ทางด้านใบบุญหญิงสาวเดินไปนั่งรอใบโพธิ์อยู่ที่มุมของบ้าน ซึ่งเป็นที่สำหรับให้ใบบัวกับใบพลูนั่งทำการบ้าน และมันก็กลายเป็นเฟอร์นิเจอร์ชุดเดียวในบ้าน ที่มีไว้รับแขกด้วยแต่ก็ไม่เคยมีใครแวะมานอกจากชมพู่
“พี่สาวมึงสวยจัง มีแฟนยัง กูจีบได้ป่าว” เมื่อใบบุญเดินเข้าไปในบ้าน เพื่อนคนหนึ่งที่กำลังนั่งดื่มได้พูดขึ้น
“มึงเอาตัวให้รอดก่อนเถอะ อย่าคิดมาจีบพี่กูให้ยาก” ใบโพธิ์รีบปรามเพื่อน เพราะเขารู้ดีว่าทุกคนแค่รักสนุกไม่เคยจริงจังกับใคร แม้ว่าเขตแดนจะมีฐานะที่ร่ำรวย เพราะเขาเป็นลูกชายเจ้าของอู่ซ่อมรถ ที่ใบโพธิ์ทำงานด้วย แต่นั่นมันก็คือสมบัติของบิดามารดา เขาไม่ได้เป็นคนหามันขึ้นมาเอง
“หวงพี่นะมึงเนี่ย แล้วกูจีบน้องใบบัวได้หรือเปล่า” เขตแดนยังคงพูดจาต่อรองกับใบโพธิ์ด้วยท่าทางทีเล่นทีจริง
“กูว่ามึงไปจีบสาวอื่นเถอะ กูยังไม่อยากเสียเพื่อน” พูดจบใบโพธิ์ได้ลุกเดินเข้าไปในบ้าน ชายหนุ่มแอบมองไปที่พี่สาวและน้องของเขา ในวันที่ลำบากใบบุญไม่เคยปริปากพูด แม้กระทั่งในเวลานี้ พี่สาวของเขาก็ยังอึดยังทน แม้ภาระที่มีจะเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิม
“อย่ากวนสิ ฉันจะอ่านหนังสือ” เสียงของใบบัวดังขึ้นเมื่อใบพลูเริ่มกวนสมาธิในการอ่านของเธอ เพราะแค่เสียงของหนุ่มๆ ข้างนอก ก็ทำให้ใบบัวรำคาญมากพออยู่แล้ว
“ใบบัวเข้าไปอ่านในห้อง ส่วนใบพลูไปอาบน้ำนอนได้แล้ว เดี๋ยวพี่จะตามเข้าไปเล่านิทานให้ฟังนะ” หญิงสาวหันไปพูดกับใบบัว ก่อนจะก้มหน้าลงไปพูดกับใบพลูด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล ถ้าวันไหนเธอทำงานกลางวันใบพลูก็จะได้ฟังนิทานก่อนนอนจากใบบุญ จึงทำให้หนูน้อยยิ้มแฉ่ง แล้วรีบเดินเข้าไปในห้องเตรียมตัวอาบน้ำก่อนนอน
“ทำไมพี่ทำหน้าซีเรียสจัง เพิ่งอายุยี่สิบสี่ถ้าไม่บอกผมคิดว่าพี่ปาเข้าไปสี่สิบแล้วนะเนี่ย” ใบโพธิ์พูดแหย่พี่สาวของเขาพร้อมทั้งพ่นความบุหรี่ออกมา
“แกก็รู้ว่าพี่แพ้ควันบุหรี่” ใบบุญพูดออกไปด้วยน้ำเสียงไม่ชอบใจ จึงทำให้ใบโพธิ์ขยี้มวนบุหรี่ลงไปกับกระถางไม้ประดับเล็กๆ ที่ตั้งอยู่บนโต๊ะ เพื่อทำให้ไฟดับลง ก่อนจะทำหน้ากวนออกมาอย่างน่าหมั่นไส้
“ผมพาเพื่อนมาเดี๋ยวเดียวก็กลับแล้ว ไม่ค้างที่นี่หรอกน่า... ดูทำหน้าสิ หัดหาความสุขให้ตัวเองบ้าง” แม้ใบโพธิ์จะไม่ค่อยสนิทกับพี่สาวเหมือนใบบัว แต่เขาก็พยายามหาเลี้ยงตัวเอง เพื่อไม่ให้เป็นภาระของพี่สาวอีกคน
“หัดเกรงใจบ้านข้างๆ เขาบ้าง ดูหน้าเพื่อนแกแต่ละคนสิ นึกว่าเพิ่งแหกคุกมา ฉันไม่ได้บูลลี่หน้าตาเพื่อนแกหรอกนะ ถ้าฉันเจอในที่เปลี่ยวๆ คงวิ่งป่าราบ” ใบบุญเปลี่ยนประเด็น หันไปเล่นงานใบโพธิ์เรื่องเพื่อนของเขา เพราะความสุขของเธอคือน้องๆ ได้กินอิ่มนอนหลับสบาย
“รอแป๊บนะ” พูดจบจบใบโพธิ์ได้เดดินเข้าไปในครัว ทำให้ใบบุญมองตามแผ่นหลังน้องชายด้วยความห่วงใย เขาอยากให้น้องชายมาบ้านหลายๆ วัน จะได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากัน แต่ทว่าคงเป็นไปไม่ได้เมื่อเพื่อนของเขาแห่กันมาเป็นโขยงแบบนี้
“ทำงานมาเหนื่อยๆ ก็รู้จักกินอะไรที่มันมีประโยชน์บ้าง แกงส้มชะอมไข่กุ้งสด ผมสั่งพิเศษใส่กุ้งเยอะๆ ให้พี่ด้วยนะ อ่ะ... ซึ้งอะดิ!” ใบโพธิ์เห็นท่าทีของพี่สาว เขาจึงรีบแซวขึ้น เพราะไม่อยากเห็นใบบุญน้ำตาซึมตอนกินข้าว
“ไอ้น้องบ้า ฉันตั้งใจเรียกแกมาด่า ทำให้ขนาดนี้ใครจะด่าลง กินด้วยกันสิ” พูดจบใบบุญก็ลงมือรับประทาน พร้อมกับชวนให้น้องชายรับประทานเป็นเพื่อนเธอ
“กินเถอะ ผมดื่มไม่เยอะจะกลับแล้ว”
“อดีตเราไม่สามารถแก้ไขอะไรได้ พี่เองก็ผิดที่ไม่คิดป้องกัน จำไว้นะใบบัวอย่าไว้ใจผู้ชาย จนกว่าเราจะแน่ใจ ว่าเขาจะรักและซื่อสัตย์กับเราไปจนวันตาย”
ใบบุญไม่รู้ว่าเรื่องราวในคืนนั้น เธอเห็นเงินสำคัญหรือเป็นเพราะว่าแอบปลื้มกวินกันแน่ เธอมักจะแอบมองเวลาที่ชายหนุ่มเดินเข้ามาในบ่อน จนได้มีโอกาสใกล้ชิดกับเขา หญิงสาวจึงยอมปล่อยเนื้อปล่อยตัวให้ชายหนุ่มเชยชมจนสมใจ เพื่อแลกมากับเงินตราหรือว่าแท้ที่จริงแล้วเธอก็เต็มใจที่จะไม่ป้องกัน
เมื่อความรู้สึกลึกๆ ภายในใจที่แอบมีให้กับกวินตั้งแต่แรกเจอนั้น มันยังคงตราตรึงไม่ลืมเลือน แม้แต่ในเวลานี้พอได้เจอกับเขาอีกครั้ง หัวใจเจ้ากรรมก็ยังคงเต้นแรง แต่มันคงเป็นไปไม่ได้ เพราะสถานะของเธอกับเขาแตกต่างกันเกินไป
“จุดมุ่งหมายของฉันคือ ทำให้พี่ภูมิใจ ทำให้ใบพลูได้เรียนสูงๆ เหมือนกับที่พี่กำลังพยายามทุกอย่าง เพื่อให้ฉันได้เดินทางไปสู่ดวงดาว” คำพูดที่ซึ้งใจ ทำให้สองพี่น้องส่งยิ้มให้กันอย่างมีความสุข
“พี่ใบบุญ ใบพลูรอฟังนิทานอยู่นะ” เสียงใสของเด็กหญิงดังออกมาจากในห้องนอนของใบบุญ
“พี่กินต่อเถอะ เดี๋ยวฉันจัดการยัยใบพลูเอง” พูดจบใบบัวก็เดินเข้าไปในห้องของพี่สาว ทำให้ใบบุญแอบยิ้ม ให้กับความน่ารักของคนทั้งสอง แม้ว่าจะทำงานเหนื่อยเมื่อเห็นน้องสาวตั้งใจเรียน ก็ทำให้ใบบุญยิ้มได้
เมื่อเธอกำลังนึกถึงวันที่ใบบัวจะได้เข้าเรียน ในคณะที่เธอนั้นแอบฝันเอาไว้ แม้ว่ามันจะไกลตัว แต่ถ้ามีความพยายามก็คงแค่เอื้อม เนื่องจากใบบัวนั้นเรียนได้เกรดสี่ทุกวิชา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เทพบุตรในคราบซาตาน