Everyone Else is a Returnee โดดเดี่ยว 1000 ปี นิยาย บท 305

Everyone Else is a Returnee โดดเดี่ยว 1000 ปี – ตอนที่ 305
บทที่ 305 – ฉันคือพ่อของพวกนาย (6)

[พ่อ สิ่งมีชีวิตนี่… เป็นศัตรูหรือป่าว?]

รูบี้ได้ถามยูอิลฮานออกมาด้วยความรู้สึกสงสัยอย่างมากที่เห็นเฮเรียน่าอยู่ติดกับยูอิลฮาน รูบี้พึมพัมขึ้นกับตัวเองว่ายูอิลฮานได้รับการโจมตีจิตใจอะไรหรือป่าว แต่ว่าคำพึมพัมพวกนี้ทั้งยูอิลฮานกับเฮเรียน่าก็ได้ยินเช่นกัน

“เธอเป็นพรรคพวกของเรา เพราะงั้นเธอไม่ต้องห่วงหรอกนะ แต่ว่านะทำไมถึงกลับกันมาแล้วล่ะ?”
[เนื่องจากว่ามีมอนสเตอร์เกิดขึ้นมามายมายก็เลยทำให้มีมอนสเตอร์ที่กำลังล่ามังกรเกิดขึ้นมาเช่นกัน หนูคิดว่าพ่อก็น่าจะต้องรู้เรื่องนี้…]
“โอ้”

นี่น่าจะเป็นเรื่องของธรรมชาติ ถึงแม้ว่ายูอิลฮานจะมองว่ามังกรแข็งแกร่งมากๆ แต่ว่าเขาก็มีบันทึกมามายเกี่ยวกับเหล่านักล่ามังกร ยิ่งตัวเขาเองยังเคยฆ่ามังกรไปเป็นพันๆตัวตั้งแต่ตอนแรกที่มาดาเรย์อีกด้วย

ดาเรย์ได้ใช้วิวัฒนาการทั้งหมดของบันทึกของเขามาเป็นพื้นฐาน เพราะงั้นมันก็เป็นเรื่องธรรมดาที่จะมีเหล่ามอนสเตอร์นักล่ามังกรเกิดขึ้นมา ถ้ามันถึงขนาดที่ว่าแม้แต่มังกรก็ยังรู้สึกถึงวิกฤติ ดูท่าเจ้าพวกนั้นก็น่าจะมีเลเวลสูงเช่นกัน

“ถ้างั้นพวกเธอก็น่าจะวิวัฒนาการได้มากยิ่งขึ้นไปกว่านี้อีกหากว่าเอาชนะพวกมันได้”
[พ่อ เราต้องทำยังไงดี?]
“เธอกลัวพวกนั้นหรอ?… อืมนี่ก็คงช่วยไม่ได้สินะในเมื่อพวกเธอเพิ่งจะเกิดขึ้นมา”

ยูอิลฮานได้หันไปขอให้ยูมิลที่อยู่ข้างๆช่วยแทน

“มิลช่วยไปดูเหล่าญาติที่อ่อนแอกว่าลูกน้อย ลูก็แค่ต้องปล่อยให้พวกเธอเอาชีวิตรอดเท่านั้นแหละ”
“ได้เลยครับพ่อ ผมจะทำให้ทุกๆคนแข็งแกร่ง”

ยูมิลได้พูดขึ้นด้วยรอยยิ้มพร้อมกับบินออกไปท่ามกลางสายตาของรูบี้กับมังกรคนอื่นๆที่ได้ประจักษ์ถึงร่างมังกรคลาส 6 ที่เต็มไปด้วยความยิ่งใหญ่

[กรรรรรรรรรรร!]

ยูมิลที่มีอยู่ในร่างมังกรเพลิงเกล็ดทองได้คำรามออกมาจนทำให้มังกรทั้งหมดทีอยู่ตรงหน้าต่างก็ตัวแข็งทื่อ โดยเฉพาะในสายตาของรูบี้ได้เต็มไปด้วยไฟแห่งปรารถนา

[พี่ชายน่าทึ่ง!]
“พี่ชาย…?”

ในท้ายที่สุดยูอิลฮานก็สังเกตุว่าน้ำเสียงของรูบี้เหมือนกับผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย เพราะงั้นเธอคือผู้หญิงสินะ! ดีนะที่เขาได้ตั้งชื่อผู้หญิงให้กับเธอไป

[ทุกคนตามฉันมา! มันยังมีอีกหลายครั้งในชีวิตนี้ที่พวกเธอจะต้องได้เจอกับพวกเหล่าตัวที่จะล่ามังกรเป็นปกติเพราะงั้นพวกเธอจะมากลัวตั้งแต่แรกไม่ได้!]
[มีกำลังใจจัง!]
[มีอะไรใหม่ๆเสมอเลย]
[น่าตื่นเต้น!]
“มิลจะต้องต่างออกไปแน่ในเมื่อมิลได้เลี้ยงดูเด็กๆไปบ้างแล้ว”

มิลคือเด็กที่น่าทึ่งจริงๆ มิลไม่ได้เอาจุดเด่นของพวกตัวคนเดียวของยูอิลฮานมาแต่แทนที่สิ่งนั้นด้วยความเป็นผู้นำแย่างไร้ที่ติแล้ว! มิลคือประเภทของคนที่จะไม่มีวันได้เป็นตัวเอกเลยหากเป็นในนิยาย

ในระหว่างยูอิลฮานกำลังโล่งใจอยู่ ยูมิลก็ได้นำทางมังกรทุกๆตนบินตรงไปในที่ที่ศัตรูอยู่แล้ว หลังจากมังกรได้จากไป เฮเรียน่าก็หันหน้ามามองที่ยูอิลฮานที่กำลังซาบซึ้งอยู่ การจ้องมามองคราวนี้ของเธอมันเต็มไปด้วยเศษเสี้ยงความโกรธเล็กๆ

[ที่รัก… ใครอีกแล้วล่ะ?]
“เรื่องนั้นไม่ต้องสนใจหรอกนะไม่ว่าเธอจะมีสิทธิจะถามหรือไม่ก็ตาม แต่นั่นมันไม่ใช่อย่างที่เธอคิด มีมังกรจำนวนมากได้เกิดขึ้นมาในระหว่างที่ดาเรย์กำลังเกิดมหาภัยพิบัติได้นับถือฉันเป็นเหมือนครอบครัวพวกเขานั่นเพราะว่าพลังจ้าวมังกรของฉัน”
[ฟู่วว ดีนะที่ไม่มีคู่แข่งเพิ่มขึ้นมาอีก]

ยูอิลฮานยังได้สร้างข้อจำกัดกับมอนสเตอร์ทั้งหมดที่เป็นนักล่ามังกรด้วย แน่นอนว่านี่มันไม่ใช่เพราะเขากลัวว่ายูมิลจะแพ้มอนสเตอร์ปกติพวกนั้น แต่ว่าเขากลัวว่ามังกรคลาส 4 ที่อ่อนแอจะได้รับบาดเจ็บมากกว่า นี่มันคือการโกง แต่ว่ายูอิลฮานก็อยากจะรักษากองกำลังเอาไว้

“เอาล่ะในเมื่อทำขนาดนี้แล้วหากพวกมังกรยังตายอีกก็ช่วยไม่ได้แล้วล่ะนะ… เอาล่ะถ้างั้นก็”

การก่อสร้างก็เกือบจะเสร็จแล้ว ทั้งหุบเขา รังมังกร และถ้ำ ที่ได้เตรียมเอาไว้ให้มังกรนับล้านได้อยู่กัน เมือง ป่าไม้ ฟาร์ม แล้วก็แม่น้ำสำหรับเหล่าเอลฟ์และหมาป่าได้ใช้ชีวิตอยู่กัน อย่างสุดท้ายเลยก็คือปราสาทที่ยิ่งใหญ่สถานที่สำหรับให้ยูอิลฮานกับพรรคพวกได้พักอาศัย แน่นอนว่าเขาไม่ลืมเตรียมพื้นที่พวกนี้ให้เหมาะกับการต่อสู้ด้วย

“ประกานแกนของป้อมปราการลอยฟ้ากับป้อมปราการผู้พิทักษ์และวงเวทย์เอลโบราณเข้าด้วยกันเพื่อที่จะทำให้ทั้งโลกใบนี้กลายเป็นป้อมปราการใหญ่ยักษ์… หืม ฐานได้วางเอาไว้ เพราะงั้นก็เหลือรอให้สูตรวงเวทย์สมบูรณ์สินะ”
[ใช่แล้ว ฉันชอบที่รักก็เพราะที่รักชอบทำอะไรใหญ่ๆแบบนี้นี่แหละ… แล้วนี่ที่รักกำลังจะทำให้ทั้งโลกใบนี้กลายมาเป็นสิ่งที่คล้ายๆกันกับป้อมปราการลอยฟ้างั้นหรอ?]

จริงๆแล้วนี่มันยิ่งใหญ่เกินกว่าที่เธอจะเข้าใจได้เต็มที่! ในจุดๆนี้ศัตรูของยูอิลฮานจะต้องน่าสงสารแน่ๆ แต่ว่าเฮเรียน่าก็ไม่ได้พูดแบบนั้นออกไป เธอได้เลือกถามเขนแทน

[แล้วที่รักจะเริ่มเมื่อไหร่นล่ะ ถ้าไม่ว่าอะไร… ฉันขอเป็นคนแรกได้ไหม?]
“ไม่ล่ะ เสียใจด้วยนะเลียร่าจะเป็นคนแรก”
[ชิ เอาแต่คิดถึงภรรยาของที่รักตลอดเลย นี่ที่รักชอบผู้หญิงคนนั้นมากขนาดนี้เลยงั้นหรอ ไม่สิชั่งมันเถอะ ยิ่งได้ยินคำตอบก็จะยิ่งเจ็บซะมากกว่า]

ยูอิลฮานได้ลูบผมของเฮเรียน่าที่กำลังผิดหวังนิดๆ เธอดูจะตกใจกับเรื่องนี้มาแต่ไม่นานเธอก็เริ่มหน้าแดงขึ้น

[ที่รักเปลื่ยนไปจริงๆด้วย ที่รักใจดียิ่งกว่าแต่ก่อน… ตอนนี้ที่รักก็คิดถึงฉันแล้วด้วย จริงไหมล่ะ?]
“ก็จริงแหละนะ ฉันยอมรับว่านี่ก็คือฉัน แต่ว่ามันก็แปลกๆ ฉันได้เปลื่ยนแปลงไปเล็กๆทั้งๆที่ฉันรู้ถึงเรื่องนี้”

ในอดีตตอนยูอิลฮานยังเป็นสิ่งมีชีวิตชั้นต่ำอยู่เขามีชีวิตอิสระ แต่ว่าในตอนนี้เขาได้กลายมาเป็นผู้นำดราก้อนเนสไปแล้ว ทุกๆคนในกลุ่มได้ฝากชีวิตไว้กับเขา

มุมมองของเขาได้กว้างยิ่งขึ้นและมาตราฐานของเขาก็ได้กลายเป็นสูงขึ้นเช่นกัน ความรู้สึกของเขาที่มีต่อคนๆอื่นๆได้ลดน้อยลง แต่ว่าสิ่งใดที่อยู่ในสายตาของเขาเขาก็จะคิดเกี่ยวกับมันมากยิ่งขึ้น บางทีนี่อาจจะเป็นผลมาจากคลาสรองผู้นำที่เขาได้รับมาก่อนกลายเป็นสิ่งมีชีวิตชั้นสูงก็ได้

“แต่ว่านี่มันกวนใจฉันอยู่ การเปลื่ยนแปลงนี้ไม่อาจจะป้องกันได้ต่อให้เป็นหัวใจไม่สั่นคอลก็ตาม นี่มันคือเรื่องปกติงั้นหรอ? สิ่งที่ฉันกำลังคิดอยู่จริงๆแล้วคืออะไร?”
[แต่ไม่ใช่ว่าที่รักก็ได้เปลื่ยนไปอยู่ตลอดเวลาอยู่แล้วหรอ การเก็บสะสมบันทึกไปเรื่อยๆ ละสร้างเป็นตัวเองขึ้นใหม่ท่ามกลางบันทึกที่ถูกจัดระเบียบ นี่มันก็แค่การทำกระบวนการนั้นซ้ำอีกครั้งเานั้นเอง ถ้าที่รักปฏิเสธมัน นั่นมันไม่ได้หมายความว่าที่รักปฏิเสธการเกิดใหม่ของตัวเองหรอกหรอ?]

ยูอิลฮานได้ปิดปากลง ถึงแม้ว่าบางครั้งเขาจะลืมเรื่องนี้ไป แต่ว่าเฮเรียน่าที่ได้ใช้ชีวิตมาเป็นหมื่นๆปีเธอไม่เคยจะลืม อย่างในตอนนี้เธอได้ทำให้ยูอิลฮานต้องประหลาดใจกับคำพูดของเธอ เขาได้หยักหน้าเห็นด้วยแต่โดยดี

“ใช่แล้ว เธอพูดถูก ถ้าฉันไม่ยอมรับตัวฉันเอง ถ้างั้นฉันก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะก้าวต่อแล้วล่ะ”
[แล้วก็นะฉันชอบที่ที่รักใจดีกับฉันมากขึ้นด้วย]
“…”

ความรู้สึกที่เขามีต่อเธอได้เพิ่มขึ้นอีกจากการรุกที่กระทันหันนี้ สกิลราซินีซัคคิวบัสยังคงทำงานอยู่สินะ? เขาจะลดการป้องกันลงไม่ได้เด็ดขาด ยูอิลฮานได้ดีดหน้าผากของเฮเรียน่าและหันหน้าปทางอื่น

“หลังจากคนอื่่นๆพักผ่อนพอแล้วก็เรียกให้พวกเขามารวมกัน ฉันจะออกไปสำรวจโลกสักหน่อย”
[ฟุฟุ เข้าใจแล้วที่รัก]

ยูอิลฮานได้บินขึ้นไปบนท้องฟ้า จากการที่เขาได้เชื่อมต่อเข้ากับเกราะร่างมังกรจิตวิญญาณเพลิงกับมังกรทำให้เป็นธรรมดาที่เขาจะสามารถบินได้โดยไม่ต้องใช้มานาเลย ถึงแม้ว่าการจะบินให้เร็วขึ้นจะต้องเรียกปีกเสียงเพรียกแห่งการล่มสลายออกมาก็ตาม

เขาได้ขยายมานาออกไปในสภาพแวดล้อมเพื่อที่จะบันทึกทุกๆอย่างไปพร้อมๆกันกับที่บินไปด้วย

“โฮ่”

“เยี่ยมมาก สิ่งมีชีวิตชั้นสูงนีน่าสนใจจริงๆ”
[ฉันขอแสดงความตกใจกับความคิดของท่านเทพที่คิดว่ากระบวนกรเป็นสิ่งมีชีวิตชั้นสูงเป็นแค่การวิจัยหนึ่ง]
“นายนี่เริ่มกลายเป็นเหมือนโอโรจิแล้วนะ”
[อึก!?]

[ออร่าแห่งเพลิงเต็มโลกนี้ไไปหมดเลย แต่ว่ามันก็กำลังสร้างสมดุลกับน้ำเหมือนกัน โลกใบนี้งดงามจริงๆ!]
“ขอบคุณที่คิดแบบนั้นนะเพลิงนิรันดร์”

[ทุกๆคนร่วมมือกันสิ! ถ้ามีเพลิงแบบนี้แม้แต่ทำให้ข้าวสุกยังไม่ได้เลยนะ! อย่าได้ลืมศักดิ์ศรีในฐานะมังกรสิ!]
[เข้าใจแล้วพี่ชาย]
[เอามานาที่ปะทุอยู่ในคอพวกนายออกมา! สัมผัสถึงหัวใจที่เต้มอยู่และปล่อยมานาที่กำลังรู้สึกอยู่ภายในนั้นออกมา!]

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Everyone Else is a Returnee โดดเดี่ยว 1000 ปี