สรุปเนื้อหา ตอนที่ 278 – Everyone Else is a Returnee โดดเดี่ยว 1000 ปี โดย Internet
บท ตอนที่ 278 ของ Everyone Else is a Returnee โดดเดี่ยว 1000 ปี ในหมวดนิยายInternet เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Internet อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
บทที่ 278 – ทำไมมีแค่ฉันล่ะ (4)
[เอาจริงดิ… ฉันได้จัดการฆ่าเจ้าสิ่งนี้ไปได้ยังไง?]เมื่อสักครู่นี้เฮเรียน่าได้ต่อสู้กับเลียร่าอยู่ แต่ว่าเมื่อยูอิลฮานได้หยิบเอาร่างของเคลาทูคออกมาทำให้เธอหมดความสนใจที่จะสู้ต่อและลอยเข้ามาหายูอิลฮานแทน เธออยากจะให้เขาเอาใจเธอเพราะเธอเป็นคนที่ทำให้เขาได้รับร่างนี้มา
“อืมม ขอบคุณนะ ขอบคุณเธอมากเลย”ในอดีตเคลาทูคได้โดนผลจากเสน่ห์ของเฮเรียน่าและเข้าไปสูกับปีกที่ 8 แห่งกองทัพจรัสแสงนาเทียจนบาดเจ็บทั้งคู่และต้องเสียชีวิตไป ยังไงก็ตามพลังเวทย์ในร่างที่มหาศาลของมันยังคงอยู่และช่วยซ่อมแซมร่างกายให้กับมัน ทำให้ตอนนี้ร่างกายของมันได้ถูกฟื้นคืนมาอย่างสมบูรณ์จนทำให้คนมองต้องสงสัยว่ามันตายไปแล้วจริงๆแน่หรือ
“สำหรับตอนนี้ฉันจำเป็นต้อง… ชำแหละมัน”ยูอิลฮานได้จัดไฟขึ้นบนปลายหอกมังกรแปดหาง เพลิงนี้คือเพลิงโปร่งแสงที่ยูอิลฮานใชได้หลังจากที่เขาได้รับพรจากเทพธิดาแห่งเพลิง
เพลิงได้ถูกบีบอัดอยู่ที่ปลายหอกของเขานั้นมีแค่มองเห็นได้รางๆนั้นเท่านั้น แต่ว่าพลังที่อยู่ภายในของมันน่าสะพรึงกลัวเป็นอย่างมาก และนี่แหละคือเหตุผลที่ทำให้ยูอิลฮานได้รับพรจากเทพธิดาแห่งเพลิง
[ฉันยังรู้สึกได้ถึงพลังของมังกรอีกด้วย]เขาไดใช้ปลายหอกจ่อแทงลงไปที่หัวของเคลาทูค หากว่าเคลาทูคยังมีชีวิตอยู่เขาคงไม่อาจจะแทงเข้าไปแน่ แต่ว่าในตอนนี้มันไม่ใช่แบบนั้น คมหอกได้แทงลงไปอย่างราบรื่นราวกับผ่าเต้าหู้ ยูอิลฮานได้แทงลึกเข้าไปทีล่ะนิดพร้อมๆกับการสูดหายใจเข้าลึกๆ ตอนนี้เลือดได้กระจายออกไปจนทั่ว แต่ว่ายูอิลฮานก็ได้ใช้ที่เก็บที่เตรียมไว้ล่วงหน้าเก็บเลือดทั้งหมดนี้เอาไว้
“เยี่ยม ฉันคิดว่ามันได้ผลแหะ”
หอกของเขาได้กลายเป็นเร็วยิ่งขึ้น เมื่อเนื้อในของฉลามติดเกราะขนาดมหึมาที่มีขนาดร้อยกว่าเมตรได้ยิ่งเผยออกมา นายูนาก็ได้ตะโกนขึ้นมาอย่างดีใจ
“อิลฮาน! ฉันอยากจะกินซุปหูฉลามล่ะ~”ยูอิลฮานได้ชำแหละเคลาทูคเพื่อที่จะเอามาเสริมพลังให้กับป้อมปราการลอยฟ้า แต่ว่าพรรคพวกที่เหลือของเขากลับอยากที่จะกินเนื้อฉลาม
ที่จริงแล้วเนื้อฉลามเป็นวัตถุดิบสำหรับการทำอาหารที่ดีมากอย่างหนึ่งเลยหากไม่คำนึงถึงเรื่องการเน่าเสียที่ไวมากๆของมัน แต่ว่าเนื้อของเคลาทูคมีมานาอยู่จำนวนมากทำให้ถึงจะปล่อยไว้เป็นร้อยปีก็ไม่มีวันจะเน่าเสียแน่
แล้วก็ด้วยสกิลทำอาหารที่เขาได้เชี่ยวชาญแล้ว ยูอิลฮานก็อยากจะทำซูซิฉลามเช่นกัน
“…ในเมื่อฉันไม่ต้องใช้เนื้อเพราะงั้นเราจะกินมันกันใช่ไหม?”ยูอิลฮานได้แยกกระดูกกับเกราะโลหะออกจากกัน จากนั้นก็ตัดหูฉลามกับเนื้อชิ้นที่เหมาะมาทำเป็นซูชิ อย่างแรกเขาได้หั่นหูฉลามเป็นชิ้นๆไปใส่ในหม้อทำน้ำซุป ตัดเอาส่วนเนื้อไปทำเป็นซูชิบางๆ เมื่อได้เห็นการทำอาหารของยูอิลฮาน คังมิเรย์กับนายูนาได้รู้สึกได้ถึงความพ่ายแพ้ในด้านนี้
“ฉันยังทำมาม่าไม่ได้เลย…”เมื่อยูอิลฮานชินกับมันการทำอาหารของเขาก็ได้เร็วยิ่งขึ้น ยูอิลฮานได้ใช้เวลาแค่สามชั่วโมงเท่านั้นในการเอาฉลามมาทำเป็นอาหารที่พอให้คนทั้งหมดในที่แห่งนี้ได้กิน และเนื่องจากว่ายูอิลฮานได้ใช้อ่างแห่งปาฏิหาริย์มาทำอาหารทำให้ความเป็นพิษไม่ได้สูงอีกต่อไปแล้ว
“…ฉัน”คังมิเรย์กับนายูนาที่อึดอัดใจอยู่ได้ถูกรสชาติของอาหารทำให้ความรู้สึกนี่หายไปทันที และพวกเธอก็ได้เริ่มที่จะสนใจกับการทำอาหาร สำหรับคนอื่นๆก็เช่นเดียวกัน
“แม่แพ้ลูกแล้ว”
แม้กระทั่งคิมเยซอลก็ยังยอมรับในความพ่ายแพ้
[เคลาทูคที่เป็นถึงคลาส 7 ได้จบลงด้วยการกลายมาเป็นซุปหูฉลาม…]ร่างกายของเคลาทูคมีขนาดที่ใหญ่มากๆ ต่อให้พวกเขาเติมเต็มท้องกันจนอิ่มร่างกายของเคลาทูคก็ยังคงเหลืออยู่อีก 95% ยูอิลฮานได้จัดการตัดเอาเหลือส่วนที่เหลืออย่างพอดีคำมาเก็บลงไปในช่องเก็บของและในที่สุดเขาก็ได้เริ่มทำการอัพเกรดป้อมปราการลอยฟ้า
“มิสทิค เธอคิดว่าป้อมปราการนี่ขาดระบบอะไรบ้างไหม?”ป้อมปราการลอยฟ้ามีความสามารถที่จะสร้างบาเรียขึ้นมาเองด้วยการใช้มานา หากว่าถูกเรียกออกมาบาเรียก็จะป้องกันป้อมปราการลอยฟ้าจากการกระแทกและการโจมตี
ยังไงก็ตามในความคิดของยูอิลฮานคิดว่าหากเป็นการโจมตีจากสิ่งมีชีวิตชั้นสูงบาเรียนี่ก็ยังคงไม่เพียงพอ บาเรียนี่ต่อให้เป็นเขาก็ยังทะลวงผ่านไปได้ง่ายๆเลย
“เรพาะงั้นในตอนนี้ฉันจะใช้เกราะโลหะนี่มาเสริมพลังให้กับบาเรีย”พูดกันอีกครั้งก็คือร่างของเคลาทูคนั้นมหึมามาก เพราะแบบนี้การจะใช้เกราะโลหะของมันมากปกคลุมป้อมปราการลอยฟ้าทั้งป้อมก็ไม่ใช่ปัญหาเลย
อย่างแรกยูอิลฮานได้ทำการหัตถกรรมมานากับชิ้นส่วนเกล็ดโลหะก่อนจนทำให้มันกลายมาเป็นโปร่งแสงและติดตั้งปืนสปริงไว้เพื่อที่จะทำให้ยิ่งเกล็ดโลหะพวกนี้ออกไปปกคลุมป้อมปราการได้เมื่อบาเรียถูกเปิดใช้งาน ปืนสปริงนี้เป็นอุปกรณ์ที่จะตอบสนองกับมานาบางประเภทและถูกออกแบบมาอย่างปราณีต แต่ว่าสำหรับผู้เชี่ยวชาญวิศวกรรมเวทย์แล้วการสร้างมันเป็นเรื่องที่ง่ายดายมาก
“แน่นอน นอกจากนี้แล้วมันยังเป็นไปได้ที่จะยิงเกล็ดนี่ออกไปนอกบาเรียในตอนที่บาเรียรับภาระหนักเกินไปอีกด้วยยูอิลฮานคิดว่า ‘ชิ้นส่วนที่หายไป’ ได้ทำให้เธออึดอัด ยังไงก็ตามหากเขารู้ว่านั่นคืออะไรเขาก็คงจะทำให้มันสมบูรณ์ไปแล้ว ยูิลฮานได้หยั่งไหล่ถามออกมา
“ฉันจะต้องจี้เธอไหมล่ะ?”หลังจากนั้นมิสทิคก็กรีดร้องไปอยู่พักใหญ่ๆ แต่ว่านี่ก็ไม่มีอะไรที่ยูอิลฮานทำได้เลย เขาได้ถามโอโรจิ แต่ว่าโอโรจิก็แค่ถอนหายใจและตอบกลับมาว่า
[ในตอนผู้หญิงหงุดหงิดโมโหนะ สิ่งที่ดีที่สุดที่ทำได้ก็คือการปล่อยเธอเอาไว้คนเดียวดีกว่าการไปถามเหตุผลแน่ๆ นี่จะเป็นวิธีลดความเสียหายที่ดีที่สุดแล้ว]เมื่อเขาไปบอกกับคนอื่นๆว่าตอนนี้ป้อมปราการลอยฟ้าได้อยู่ระดับนิรันดร์แล้ว ตอนแรกคนอื่นๆก็สับสนกัน แต่ไม่นานนักพวกเขาก็ต้องตะลึงเมื่อรู้ความจริงว่านั่นมันอยู่เหนือระดับเทพเจ้า แม้กระทั่งคนที่มีประสบการณ์มากที่สุดอย่างเฮเรียน่าก็แสดงท่าทางตกใจออกมา
[นิรันดร์? นี่มันเป็นครั้งแรกเลยที่ฉันได้ยินเรื่องแบบนี้ ฉันเคยเห็นสุดยอดช่างตีเหล็กมาหลายคนในชีวิตนะ… แต่ไม่มีใครเลยที่ทำได้ดีกว่าระดับเทพเจ้า]การอัพเกรดป้อมปราการลอยฟ้าได้เสร็จสิ้นลงแล้ว แม้ว่าเขาจะใช้เกราะโลหะทั้งหมดของเคลาทูคไป แต่ว่าผลลัพธ์นี่ก็ดีจนทำให้เขาพึงพอใจมาก นอกไปจากนี้
“ฉันดีใจที่ฉันไม่ถึงขนาดที่ต้องทำในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้อีก เพราะงั้นฉันก็เลยยังมีกระดูกเหลืออยู่!”ยังไงก็ตามเขาก็มีแผนที่จะใช้งานกระดูกของเคลาทูคแล้ว ยูอิลฮานได้เอากระดูกมากองไปที่มุมหนึ่งและหยิบเอากระดูกของอิชจาร์ออกมาอีกส่วนหนึ่ง จากนั้นก็เอาหัวใจมังกรของอิชจาร์แล้วก็ดวงใจแห่งเพลิงออกมา
“”นับจากนี้ อย่าเข้ามาใกล้ทางนี้นะ”
เขาได้เตือนคนอื่นๆด้วยน้ำเสียงที่ขึงขัง และจัดการถอดทุกๆออกไป รวมไปถึงถุงมือที่ทำมาจากศพของเจตจำนงแห่งความโกลาหล แม้กระทั่งเกราะร่างเพลิงนรกก็ไม่เว้น โอโรจิได้ถามเขาขึ้นทันที
[ตอนนี้นายท่านคิดว่านายท่านทำมันได้แล้วงั้นสินะ?]ยูอิลฮานได้หยักหน้าออกมาอย่างไม่ลังเล ก่อนที่จะยกค้อนขึ้นพร้อมสูดหายใจลึก
เขามีวัตถุดิบพอแล้ว แถมเป้าหมายตอนนี้ของเขาก็ชัดเจนแล้ว นั่นก็คือระดับนิรันดร์
ในท้ายที่สุดตอนนี้มันก็ถึงเวลาทำชุดเกราะในอุดมคติของเขาให้สมบูรณ์แล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Everyone Else is a Returnee โดดเดี่ยว 1000 ปี