อ่านสรุป ตอนที่ 277 จาก Everyone Else is a Returnee โดดเดี่ยว 1000 ปี โดย Internet
บทที่ ตอนที่ 277 คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายInternet Everyone Else is a Returnee โดดเดี่ยว 1000 ปี ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย Internet อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง
บทที่ 277 – ทำไมมีแค่ฉันล่ะ (3)
ยูอิลฮานได้มองไปที่หัวหน้ากิลด์ที่กำลังสู้กับปีศาจด้วยรอยยิ้มที่พึงพอใจ
“หืม กำลังไปด้วยดีเลย”มิเชล สมิธสันได้หมดหวังไปแล้ว ทุกๆครั้งที่หนวดของงปีศาจกระทบเข้ากับโล่เข้ามันให้ความรู้สึกเหมือนแขนเขากำลังฉีกออกตลอดเวลา ยูอิลฮานได้เอียงหัวแล้วหันไปเรียกนายูนา
“ยูนา”ตามปกติแล้วทั้งสามคนจะไม่มีทางต่อสู้กับปีศาจนี่ด้วยกำลังตัวเองได้เลย แต่ว่าด้วยการช่วยเหลือจากสตรีศักดิ์สิทธิ์ได้ทำให้พวกเขาเพิ่มพลังขึ้นจนถึงจุดที่พวกเขาสามารถจะฝืนเผชิญหน้าได้
“ว้าว ดูเหมือนการผสานงามกับพลังของพวกเขากำลังเพิ่มขึ้นนะ”จากนั้นเขาก็ไม่สนใจมองพวกหัวหน้ากิล์อีก ตอนนี้เขายังมีอีกหลายเรื่องที่ต้องไปทำ
“ถ้างั้นตอนนี้คงจะเป็นเวลาสำหรับการสร้างของฉันแล้วสินะ?”ป้อมปราการลอยฟ้าได้เจอเข้ากับหลายๆอย่างในการพัฒนามันขึ้นไป เพราะศักยภาพในการพัฒนาของมันที่เป็นอาร์ติแฟคระดับพระเจ้า ทำให้ป้อมปราการนี้สามารถจะใช้บันทึกที่มันดูดซับมาเพิ่มพลังให้กับประสิทธิภาพของอาร์ติแฟคป้อมปราการลอยฟ้าโดยการที่จะเพิ่มความทนทานอะไรแบบนี้
ยังไงก็ตามนั่นมันยังคงไม่พอ หากยูอิลฮานเอาวัตถุดิบจากสิ่งมีชีวิตชั้นสูงนับไม่ถ้วนที่เขาเก็บเอาไว้ในช่องเก็บของ เขาก็น่าจะพัฒนาป้อมปราการลอยฟ้าให้ไปอยู่ในระดับที่สูงขึ้นได้อีก!
[ยังจะมากกว่านี่อีกหรอ มันเป็นไปไม่ได้!]ยูอิลฮานได้รวบรวมขนปีกของทูตสวรรค์กับเทวดาสวรรค์มา และเริ่มสร้างกระจกเพิ่มอีก 900 บาน มิสทิคก็ได้พัฒนาขึ้นมาเช่นกันเพราะแบบนั้นเธอก็น่าจะควบคุมกระจกนับพันได้พร้อมๆกัน
[ฉันทำไม่ได้ ฉันทำไม่ได้แน่ๆ]เนื่องจากว่ายูอิลฮานเคยมีประสบการณ์ทำมันมาก่อน ทำให้เขาไม่ต้องใช้เวลาในการสร้างกระจกมากเลย ความเร็วของยูอิลฮานได้เร็วมากยิ่งๆขึ้นจนมากพอที่จะดึงดูดในคนอื่นๆที่อยู่ในบาเรียต้องหันมอง
“อย่ามามองฉัน ไปทำหน้าที่ของตัวเองไป”ยูอิลฮานได้สร้างกระจก 900 อันในเวลาเพียงแค่ 14 ชั่วโมง จากนั้นดูเหมือนเขาจะคิดอะไรบางอย่างอยู่ก่อนที่สร้างกระจกเพิ่มขึ้นอีก 4 อัน เขาได้ใช้วัตถุดิบที่เหลืออยู่มาทำกระจกสี่อันนี้ที่เป็นกระจกที่มีขนาดใหญ่และดูอันตรายที่สุด!
[ทำไมถึงทำสี่อันนี้ล่ะ?]ร้อยนัยน์ตาไปเป็นพันนัยน์ตา นี่คือการพัฒนาขึ้นขนาดใหญ่ของอาร์ติแฟคและจะทำให้อาร์ติแฟคเลื่อนระดับได้เลย จากโกลาหลได้ไปสู่ระดับกึ่งเทพ
ยูอิลฮานดูจะผิดหวังเล็กน้อยเนื่องจากว่าเขาเล็งไว้ที่จะทำให้มันเป็นระดับเทพเจ้า แต่ว่าเนื่องจากว่าป้อมปราการลอยฟ้าได้ถูกอัพเกรดตามเขาตั้งใจเอาไว้แต่แรก ทำให้เขาตัดสินใจปล่อยไว้แค่นี้
“ถ้างั้นฉันควรจะเพิ่มอะไรอีกดี?”สิ่งมีชีวิตชั้นสูงของกองทัพปีศาจวิบัติส่วนใหม่มักจะวิวัฒนาการขึ้นมาจากมอนสเตอร์ แล้วก็หลายครั้งที่เลือดและเนื้อของพวกมันจะเต็มไปด้วยพิษร้ายแรง นอกไปจากนี้ทุกๆส่วนขงพวกมันยังมีคุณสมบัติพิเศษแล้วเมื่อนำมารวมกันกับสิ่งต่างๆระดับของพิษก็ยังจะวิวัฒนาการขึ้นไปอีกด้วย
ในท้ายที่สุดแล้วพิษจากสิ่งมีชีวิตชั้นสูงก็เป็นปกติที่มันจะต้องใช้ได้ผลกับสิ่งมีชีวิตชั้นสูงด้วยกัน ในหมู่สมาชิกกองทัพปีศาจวิบัติมีหลายคนที่ใช้การโจมตีด้วยพิษ แน่นอนว่ายูอิลฮานได้มีเวอร์ชั่นที่พัฒนาของการป้องกันพิษขั้นสูง คือร่วงหล่นทำให้เขาไม่ได้ผลจากพิษพวกนี้เลย
ใช่แล้ววิธีที่สองที่จะอัพเกรดป้อมปราการลอยฟ้านั่นกคือพิษ ในช่องเก็บของของเขามีร่างของพวกกองทัพปีศาจวิบัติอยู่มากมาย เพราะงั้นเขาจึงมีวัตถุดิบมากพอแล้ว
“มีตัวอย่างอยู่มากเกินไป… ฉันคงจะต้องผสมพวกมันเข้าด้วยกันสินะ?”ยูอิลฮานได้ตอบกลับมาด้วยรอยยิ้ม
“ก็ง่ายๆไง ฉันก็แค่กินมันลงไป การร่วงหล่นมีการต้านพิษอยู่เพราะงั้นถ้าฉันกินมันไปฉันก็จะได้ฝึกการร่วงหล่นไปด้วย นี่มันยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวเลยนี่”อย่างแรกเขาได้แยกประเภทของพิษที่มีก่อนแล้วก็เค้นเลือดของพวกมันออกมาจนซากแห้ง เพราะแบบนี้ทำให้เขาได้เลือดที่แตกต่างกันกว่าพันชนิดรวมเป็นเลือดหลายล้านลิตร ในจุดๆนี้ยูอิลฮานได้ใช้สัญชาตญาณของเขาเริ่มทำการผสมมันเข้าด้วยกันแบบสุ่มๆ
“ไม่ล่ะ นี่มันอ่อนไปแล้ว นี่ก็ด้วย นี่ก็อ่อนเหมือนกัน!”เขาได้เก็บเอาพิษที่มีผสมได้มาเป็นส่วนที่แข็งแกร่งมาเก็บเอาไว้ จากนั้นก็เอามันมาผสมเข้ากัน การผสมพิษของยูอิลฮานได้ดำเนินไปแบบนี้อย่างต่อเนื่อง
สิ่งที่น่าตกใจอีกเรื่องก็คือยิ่งเขาชินกับการผสมพิษเท่าไหร่ ความเร็วในการผสมของเขาได้กลายเป็นเร็วยิ่งๆขึ้น
[นายท่านไม่ปกติแล้ว]ทุกๆวินาทีจะมีพิษสามหรือสี่อย่างปรากฏขึ้นมาและหายไป พิษที่อ่อนแอจะถูกโยนทิ้งไป ส่วนพิษที่แข็งแกร่งก็จะถูกสร้างซ้ำๆจนเกิดมาเป็นพิษใหม่ที่มีรากฐานมาจากพิษที่แข็งแกร่งและเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ
ทั่วทั้งจักรกาลไม่เคยเลยที่จะมีการสร้างและทำลายพิษจำนวนมากในที่ๆเดียวแบบนี้ ไม่สิ มันไม่เคยมีใครที่คิดจะเอาพิษของสิ่งมีชีวิตชั้นสูงจำนวนมากมาใช้แต่แรกแล้ว
“ฉันมาดูว่าอิลฮานกำลังทำอะไรอยู่… แต่ทำไมฉันถึงได้เห็นนรกในส่วนหนึ่งของป้องปราการลอยฟ้าล่ะ?”ส่วนที่เลวร้ายที่สุดของพิษนี้เลยก็คือมันเต็มไปด้วยเศษเสี้ยวของอาหารเวทมนต์อยู่ภายใน เดิมที่มันก็มีพิษที่เลวร้าวอยู่แล้ว แต่มันจะยังเปลื่ยนแปลงรูปร่างไปตามยูอิลฮานต้องการเพื่อโจมตีศัตรูได้อีกด้วย! ไม่เพียงแค่นี้จะทำให้พรรคพวกของเขาไม่ได้รับผลกระทบจากพิษเท่านั้น แต่ว่ายังเป็นไปได้อีกด้วยที่จะใช้พิษต่อสู้ให้ได้อย่างทรงประสิทธิภาพถึงขีดสุด
“ยิ่งไปกว่านั้นฉันยังใช้วิธีนี้หลอกศัตรูว่านี่เป็นเพียงพิษที่อ่อนแอได้อีกด้วยยังไงก็ตามแผนชั่วของยูอิลฮานเพิ่งจะเริ่มต้นขึ้นเท่านั้นเอง หลังจากเขาได้สร้างพิษขึ้นมาแล้ว เขาก็ได้ใช้ร่างของกองทัพปีศาจวิบัติที่ถูกดูดเลือดออกมาจนแห้งมาเสริมพลังให้กับป้อมปราการลอยฟ้าอีก! เพราะแบบนี้เองทำให้กำแพงภายนอกของป้อมปราการลอยฟ้าทรงพลังขึ้นไปอีก อาร์ติแฟคทั้งหมดแหลมคมยิ่งขึ้น และอาวุธภายในคฤหาสน์ก็ได้รับการเสริมพลัง รวมไปถึงจำนวนกับดักก็ยังเพิ่มขึ้นอีกด้วย
แต่ถึงแบบนั้นข้อมูลที่บันทึกนภามีให้กับป้อมปราการลอยฟ้าก็ไม่ได้ต่างจากเดิมมากนะ
“นี่ยังดีไม่พออีกหรอ…? ป้อมปราการลอยฟ้าเป็นงานชิ้นแรกเลยนะที่ฉันทุ่มขนาดนี้!”ถ้ากองทัพปีศาจวิบัติใช้ไม่ได้ผล งั้นเขาก็แค่ต้องใช้ซากอื่นๆของกองกำลังอื่นๆสิ! เขาได้ใช้ซากทูตสวรรค์ เทวดาตกสวรรค์และผู้เฝ้าประตูสวนมาอัพเกรดป้อมปราการลอยฟ้า พลังที่มหาศาลอยู่แล้วของป้อมปราการลอยฟ้าได้เพิ่มมากยิ่งขึ้นไปอีก
ได้มีหินพลังเวทย์คลาส 5 อีกนับร้อยได้ถูกใช้และดินแดนศักดิ์สิทธิ์ก็ได้รับการเสริมพลังขึ้นเช่นกัน ในตอนนี้จำนวนของอาร์ติแฟคในป้อมปราการลอยฟ้ามีมากมายจนเขาขี้เกียจจะนับแล้ว
แต่ถึงแบบนั้นป้อมปราการลอยฟ้าก็ยังคงอยู่ในระดับเทพเจ้า
[ฉันบอกแล้วไงว่ามันเป็นไปไม่ได้]ตอนนี้ยูอิลฮานได้แต่ยอมรับในความเป็นจริง แม้แต่กองทัพสวรรค์ก็ยังไม่รู้เลยว่ามีสิ่งที่อยู่เหนือระดับเทพเจ้าหรือป่าว? ในเมื่อขนาดยูอิลฮานที่เป็นสุดยอดช่างตีเหล็กและสุดยอดนักหัตถกรรมมานาก็ยังทำไม่ได้เลยถ้างั้นการที่ทูตสวรรค์ไม่รู้นั่นก็ไม่น่าแปลกใจเลย
[ตอนนี้นายท่ายคงจะยอมแพ้แล้วใช่ไหม]ยูอิลฮานได้พึมพัมกับตัวเอง
“ทำในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้”ยูอิลฮานได้หยักหน้าอย่างตั้งมั่นและยกมือขึ้นบนฟ้า ในตอนนี้เองร่างกายร่างหนึ่งได้ปรากฏขึ้นมา
“ทำในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ก็คือสถานการณ์ที่ฉันจะเอาร่างของเจ้านี่มาใช้งาน”นี่ก็คือร่างกายของหัวหน้าผู้เฝ้าประตูสวนอาทิตย์อัสงดง เคลาทูค
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Everyone Else is a Returnee โดดเดี่ยว 1000 ปี