้หัวใจของเธอมันเต้นแรง จนแทบกระเด็นออกมาจากอกข้างซ้าย เพราะหญิงสาวรู้สึกตื่นเต้น เมื่อเธอนั้นได้มาพบกับท่านประธานครั้งแรก

“ขอบคุณมากค่ะ” เสียงหวานที่หญิงสาวกำลังใช้ความพยายามอย่างหนัก เพื่อให้น้ำเสียงฟังดูเป็นปกติที่สุด ทั้งที่เธอนั้นตื่นเต้นจนแทบก้าวขาไม่ออก ตั้งแต่ตอนที่เดินเข้ามาภายในห้องของท่านประธานแล้ว

“คุณรู้ตัวหรือเปล่า งานที่คุณตรวจสอบคุณภาพของสินค้านั้น ถูกตีกลับทั้งหมด ซึ่งข้างกล่องได้ระบุชื่อของผู้ตรวจสอบเอาไว้ด้วย นางสาวใบบุญ ธรรมกิตติรักษา” กวินพูดออกมาด้วยเสียงเข้ม ซึ่งเขาอยากรู้ว่าใบบุญจะแก้ตัวยังไง ในสิ่งที่เธอทำผิดพราดมากกว่าที่พนักงานคนอื่นเคยทำ เพราะนี่เล่นถูกตีกลับทั้งหมดเลย

“ฉันยินดีที่จะทำตามกฎของที่นี่ ตามที่ท่านประธานจะเห็นสมควร เพราะฉันได้ทำหน้าที่ดีที่สุดแล้ว” ใบบุญพยายามข่มความรู้สึกขุ่นมัวเอาไว้ภายในใจ เมื่อเธอคิดว่าคนที่อยู่ที่อยู่เบื้องหลังคืออันดา รีดเดอร์ที่จ้องแต่จะหาโอกาสทำให้เธอเดือดร้อน

“ผมว่าคุณคงทำงานในตำแหน่งคิวซีได้ไม่ดีพอ ดูจากสินค้าที่ถูกตีกลับคุณคงต้องลาออกจากคิวซี” กวินพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมน่าเกรงขาม แต่ทว่าแววตาที่เขาแอบมองไปที่บุญบุญเป็นระยะนั้น กลับแฝงไปด้วยความเจ้าเล่ห์เมื่อเขาคิดแผนการอะไรบางอย่างขึ้นมาได้

“ท่านประธานจะไล่ฉันออกเหรอคะ” หญิงสาวยังคมก้มหน้าก้มตาถามเขาออกไป ด้วยท่าทีที่เก็บความเจ็บปวดเอาไว้ลึกสุดใจ เมื่อเธอคิดว่าต้องตกงานอีกแล้ว

“ผมคิดว่าคุณไม่เหมาะกับงานคิวซี”

“ฉันไม่รู้ว่าตัวเองทำอะไรผิด สวรรค์ถึงได้กลั่นแกล้งให้ต้องตกงานอยู่ร่ำไป ขอบคุณนะคะท่านประธาน ถ้าอย่างนั้นฉันขอตัวไปเขียนใบลาออกนะคะ” ใบบุญรีบพูดขึ้น เพราะเธอกลัวจะมีประวัติไม่ดีถ้าหากถูกไล่ออก

“เดี๋ยว! จะรีบไปไหน ผมยังไม่ได้อนุญาต” กวินพูดออกมาด้วยน้ำเสียงห้วน เฉกเช่นผู้มีอำนาจเหนือกว่า จนใบบุญรู้สึกกลัว เมื่อเขากำลังใช้พลังเสียงพูดข่มเธอ

“เชิญท่านประธานว่ามาเลยค่ะ ฉันฟังอยู่” คราวนี้ใบบุญเริ่มพูดจาด้วยน้ำเสียงตัดพ้อออกมาอย่างลืมตัว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เทพบุตรในคราบซาตาน