“ฟู่”
ในช่วงทุกวันนี้สทิคเป็นกังวลอย่างมาก หลังจากที่ยูอิลฮานได้เข้าเป็นพระเจ้าอย่างสมบูรณ์แล้ว เธอก็ไม่จำเป็นต้องปวดหัวจากการจัดการดูแลโลกอีกต่อไป ในตอนนี้งานของเธอได้ลดน้อยลงมามากจนทำให้เธอได้มีเวลาคิดสิ่งต่างๆมากมาย
ทำไมเธอถึงได้เกิดมา เป้าหมายชีวิตของเธอคืออะไร เธอเป็นเหมือนเด็กวัยรุ่นที่เต็มไปด้วยความคิดมากมากทำให้เธอไม่อาจจะไปใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างสงบสุข
[ท่านเอิร์ธ ฉันเกิดมาทำไมกัน?]นี่คือคำตอบของเอิร์ธ แม้ว่าเขาจะไม่ได้พูดกับคนอื่นมากนักนอกจากช่วยยูอิลฮานกับคิมเยซอล เขาก็รู้สึกสนิทกับมิสทิคเล็กๆน้อยๆ เพราะมิสทิคเดิมทีมาจากเขา และเมื่อเธอเป็นกังวลแบบนี้เขาก็ไม่อาจจะปล่อยเธอทิ้งไว้ได้
“ถ้าอย่างนั้นท่านก็สร้างฉันขึ้นมาโดยไม่คิดถึงอนาคตเลย”อย่างที่เอิร์ธได้ตอบกลับมา เธอเกิดขึ้นมาแค่เพื่อฆ่ายูอิลฮาน เธอได้ถูกยูอิลฮานฆ่าไปโดยที่ยังไม่ได้ทำอะไรเลย หลังจากนั้นเธอก็ถูกยูอิลฮานชุบชีวิตขึ้นมาใหม่ แต่ว่าเธอก็มีแต่ช่วยสนับสนุนให้กับชีวิตของยูอิลฮาน เธอไม่มีอะไรอย่างอื่นให้ทำอีกเลย เพราะงั้นบางทีแล้วในด้านการใช้ชีวิตเธอก็เหมือนกับเด็กทารก
[ไม่มีใครรู้หรอกว่าชีวิตเกี่ยวกับอะไร ต่อให้เธอจะไปถามนายท่านยูอิลฮาน เธอก็จะไม่ได้คำตอบที่มีประโยชน์กลับมาอยู่ดี]เมื่อเป็นเรื่องความรักได้มีคนๆหนึ่งเข้ามาในความคิดเธอ ในตอนแรกเธอก็แค่เพลิดเพลินไปกับการพูดคุยกับเขาเนื่องจากทั้งคู่มีสถานการณ์คล้ายๆกัน แต่เมื่อเวลาผ่านไปอารมณ์เธอก็เปลื่ยนไปเป็นบางสิ่งที่คล้ายเดิม แต่ก็ต่างจากเดิม
“มันเหมือนกับว่า… หัวใจฉันจะเต้นแรงในทุกๆทีที่เห็นเขาและฉันจะรู้สึกรำคาญเขาโดยไร้เหตุผล ฉันรู้ว่านี่มันไม่ปกติเลย ทำไมกันล่ะ? พวกเราไม่ได้มีความสัมพันธ์อะไรกัน นี่มันกระทันหันเกินไป”เอิร์ธได้เยาะเย้ยเธอออกมา
[ในโลกใบนี้เต็มไปด้วยสิ่งที่ไม่อาจจะอธิบายออกมาได้ เธอกำลังจะหาคำอธิบายจากโลกใบนี้งั้นหรอ? พวกเราได้แต่ยอมรับมัน พวกเราได้แต่อยู่กับปัจจุบัน พวกเราก็ต้องก้าวต่อไป…. และนี่แหละคือชีวิต]
เธอไม่รู้ว่าเธอเกิดมาทำไม เธอไม่รู้ว่าเธอจะไปที่ไหร่ เพราะงั้นเธอก็แค่ไปในที่ที่เธออยากจะไปและทำในสิ่งที่เธออยากจะทำ มันคงจะน่าอายหากว่าเธอไม่รู้ถึงสิ่งที่เราจะบอก
[เหตุผลที่เธอเป็นแบบนี้มันก็เพราะงูนั่นใช่ไหมล่ะ? หยุดปฏิเสธความรู้สึกตัวเองและหลบหนีมันได้แล้ว ก็แค่ยอมรับอย่างที่เป็นก็พอแล้ว]เอิร์ธได้พูขัดคำถามออกมาอย่างไร้ปราณี จากนั้นก็พูดเสริมขึ้นมา
[ฉันไม่สามารถจะช่วยอะไรเธอได้ เพราะงั้นทำไมไม่ลองไปถามคนที่คล้ายๆกับเธอในเรื่องนี้กันล่ะ?]มิสทิคได้ยื่นขึ้น เธอได้กดหมวกฟางที่ยูอิลฮานมอบให้กับเธอมาและออกไปหาคนที่น่าจะช่วยเธอได้
***
“อืมม นี่เป็นคำถามที่ยากมาก”
ผู้ถูกถามคาริน่า สมิธสันได้ส่งเสียงออกมา เด็กหนุ่มรูปหล่อได้จับนิ้วของมิสทิคเอาไว้ด้วยแขนเล็กๆของเขา
“อุแง๊!”คาริน่าได้ลูบผมของนิคและเริ่มพูดออกมา
“นี่เป็นเรื่องส่วนตัวมากเลยนะ เธอจะไม่เป็นไรหรอมิสทิค?”มิเชล สมิธสันคือชายที่เต็มไปด้วยความดื้นด้านและความโลภ เขาเห็นแต่ตัวเอง กลุ่มของเขา ประเทศของเขา และเป้าหมายของคนอื่นๆนอกจากของเขาคือสิ่งที่ผิด
“ยังไงก็ตามเมื่อเวลาได้ผ่านไปและสภาพแวดล้อมก็ได้เริ่มเปลื่ยนแปลงเขา ในตอนแรกพวกเราก็แค่เป็นพันธมิตรกันเพราะว่ามีศัตรูเหมือนกัน เขายังคงหยิ่งยโสอยู่ แต่ในมุมๆหนึ่งเขาก็ยังมีความเป็นสุภาพบุรุษ เดิมทีเขาเป็นคนที่หัวรั้นมากๆแม้แต่กับพวกเดียวกันเอง แต่ในเวลาต่อมาเขาได้เริ่มที่จะสนใจคนอื่นมากขึ้น”
ถึงจะน่าหงุดหงิด แต่คาริน่าคิดว่าจุดเปลื่ยนของเขาก็น่าจะเป็นในตอนที่เขาได้เริ่มหลงรักคังมิเรย์ เมื่อได้มีคนนอกเข้ามาอยู่ในสายตาเขาทำให้เขาเริ่มสนใจคนนอกมากยิ่งขึ้น
“เนื่องจากเขาอยากที่จะเห็นคนนอก เขาก็เลยยอมรับในตัวเองที่อยู่ในสายตาคนอื่นทำให้เขาได้เริ่มถ่อมตัวขึ้นมาเล็กน้อย ฉันคิดว่าฉันคือคนที่ได้เห็นการเปลื่ยนแปลงนี้อย่างใกล้ชิด ฉันคิดว่าเขาเป็นไอโง่แท้ๆเลยล่ะ แต่ว่ามันก็น่าผิดหวังในตัวฉันเองเหมือนกันเนื่องจากฉันก็รู้สึกตัวว่าฉันนั้นคล้ายกันกับเขา แต่ฉันก็ภาคภูมิใจนะที่ได้เห็นเขาเติบโตขึ้น… และพอเป็นแบบนี้ ฉันก็ตกอยู่ในวงจรของการเฝ้ามองแตเขาและคิดถึงแค่เรื่องของเขา”เมื่อได้ยินเรื่องของเธอ มิสทิคได้เริ่มเปรียบเทียบสถานการณ์ของตัวเองกับของคาริน่า คาริน่าได้ยิ้มออกมาและพูดเรื่องราวของเธอให้จบ
“ฉันได้เห็นตัวเองในตัวเขา และนี่คือเหตุผลที่ทำให้ฉันรู้สึกกับเขามากขึ้นตามที่ฉันได้เห็นการเปลื่ยนแปลงของเขา มิสทิคเธอก็เหมือนกันใช่ไหม?”เมื่อคิดไปถึงโอโรจิส เธอก็รู้สึกขกลุกในใจ โอโรจิกับมิสทิคได้ประสบกับการเปลื่ยนแปลงมากมายในระหว่างยอยู่กับยูอิลฮาน พวกเขาต่างล้อเลียนกันและกัน บางครั้งก็พึ่่งพากันและกัน… และในระหว่างนั้นมิสทิคก็รู้สึกได้ว่ามีความรู้สึกใหม่แตกหน่อขึ้นมา
“ขอบคุณสำหรับคำตอบนะ ฉัคิดว่านี่เป็นแหล่งอ้างอิงที่ดีเลย”คาริน่าได้เอามือปิดหูนิคไว้และกระซิบกับมิสทิค หลังจากได้ยินเรื่องนี้หน้ามิสทิคก็เปลื่ยนเป็นสีแดง
“โอเคนะ?”มิสทิคได้เดินออกไปด้วยท่าทางที่เหมือนกับหุ่นย์กระป๋อง คาริน่าได้หัวเราะออกมาทันทีที่เห็นเธอเดินจากไปและก้มลงมาลูบหัวนิค เขาดูคล้ายกันกับมิเชลและไม่อาจจะน่ารักไปกว่านี้ได้อีกแล้ว
หนึ่งในคนที่มิสทิคไปหาอีกคนนั่นก็คือยูเรียล น่าบังเอิญที่เธอกำลังอยู่กับกาเบรียล
“คิมเยซอลอยู่ไหนล่ะ?”เมื่อมิสทิคได้แสดงความสงสัยออกมา กาเบรียลก็หยักหน้าพูดออกมา
“อิลฮานจะมีน้อง”มิสทิคได้หรี่ตามองไปที่กาเบรียล ยูเรียลที่อยู่ข้างได้ลูบที่หน้าท้องของเธออย่างพึงพอใจ
“นายมันแย่มาก…”คิมเยซอลได้มีงานแต่งไปแล้ว แต่ถึงแบบนั้นพวกเขาก็กลังมีงานแต่งอีกอย่างหนึ่งพร้อมๆกันกับยูเรียลด้วย เธออยากที่จะใส่ชุดแต่งงานอะไรแบบนั้น
แน่นอนว่ากาเบรียลก็ไม่ได้มีสิทธิ์ค้านอะไรอยู่แล้ว และยูเรียลก็พึงพอใจที่ได้ยืนเคียงข้างเขา
“ยูเรียล”
มิสทิคได้นึกในใจว่ากาเบรียลคือชายที่มีศักยภาพเหมือนยูอิลฮาน และเมินเขาไปก่อนจะหันไปมองยูเรียล
“ทำไมเธอถึงได้ตกหลุมรักคนๆนี้?”นี่คือคำตอบของยูเรียล เธอได้ยิ้มออกมาอย่างงดงาม
“ฉันก็แค่ชอบเขามาก ชอบตอนที่เขาเล่นมุกกับฉันบนสวรรค์ ตอนที่เขารู้สึกเจ็บปวดจากอนาคตที่ได้เห็น ตอนที่เขาต้องถอนหายใจออกมาเพราะความขัดแย้งด้านความคิดของลูซิเอลกับมิคาเอล และในตอนที่เขาเฝ้าดูแลคนอื่นๆ…”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Everyone Else is a Returnee โดดเดี่ยว 1000 ปี