“พี่เขย ฉันคิดว่า เขามีกองกำลังทหารที่ดักซุ่ม”
อิ่นหนิงหยู่หลบอยู่ด้านหลังของฉินเฟิงแล้ว แต่ว่าผ่านประสบการณ์ในเมื่อก่อนมากว่าหลายครั้ง แต่เธอรู้ว่าพี่เขยราคาถูกของตัวเองคนนี้ อย่างอื่นไม่โอเค แต่ว่าเก่งเรื่องชกต่อยอย่างมากจริงๆ
ไม่งั้น วันนี้เธอไม่มีทางเรียกฉินเฟิงมาแน่นอน
ไม่เพียงแค่เป็นโล่กำบังเท่านั้น ยังปกป้องด้วย
“วางใจได้”
ฉินเฟิงยิ้มอย่างราบเรียบ หลังจากนั้นเอามือไพล่หลังมองไปยังเฉินเจียงแล้ว : “ฉันกลับว่าอยากรู้มาก คุณจะทำไม่ให้ฉันออกไปได้ยังไงกันแน่?ลองดูได้ ”
คนที่ทำให้เทพสงครามอันดับหนึ่งแห่งประเทศต้าหัวออกไปไม่ได้ ยังไม่เกิดเลยนะ
“จองหองเลยทีเดียวนะ กูเคยสอบถามเรื่องมึงมาบ้างแล้ว เคยเป็นทหารมาก่อน เก่งเรื่องต่อสู้ แต่ว่าต่อให้เก่งเรื่องการต่อสู้มากแค่ไหน ก็ไม่มีทางต้านทานคนกว่าหลายร้อยคนได้ มึงต้องรู้ไว้นะ อ่าวย่าหลงเป็นเขตอิทธิพลของพี่ชายลูกพี่ลูกน้องของกู”
เฉินเจียงยิ้มอย่างโหดร้ายและน่ากลัว
เขาต้องการจีบอิ่นหนิงหยู่ แน่นอนว่าต้องไปสืบเรื่องของฉินเฟิงแล้ว แต่ว่าหลังจากสืบแล้ว ก็พบว่าเป็นแค่ลูกเขยจนๆที่แต่งงานเข้ามาอยู่บ้านฝ่ายหญิง ตอนนี้เป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย นอกจากชกต่อยเป็นนิดหน่อยแล้ว ก็ไม่มีจุดเด่นอะไรเลย
คนแบบนี้ หากเขาจัดการ ก็สามารถทำทุกอย่างได้อย่างราบรื่น
“ใครก็ได้มานี่หน่อย!”
ในเวลานี้ เฉินเจียงตะโกนออกมาคำหนึ่ง เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยกว่าหลายร้อยคนก็เดินออกมาจากรอบข้างแล้ว แต่งตัวชุดเครื่องแบบ ในมือถือกระบอกไฟฟ้า แข็งแกร่งและห้าวหาญปรากฏอยู่ตรงหน้า
“คุณชายเฉิน ผมรับคำสั่งของคุณชายหวางของเราให้มาที่นี่”
ผู้ชายผอมๆที่เป็นผู้นำคนหนึ่ง กำลังเดินเข้ามาทางผู้จัดการตรงนี้แล้ว
“ผู้จัดการหยาง ขอบคุณมาก”
เฉินเจียงเห็นแล้ว หัวเราะเหอๆ ดึงซองบุหรี่จงฮั๋วออกมาแล้ว ยื่นส่งไปให้ หลังจากนั้นถึงมองไปยังฉินเฟิง พูดอย่างภาคภูมิใจว่า : “ไอ้เด็กเปรต แกคงรู้จักคุณชายตระกูลหวางของหนึ่งในห้าวงศ์ตระกูลใหญ่แห่งเมืองเจียงเฉิง?นั่นเป็นพี่ชายที่เป็นลูกพี่ลูกน้องของฉัน อ่าวย่าหลงนี้เป็นบ้านของพี่ชายที่เป็นลูกพี่ลูกน้องของฉัน”
“ห้าวงศ์ตระกูลใหญ่?สี่วงศ์ตระกูลใหญ่มั้ง” ฉินเฟิงพูดกล่าว
ตระกูลเห้อที่เป็นหนึ่งในห้าวงศ์ตระกูลใหญ่ ถูกฉินเฟิงทำลายเรียบร้อยแล้ว ทรัพย์สินทั้งหมด ถูกนำไปบริจาคให้แก่โครงการสงเคราะห์เด็กแล้ว ก็ถือว่าพวกเขาได้ชดใช้ให้กับทุกเรื่องที่พวกเขาได้ทำมาทั้งหมด
เจียงเฉินตกตะลึง : “แกรู้ว่าน้อยไปหนึ่ง?ฉันประเมินค่าแกต่ำไปแล้วจริงๆ แต่ว่าที่แกเรียกว่าแหล่งข้อมูล คาดว่าก็คงเป็นตอนที่ทำงานเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ได้ยินตามข้างทางสินะ ”
หลังจากที่คิดเข้าใจได้แล้ว เฉินเจียงมองไปยังฉินเฟิงแล้ว เพิ่มความดูถูกเหยียดหยามขึ้นมาแล้ว
เมื่อกี้เขายังคิดว่า ตัวตนของฉินเฟิงสูงส่งกว่าที่เขาจินตนาการไว้หรือเปล่า ข้อมูลนี้มีเพียงคนระดับสูงในเมืองเจียงเฉิงถึงเข้าใจได้ แต่วินาทีต่อมา ก็คิดว่าไม่มีทางเป็นไปได้อีก ตัวเองคิดเพ้อเจ้อแล้ว
นี่เป็นแค่เพียงผู้ชายต่ำต้อยที่เป็นกบอยู่ในกะลาก็เท่านั้นเอง ไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าห้าวงศ์ตระกูลใหญ่แห่งเมืองเจียงเฉิงมันแสดงถึงอะไร
“ผู้จัดการหยาง ตอนนี้ขึ้นอยู่กับคุณแล้วนะ”
เฉินเจียงมอบสนามสู้รบให้ผู้จัดการหยางที่สวมชุดสูท ค่อนข้างผอม แต่ว่าใบหน้าเจ้าเล่ห์
เมื่อผู้จัดการหยางได้ยิน ยิ้มทันที โบกไม้โบกมือ : “คุณชายเฉิน วางใจได้ วันนี้ เราจะต้องให้ไอ้หมอนี่แบกรับผลที่ตามมาจากสิ่งที่ก่อไว้ให้ได้แน่นอน”
พูดจบ นัยน์ตาก็ปลดปล่อยแสงแห่งความโหดเหี้ยมออกมา มองไปที่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเหล่านั้นพร้อมพูดว่า : “บุกเข้าไป”
เพียงคำเดียว
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเหล่านั้นบิดๆคอ ทยอยกันโบกสะบัดแท่งเหล็กที่อยู่ในมือแล้ว คำรามเสียงดัง เดินเข้าไปยังฉินเฟิงอย่างดุเดือดกันทีละคน ทำให้คนตกใจอย่างมาก
เพียงแต่ว่า ฉินเฟิงมองไปยังพวกเขาแวบหนึ่ง หรี่ตามองพร้อมพูดว่า : “แค่คนอย่างพวกแก?ก็มีสิทธิ์มาต่อสู้กับฉัน?”
“ไสหัวไป!”
ตะโกนเสียงดังคำราม
ทันใดนั้นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่เดิมทีมีใบหน้าที่ดุร้าย ทันใดนั้นก็ตัวสั่นไปทั้งตัว ราวกับว่าถูกทำให้ตกใจอย่างมากยังไงอย่างนั้น กระทั่งมีเสียงคนตุบๆ นั่งลงบนพื้นแล้ว
ทั้งใบหน้าเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
“ช่วยด้วย ฆ่าคนแล้ว!”
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคนหนึ่งจู่ๆก็ส่ายหัว วิ่งหนีไปอย่างบ้าคลั่งยังไงอย่างนั้น หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคนอื่นๆก็หนีไปด้วย ใบหน้าเต็มไปด้วยความหวาดกลัว ราวกับว่าเจอสิ่งที่น่ากลัวอะไรอย่างนั้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เทพศึกมังกรหวนคืน