หลายสัปดาห์ผ่านไป วันเวลาเวียนมาถึงเช้าของวันใหม่ หลังจากบิดาของริสาเรียกกวินไปพบ ซึ่งเขาถือหุ้นอันดับสองรองจากกวิน ส่วนอีกคนคือเอเดน แต่ทว่าในเวลานี้ชายสูงวันอย่างนายคชาพยายามที่จะรวมกวินชูให้กลายเป็นหนึ่งเดียว เขาเคยเอ่ยปากขอซื้อหุ้นต่อจากเอเดนหลายครั้ง แต่ก็ถูกชายหนุ่มปฏิเสธกลับมา เขาจึงมุ่งเป้าหมายมาที่กวิน เขาคงอยากได้ท่านประธานหนุ่มมาเป็นลูกเขย จึงทำให้ชายหนุ่มวัยสี่สิบกว่ารู้สึกเบื่อหน่าย ซึ่งเขาเองก็ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงไม่รู้สึกพิเศษใดๆ กับริสาเลย ทั้งที่หล่อนสวยและเซ็กซี่ แลดูมีเสน่ห์ทุกมุมมอง
“เดี๋ยวทำงานกลางวัน เดี๋ยวกลางคืน อะไรกันเนี่ยง่วงชะมัดเลย” ใบบุญเดินถือแฟ้มเอกสารมาที่ตึกของผู้บริหาร ที่มีแต่หนุ่มสาวแต่งตัวภูมิฐาน ยิ่งสาวออฟฟิศด้วยแล้วมีแต่คนสวยๆ
เธอบ่นพึมพำเบาๆ พร้อมกับหาวออกมา เพราะใบบุญนอนไม่หลับเล่นเอาเอาสว่าง คงเครียดจากการที่ต้องบริหารเงินที่เหลือให้ชนเดือน หญิงสาวทำหน้าเอือมเล็กน้อย เมื่ออันดาสั่งให้เธอเอาเอกสารมาให้คุณเลขา เพราะท่านประธานอยากได้ข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับงานที่ถูกตีกลับ ทั้งที่ผ่านคิวซีคัดสรรค์อย่างพิถีพิถันทุกขั้นตอน ซึ่งก่อนหน้านั้นไม่เคยมีปัญหา เขาเองก็ไม่แน่ใจว่าลูกค้ารายนี้จะตำหนิสินค้าในจุดใดบ้าง
ตุ๊บ!!! หญิงสาวเดินชนเข้ากับอกแกร่งของชายร่างสูงใหญ่อย่างจัง จนเอกสารในมือของเธอหล่นลงไปกระจัดกระจายเกลื่อนพื้น เนื่องอันดาต้องการแกล้งเธอ จึงเอาแอกสารออกจากลิ้นแฟ้ม ซึ่งใบบุญคงต้องเรียงใหม่หมด
“โอ๊ย! นี่มันวันอะไรของฉันเนี่ย... ขอโทษนะคะ” หญิงสาวรีบกล่าวขอโทษเขาออกไป ขณะที่ดวงตาของเธอโฟกัสไปยังเอกสารที่พื้น ก่อนจะรีบกุลีกุจอก้มลงไปเก็บขึ้นมาทีละแผ่น เพื่อเรียงให้เรียบร้อย โดยไม่ได้สนใจว่าตัวเองชนเข้ากับใคร แล้วจัดการใส่เข้าไปในแฟ้มให้เป็นระเบียบกว่าเดิม
“เดี๋ยวผมช่วยเก็บ” เสียงทุ้มดังขึ้น จึงทำให้หญิงสาวเงยหน้าไปมอง ซึ่งทำให้คนทั้งคู่ได้สบตากันราวกับกำลังตกอยู่ในภวังค์ แม้แต่กวินเอง ในเวลานี้หัวใจของเขาเริ่มเต้นไม่เป็นจังหวะ ที่ได้เห็นใบหน้าของหญิงสาวชัดเจน ซึ่งชายหนุ่มจดจำเธอได้เป็นอย่างดี
ใบบุญยอมรับว่าชายตรงหน้าดูหล่อเท่สมาร์ตยังกับโอปา เมื่อเขาอยู่ในชุดสูทผูกเนกไทแบบนี้ เธอเองก็รู้สึกหวั่นไหวไม่น้อย แต่นั่นมันไม่ใช่สิ่งสำคัญ เธอจะไม่มีวันเอาชีวิตเข้าไปเกี่ยวข้องกับผู้ชายคนไหน เพราะประสบการณ์ที่ผ่านมาสอนให้รู้ว่า ชีวิตของเธอเป็นดังเรือลำน้อย ที่ลอยอยู่กลางแม่น้ำ ซึ่งต้องใช้ความพยายามอย่างหนัก ในการแจวเข้าฝั่งด้วยตัวเองเพียงลำพัง เธอจะไม่มีวันแจวเรือลำนั้นกลับลงไปในแม่น้ำอีกครั้งหลังจากที่ขึ้นมาบนฝั่งได้แล้ว
“ขอโทษนะคะฉันไม่ได้ตั้งใจ” เมื่อได้สติใบบุญรีบกล่าวขอโทษเขา ก่อนที่เธอจะก้มลงไปเก็บกระดาษแผ่นสุดท้าย แต่ทว่าก็ช้ากว่าชายตัวโต
“รับไปสิ” กวินพูดพร้อมกับจ้องไปที่ดวงตากลมโต แต่เขากลับได้รับความเฉยเมยอย่างไม่ไยดี เหมือนกับเธอไม่เคยรู้จักกับเขามาก่อน
“ขอบคุณค่ะ” หญิงสาวเอื้อมมือไปหยิบกระดาษ พร้อมกับการกล่าวขอบคุณเขาที่อุตส่าห์มีน้ำใจ เธอพยายามเก็บอาการตื่นเต้นที่มีเอาไว้ เพื่อไม่ให้ชายตรงหน้าเดาความรู้สึกของเธอได้
“ผมคุ้นหน้าคุณจัง” ขณะที่กวินถามออกไป มีพนักงานหลายคนเดินผ่านมา ต่างคนต่างก็มองแล้วซุบซิบกัน ทั้งที่ยังไม่รู้ว่าใบบุญคุยอะไรกับท่านประธานหนุ่ม
“ฉันทำงานอยู่ที่นี่ ถ้าไม่คุ้นหน้าสิเรื่องแปลก ขอตัวนะคะ” พูดจบประโยคใบบุญรีบเดินเข้าไปในลิฟต์ พร้อมกับสายตาของพนักงานออฟฟิศนับสิบคู่ ที่จับจ้องมองมายังเธอ เมื่อกวินเดินตามหญิงสาวเข้ามาในลิฟต์
“อย่าเพิ่งปิดค่ะ ฉันเข้าลิฟต์ผิด” ดูเหมือนว่าประโยคบอกเล่าของใบบุญจะไม่ได้ผล เมื่อกวินรีบเอาตัวเข้ามายืนขวางทางเธอเอาไว้ แล้วเอื้อมมือไปกดปิดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“คุณจะแวะชั้นไหน ไปกับผมก็ได้ จะได้ช่วยกันประหยัดไฟให้กับบริษัทด้วยยังไงล่ะ” เหตุผลของเขาอาจจะฟังดูดี แต่แท้ที่จริงแล้วกวินอยากใกล้ชิดใบบุญมากกว่า
เขาไม่คิดมาก่อนเลยว่าเธอจะอยู่แค่ปลายจมูก ซึ่งใบบุญไม่รู้ว่าชายหนุ่มทำงานที่นี่ในตำแหน่งอะไร แต่เธอก็ไม่ได้ใส่ เพราะถึงยังไงเขาเองก็คงไม่สนใจพนักงานต๊อกต๋อยอย่างเธอ
“ชั้นเก้าค่ะ” หญิงสาวตัดสินใจพูดออกไปหลังจากที่กวินแตะนิ้วลงไปที่หมายเลขเก้าเรียบร้อยแล้ว
“เราใจตรงกันจังเลยนะ” คำพูดที่ฟังดูมีนัย พร้อมกับแววตาหวานซึ้ง ที่เขากำลังทอดสะพานมองมาที่เธอนั้น กำลังจะทำให้ใบบุญหัวใจละลาย แต่เธอก็พยามสลัดมันทิ้งไป ใบบุญได้แต่บอกตัวเอง เธอจะไม่มีวันหลงกลผู้ชายอย่างเขาเด็ดขาด
“ผิดแล้วละค่ะ เราจะใจตรงกันได้ยังไง ในเมื่อฉันเป็นผู้หญิงที่ไม่มีหัวใจ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เทพบุตรในคราบซาตาน