ระหว่างที่ยูอิลฮานกำลังสร้างปาฏิหาริย์อยู่ สมาชิกปาร์ตี้ของยูอิลฮานก็กำลังพิชิตโลกระดับสูงอยู่อีกแห่งหนึ่ง
[พวกเธอไปเอาความกล้ามาจากไหนถึงได้มาต่อต้านกองกำลังสิ่งมีชีวิตชั้นสูง?]
คนที่ถามคำถามนี้ออกมาด้วยน้ำเสียงชั่วร้ายก็คือเทวดาตกสวรรค์เซีย ผู้เฝ้าดูแลโลกระดับสูงเฟียต้าที่เป็นของกองทัพจรัสแสง เทวดาตกสวรรค์ส่วนใหญ่ได้ตายลงไปแล้วจากการระดมยิงจากป้อมปราการ และหลังจากต่อสู้กันพักหนึ่งทำให้ตอนนี้เหลือเขาอยู่เพียงคนเดียว
“กล้าอะไรของนาย ถ้าเรากล้ากันจริงๆเราจะไม่ทำแบบนี้แน่ ที่พวกเราทำแค่นี้ก็เพราะว่าฉันกลัวว่าคนที่ฉันรักแล้วก็เพื่อนๆที่มีค่าจะตายทั้งหมด และในสุดท้ายก็เพราะว่าฉันอาบแล้วก็อ่อนแอด้วย”
เลียร่าได้ตอบกลับมา คนที่แข็งแกร่งที่สุดในกลุ่มแน่นอนว่าคือเฮเรียน่า แต่ว่าในด้านความแข็งแกร่งทางร่างกายเธอยังด้อยกว่าเลียร่าทำให้หลังจากเลียร่าแยกจากยูอิลฮาน เลียร่าก็ได้มาทำหน้าที่หัวหน้ากลุ่มนี้
“แต่ไม่ว่ายังไงเราก็ไม่ได้อยู่ในตำแหน่งที่จะพูดเรื่องนั้นกัน ถึงฉันจะไม่ใช่ฝ่ายถูกก็ตาม แต่… นี่คือสงคราม เพราะแบบนี้เราถึงได้มีชีวิตอยู่มาจนถึงตอนนี้”เลียร่าได้หยักไหล่ออกมาและยกหอกของเธอขึ้น ด้วยความรักที่สุดแสนจะลึกซึ้งของเธอได้ทำให้หอกทรงพลังขึ้นและในตอนนี้พลังโจมตีมันก็เกินกว่า 16,000 ไปแล้ว ความรักของเธอได้กลายไปเป็นจ้าวแห่งโลหะทั้งมวลที่ทำให้หอกของเธอทรงพลัง
“เข้ามาสิ ฉันจะจัดการนายแบบ 1 ต่อ 1 ให้ดู”แน่นอนว่าเลียร่าก็ไม่ได้ประมาท เธอได้ดึงพลังเวทย์ของเธอออกมาเสริมพลังกับชุดเดรสรบของเธอซึ่งยูอิลฮานได้ทำให้เธอรวมถึงเครื่องประดับต่างๆด้วย อีกทั้งเธอยังได้รับพรจากนายูนาและมีความมั่นใจที่จะเอาชนะศัตรูได้เท่านั้นเธอถึงจะพุ่งออกไป หากว่าเธอมาคนเดียวมันจะต่างออกไปแน่ แต่ว่าในตอนนี้ตัวเธอได้มากับคนจำนวนมากที่จะปกป้องและความคาดหวังมากมายที่เจอ
[คุณได้รับค่าประสบการณ์]
“ฟู่ จบซักที”
หนึ่งนาทีหลังจากการต่อสู้ได้เริ่มต้นขึ้นเลียร่าก็ได้จัดการฆ่าเซียและทำให้หอกของเธอที่มีพลังเวทย์ทำให้สั่นสงบลง เธอยังได้เก็บเอาศพมาเช่นกัน เฮเรียน่าที่เฝ้ามองมาตลอดก็อุทานขึ้นมา
[สไตล์การต่อสู้ของเธอดูคล้ายของที่รักเลยนี่]เฮเรียน่าพยายามจะแหย่เลียร่าแต่แล้วเธอก็ต้องเดาะลิ้นออกมาเมื่อได้เห็นรอยยิ้มมีความสุขของเลียร่า
สมแล้วที่เธอได้รับพรจากเทพแห่งความรัก ถึงแม้ว่าเฮเรียน่าจะรักยูอิลฮานจริงๆ แต่หากเทียบกับเลียร่าแล้วเธอก็ยังแค่เด็กๆ
“งั้นนี่ก็จบแล้วสินะ ถ้างั้นเราควรจะไปโลกต่อไปเลยดีป่ะ? เป็นกองทัพจรัสแสงอีก…”นายูนาได้ตะโกนออกมาอย่างตกตะลึง แต่เฮเรียน่าก็หยักไหล่ออกมา
[ฉันกำลังจะบอกว่าต่อให้เป็นแบบนี้ ทุกๆอย่างก็จะจบลงบนโลก และนี่ก็เป็นเหตุุผลที่แผนของที่รักจะทำให้ผู้นำแต่ล่ะกองกำลังอ่อนแอที่สุดเท่าที่จะทำได้ เธอลืมเรื่องนี้ไปแล้วงั้นหรอ?]
ดวงตาเฮเรียน่าได้ส่องประกายลึกลับออกมา
[เหตุผลของที่รักคือทำให้เราได้รวบรวมมันทึกให้มากๆ แล้วก็เหตุผลที่ที่รักเอาตัวเองไปในที่ที่อันตรายที่สุดทั้งหมดก็เพื่อปลุกพลังขึ้น ที่รักคือหัวหน้ากองกำลังสิ่งมีชีวิตชั้นสูงที่สมบูรณ์แบบที่สุด… ในเวลานั้นพวกเราก็ไม่จำเป็นต้องกลัวหัวหน้ากองกำลังอื่นๆอีกต่อไปแล้ว]เมื่อคิดถึงพระเจ้าของกองทัพสวรรค์แล้วคำพูดของเฮเรียน่าเป็นคำที่พยาบคายมาก แต่ว่าสำหรับคนที่นี่ ไม่ต้องพูดถึงคนอื่นเลยแม้กระทั่งเลียร่ากับเอิลต้าก็ยังมีความเชื่อในพลังพระเจ้าเพียงเล็กน้อยเท่านั้น จริงๆแล้วพวกเธอก็อยากจะให้เป็นแบบนี้ด้วย
[แล้วก็นะคุณผู้หญิง เมื่อไหร่เธอจะสร้างประตูมิติล่ะ?]
เฮเรียน่าที่หลังจากพูดคำยกย่องยูอิลฮานแล้วรู้สึกอายขึ้นมาได้หันหน้าไปหาคังมิเรย์ ยังไงก็ตามสีหน้าของคังมิเรย์ค่อนข้างจะ ไม่สิ มืดมนเอามากๆ
“ฉันพยายามแล้ว แต่ว่าเปิดประตูมิติไม่ได้เลย”เฮเรียน่าได้ถามกลับไป
[แม้กระทั่งอาร์ติแฟคที่ที่รักให้เรามาก็ใช้ไม่ได้ผลงั้นหรอ?]
ไมเพียงแต่ความสามารถของมิเรย์เท่านั้นที่ถูกขัดขวาง แต่ยังมีบางอย่างแทรกแซงอาร์ติแฟคของยูอิลฮานด้วยทั้งๆที่เขาคือคนที่ไปถึงในระดับการสรรสร้างแล้วเนี้ยนะ? เฮเรียน่าได้หันมาตรวจอาร์ติแฟคของเธอและพบว่านี่มันคือเรื่องจริง
เลียร่าก็รู้ว่าเครื่องสื่อสารอะไรก็ตามได้ถูกตัดขาดไปทั้งหมดและหันมาถามเฮเรียน่าด้วยเสียงสั่นๆ
“…ซาตานปรากฏตัวหรืออะไรงั้นหรอ?”[สถานการณ์ที่คาดไม่ถึง]
ก่อนที่เลียร่าจะพูดข้อสรุปออกมาก็ได้มีน้ำเสียงดังขึ้นมาทั่วทั้งเฟียต้าโดยที่ไม่ใช่เสียงของใครในที่แห่งนี้ทั้งนั้น น้ำเสียงนี้ทั้งไม่สูงไม่ต่ำ ไร้ซึ่งอารมณ์ เป็นแค่น้ำเสียงเรียบเฉยที่ไม่อาจจะระบุเพศได้
[กองกำลังที่ห้าแห่งบันทึกนภา]
เจ้าของเสียงได้ปรากฏตัวขึ้นกลางอากาศ มันเป็นสิ่งมีชีวิตที่ดูรูปร่างเหมือนกับมนุษย์ แต่ว่าร่างกายนั้นผอมบางมีหมอกแสงออกมาจากทุกๆด้าน
[กำจัดกองกำลังนี้้ก่อนที่พวกเขาจะได้รับพลังในการต่อต้านสวรรค์]
พวกนี้นี่เป็นตัวตนที่แตกต่างไปจากทุกๆเผ่าพันธ์ที่พวกเขารู้จัก – มีปีกอยู่หกข้างที่ดูเหมือนจะลอยไปตามลม รวมไปถึงวงแหวนที่กระพริบอยู่บนหัวของพวกมัน
[ไม่มีทาง…]
“นั่นมันทูตสวรรค์?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Everyone Else is a Returnee โดดเดี่ยว 1000 ปี