ฉินเฟิงยื่นมือออกไปข้างหนึ่งแล้ว ทำให้อิ่นหนิงหยู่ค่อนข้างตื่นตระหนก มือที่ถือมีด สั่นขึ้นมาอย่างบ้าคลั่งแล้ว เสียงค่อนข้างแหลมคม : “คุณอย่า……คุณอย่าเข้ามา……คุณอย่า……”
ท้ายที่สุด อิ่นหนิงหยู่ก็ไม่กล้าที่จะทิ่มแทงออกไป
แต่ในวินาทีต่อมา เธอพบว่าฉินเฟิงกลับว่าไม่ได้ทำอะไรเธอ เพียงแค่ลูกผมของเธอเท่านั้น
“ยัยเด็กบื้อ ฉันไม่ใช่คนเลว”
น้ำเสียงของฉินเฟิงดึงดูดอย่างมาก แถมยังอ่อนโยนมากด้วย ทำให้อิ่นหนิงหยู่วางมีดที่อยู่ในมือโดยไม่รู้ตัวเลย พูดถามสีหน้าที่ค่อนข้างซับซ้อนว่า : “คุณเป็นใครกันแน่?ฆาตกร หรือว่าทหารรับจ้าง กลัวถูกเปิดเผยตัวตนขนาดนี้? ”
เธอเป็นเพียงแค่นักเรียนก็เท่านั้น ขอบเขตที่รู้และมีความเข้าใจไม่ได้กว้างขวาง
ในโลกของเธอ ก็มีเพียงแค่สถานะเหล่านี้เท่านั้น ที่จำเป็นต้องปิดบังตัวตนไว้
“ทหาร คุณไปสืบหาตำแหน่งทางทหารได้ ผมมีนะ จริงๆ”ฉินเฟิงพูด
“ทหาร”
ได้คำตอบนี้มา อิ่นหนิงหยู่โล่งอกแล้ว แม้ว่าเธอจะเชื่อฉินเฟิงแค่ชั่วคราว แต่ว่าถ้าหากพูดได้ว่าฉินเฟิงเป็นพวกคนเลวอะไรทำนองนี้จริงๆ งั้นเธอก็ไม่มีทางที่จะให้บุคคลที่อันตรายเช่นนี้อยู่ข้างกายพี่สาวของตัวเองแน่นอน
ทหาร งั้นก็เป็นคนดี
นี่ถึงได้ทำให้เธอได้วางใจหน่อยแล้ว มีท่าทางที่ผ่อนคลายขึ้นมานิดหน่อยแล้ว
“แล้วรายละเอียดว่าเป็นใครกันแน่ล่ะ?”อิ่นหนิงหยู่พูดถามอีกครั้ง
“เรื่องนี้คงต้องเก็บเป็นความลับนะ”
เมื่อเห็นว่าฉินเฟิงไม่อยากพูด อิ่นหนิงหยู่ก็ไม่ได้เค้นถามแล้ว
แต่ว่าเธอก็ยังคงมีคำถามที่สำคัญ ที่ต้องถามให้ชัดเจน : “งั้นคุณแอบแฝงเข้ามาอยู่ในครอบครัวของเราทำไม?”
“ครอบครัวพวกคุณอะไรกัน นั่นคือภรรยาของผม ลูกของผม นั่นก็เป็นบ้านของผม”
ฉินเฟิงก็ตอบอย่างไม่สนใจใยดี
ที่ที่มีอิ่นซิน มีฉินกั่วกั่ว ถึงจะเป็นบ้านของเขา
แม่ของเขาเสียชีวิตไปตั้งนานแล้ว ส่วนพ่อ ฉินเฟิงก็ทำเหมือนว่าเขาตายแล้ว เพราะงั้นคนที่เขาเหลืออยู่ ก็มีเพียงแค่อิ่นซินและฉินกั่วกั่ว เป็นเหมือนต่อมโมโหของเขาจริงๆ แตะต้องนิดหน่อย งั้นก็เตรียมรับความโกรธราวกับฟ้าผ่าของเขาให้ดีๆ
“พี่เขยบ้า”
อิ่นหนิงหยู่มองบนให้ฉินเฟิงแวบหนึ่ง ตามมาด้วยพูดพึมพำว่า : “ในที่สุดฉันก็รู้แล้วว่าทำไมช่วงเวลานี้ครอบครัวของเรา ถึงได้มีบุญพาวาสนาส่ง”
ใช่
ในช่วงเวลานี้ เธอรู้สึกเหมือนกับฝันไปยังไงอย่างนั้น
เดิมทีตระกูลของพวกเธอถูกรังแกมาโดยตลอด อิ่นซินอยู่ในบริษัทก็มักจะถูกกดดันเสมอ พุ่งเป้าเข้ามาจัดการต่างๆนาๆ กดดันอย่างมาก ไม่มีโอกาสได้โผล่หัวขึ้นเลย แต่หลังจากที่ฉินเฟิงมาแล้ว ตระกูลอิ่นของพวกเธอก็ผงาดขึ้นมาหน้ามือเป็นหลังมือเลย
โดยเฉพาะพี่สาวของเธอ จากพนักงานต่ำต้อยคนหนึ่ง กลายมาเป็นประธานของบริษัทกึ่งซานหยวนกรุ๊ปที่มีชื่อเสียงโด่งดังในเจียงเฉิง
และตระกูลอิ่นที่ต่อต้านเธอ ก็ยิ่งแพ้ยับเยิน
เรื่องที่แพ้ยับเยินไม่พูดถึง ประเด็นคือ แพ้แบบประหลาดยากที่จะเข้าใจได้
ตระกูลอิ่นแพ้ได้อย่างไร พวกเขาล้วนแต่ไม่เข้าใจ
เหมือนกัน อิ่นซินชนะได้อย่างไร เธอก็ไม่เข้าใจเช่นกัน ชนะทุกสิ่งอย่างด้วยความสับสนแล้ว ครอบครัวของพวกเธอล้วนแต่คิดว่าเป็นเพราะโชคชะตา บุญพาวาสนาส่ง
แต่ว่า ตอนนี้เธอเข้าใจแล้ว ที่แท้เป็นเพราะพี่เขยบ้าคนนี้นี่เอง ที่ลงมือจัดการแล้ว
ที่ครอบครัวของพวกเธอมีทุกอย่างได้ในอตนนี้ ล้วนเป็นเพราะพี่เขยขี้ริ้วขี้เหร่คนนี้
“รอเดี๋ยว!”
ทันใดนั้น เหมือนว่าอิ่นหนิงหยู่จะคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ เบิกตามองกว้าง มองตรงไปยังฉินเฟิงแล้ว : “งั้น ตู้ต้วนเทียนก็มาเพราะคุณนะสิ?ของขวัญที่ส่งมา เดิมทีมันไม่ใช่สินสอดอะไรเลย แต่ให้กับคุณ!”
“ฉันก็ว่า ทำไมตู้ต้วนเทียนคนนั้นถึงส่งสินสอดมา แต่ไม่ได้ติดต่อฉันมาเลย ความรู้สึก เขาไม่ได้สนใจอะไรในตัวฉันเลย ”
“ตอนที่อยู่ที่สนามแข่งรถ เขาก็พุ่งมาที่ฉัน!”
ในเวลานี้ อิ่นหนิงหยู่ก็คิดทุกอย่างได้หมดแล้ว
ที่แท้ ตู้ต้วนเทียนไม่ได้พุ่งมาที่เธอ ไปพุ่งไปที่ฉินเฟิง มิน่าล่ะ มิน่าล่ะทำไมถึงไม่สนใจเธอ มิน่าล่ะทำไมถึงได้ช่วยเหลือตระกูลอิ่น แต่กลับว่าไม่พูดถึงเหตุผล
เธอยังคิดว่าเป็นเพราะเสน่ห์ของเธอ ชวนให้ตู้ต้วนเทียนหลงใหล
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เทพศึกมังกรหวนคืน