Everyone Else is a Returnee โดดเดี่ยว 1000 ปี นิยาย บท 320

Everyone Else is a Returnee โดดเดี่ยว 1000 ปี – ตอนที่ 320
บทที่ 320 – ฉันจะเป็นคนปิดม่านครั้งนี้เอง (4)

เมื่อได้เข้ามาในดาเรย์และมองไปที่พื้นที่ที่กว้างใหญ่ของมันทำให้ยูเรียลกับกาเบรียลต้องมีปฏิกิริยาขึ้นมา

[เป็นไปได้ยังไงกัน?]
[นี่ลูกชอบเล่นเดอะซิมงั้นหรอ?]

ยูอิลฮานได้มองดูผู้รอดชีวิตจากไฮเชียที่กำลังเข้ามาสู่โลกดาเรย์และหันหน้าไปตอบกาเบรียลอย่างอารมณ์ดี

“เมื่อก่อนผมก็ชอบนะ แต่ตอนนี้ไม่แล้วล่ะ เกมมันจะสนุกก็ต่อเมื่อมันเป็นเกมเท่นั้น ก็เหมือนเกมขับรถมันสนุกนั่นแหละ แต่การต้องมาขับในถนนรถติดตอนเช้านี่มันต่างกันเห็นๆเลย”
“แต่ว่าลูกก็ไม่เคยเล่นทั้งเกมขับรถหรืการขับรถในช่วงเช้านี่”
“เงียบไปเลยน่า”[พ่อ!]
“อิลฮาน!”

เหล่าคนที่เฝ้ารอคอยเขากลับมาได้วิ่งมาหาเขาทันที ยูอิลฮานได้ลูบหัวของยูมิลและกอดเลียร่าโดยไม่ขวางใดๆ

“ฉันมาสายไปหน่อยสินะ?”
“นายมาสายมากเจ้าบ้า! นายน่าจะพาฉันไปด้วยนะ ทำไมถึงชอบทิ้งฉันเอาไว้ตลอดเลย? แย่ที่สุด”
“ขอโทษนะ”

เลียร่าได้ซุกหน้าของเธออยู่ที่หน้าอกยูอิลฮานอยู่พักหนึ่งถึงจะรู้ตัวว่ามีชายหนุ่มกับหญิงสาวคนอื่นนอกจากโอโรจิกับมิสทิคมากับยูอิลฮานด้วย

“หืม ออร่านี่มัน… ท่านหญิงยูเรียลกับท่านกาเบรียล!? เป็นไปได้ยังไงกัน!?”

“นี่นายฆ่าไปคนหนึ่งแล้วก็จับตัวประกันมาสองคน!?”

ยูอิลฮานได้เขกหน้าผากเลียร่าเบาๆแล้วหันไปพูดกับกาเบรียล

“แล้วร่างมนุษย์ของพ่อล่ะ?”
[ไม่เป็นไรพ่อทำได้ พ่อต้องทำมันเลยใช่ไหม?]

กาเบรียลได้พึมพัมออกมาและหลับตาลง หลังจากนั้นปีกสามคู่บนหลัง วงแหวนที่เป็นเอกลักษณ์รวมไปถึงรัศมีมานาก็ได้หายไปจนหมด

ไม่สิ จะพูดว่าหายไปก็ไม่ถูก นี่มันก็แค่เป็นการซ่อนตัวที่มิดชิดจนไม่มีใครสัมผัสได้เท่านั้น เมื่อมานาได้หายไป ริ้วรอยก็ได้ปรากฏขึ้นบนผิวจนทำให้เขาดูเหมือนกับชายวัยกลางคน

และเป็นธรรมดาที่พลังหายไปทำให้เขาไม่อาจจะอยู่บนท้องฟ้าได้อีก กาเบรียลควรที่จะล่วงลงมาเลยทันที แต่ว่ายูเรียลก็ได้เข้าไปรับเอาไว้ก่อนที่จะเกิดเรื่องแบบนี้… ยังไงก็ตามก่อนที่เธอจะไปถึงตัวกาเบรียลก็ได้มีโล่เอจิสปรากฏขึ้นมารับตัวก่อน ในท้ายที่สุดแล้วเลียร่าก็ได้รู้ถึงตัวตนของชายคนนี้

“…พ่อของอิลฮาน? เมื่อกี้นี้เขายังเป็นท่านกาเบรียลอยู่เลย”
“เขาคือคนๆเดียวกัน โอ้แล้วพ่อก็ยังเป็นหัวหน้าสวนอาทิตย์อัสดงด้วยเหมือนกันนะ”
“เจ้าเศษขยะนั่น?…ห่ะ? อะไรนะ?”

สายตาของเลียร่าได้เต็มไปด้วยความสงสัยจนกาเบรียลต้องหัวเราะออกมาทื่อๆ

“ใช่แล้วฉันเป็นเศษขยะที่ทำให้เธอต้องลำบากอยู่ตลอดเวลาแหละนังหนู ฉันขอโทษด้วยนะ ฮ่าฮ่าฮ่า”
“อ่า… อืมมม…? ท่านกาเบรียลคือพ่อเขยของฉัน? พ่อ?”
“โอ้ พ่อ! นี่เป็นคำที่ดีที่สุดที่ได้ยินเลยนะ? ทำไมไม่ลองเรียกฉันว่าพ่ออีกครั้งล่ะ?”
“พ่อเงียบไปเลย”
“ครับท่าน”
“หา? หาาาาาาาาาาาา?”

สมองของเลียร่าที่พยายามจะทำความเข้าใจกับสถานการณ์ที่เปลื่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วไปพังลงไปทันที ยูอิลฮานได้ลูบคนรักของเขาและหันไปพูดกับกาเบรียล

“พ่อไปหาแม่ก่อนเถอะ ไว้ผมจัดการเรื่องต่างๆแล้วจะตามไป”
“ฮ่าาห์ สงสัยคงจะหลบไม่ได้แล้วสินะ โอเคไม่เป็นไร น่าหดหู่สุดๆไปเลย…”
[กาเบรียล…]

หากว่าคิมเยซอลได้มาเข้าสวนอาทิตย์อัสดงในก่อนหน้านี้ กาเบรียลก็คงจะได้อธิบายทุกๆอย่างให้เธอฟังไปแล้ว แต่เพราะเธอได้ปฏิเสธข้อเสนอไปทำให้เขาต้องอยู่ห่างจากภรรยาโดยไม่ได้มีเวลาไปอธิบายอะไรเลย

ภรรยาของเขายังเป็นคนเอาแต่ใจซะด้วย แต่ว่านี่ก็เป็นเหตุผลที่ทำให้เขาตกหลุมรักเธอทั้งๆที่เขาเป็นหนึ่งในสี่ยอดเทวทูตก็ตาม…. แต่ก็เพราะแบบนี้ถึงได้ทำให้เขากลัวการเผชิญหน้ากับเธอ

ยังไงก็ตามโล่เอจิสที่ยูอิลฮานเรียกมาไม่ได้สนใจความลังเลของเขาเลย มันได้พาเขาไปหาคิมเยซอลในทันที

ยูเรียลที่กำลังจะตามเขาไปได้ถูกยูอิลฮานมองจนต้องถอยกลับมา

“สองในสี่ยอดเทวทูตได้ล่ะทิ้งตำแหน่งแล้ว เรื่องนี้กองทัพสวรรค์ก็น่าจะรู้แล้วเหมือนกันแต่ว่าทำไมเธอถึงไม่ตกลงมาเป็นสิ่งมีชีวิตชั้นต่ล่ะในเมื่อขัดต่อกฏสวรรค์?”
[ก็เพราะคนที่จะเปลื่ยนทำให้ทูตสวรรค์ตกมาเป็นสิ่งมีชีวิตชั้นต่ำก็คือสี่ยอดเทวทูตไงล่ะ]

นี่มันจะโกงไปแล้ว เพราะแบบนี้ไงการโกงถึงไม่เคยหมดไปในแวดวงกรเมือง! ก็เพราะคนบังคับใช้กฏกลับมาโกงกันซะเองทำให้ไม่มีใครมาหยุดได้อีกแล้ว! แต่แน่นอนว่านี่ก็เป็นเรื่องดีสำหรับยูอิลฮาน

[แต่ว่าฉันก็คงสถานะทูตสวรรค์ไปตลอดไม่ได้หรอกนะ ถ้านายไม่ว่าอะไร ฉันก็อยากจะเข้าดราก้อนเนสเหมือนกัน ฉันยังจะคงพลังเดิมของฉันเอาไว้ได้เพราะงั้นนี่ก็ไม่ใช่ข้อเสนอที่แย่เลยนะ]
“นี่เป็นคำแนะนำที่ดีนะ… แต่แล้วพ่อของฉันล่ะ?”
[กาเบรียลก็แค่ต้องโอนพลังทั้งหมดไปที่สวนอาทิตย์อัสดงก็เท่านั้นเอง เมื่อทำแบบนั้นการจะรวบรวมพลังของสวนอาทิตย์อัสดงที่กระจายไปทั่วทั้งดวงดาวต่างๆก็จะเป็นไปได้ นอกจากนี้ก็ไม่มีใครที่จะสามารถขโมยพลั… อ๊าาา]

ยูเรียลที่กำลังทำสีหน้าเต็มไปด้วยความรักในระหว่างอธิบายเรื่องกาเบรียลได้ถอยไปทันทีที่ถูกสายตาของยูอิลฮานจ้องมาอีกครั้ง ยูอิลฮานได้สอบปากคำเธอมากยิ่งขึ้นอีก

“มีอะไรที่เธอทำเพื่อขัดขวางวันสิ้นโลกอะไรนี่ได้ไหม?”
[ทั้งฉันกับกาเบรียลต่างก็ต้องเคลื่อนไหวอย่างถูกจำกัดและต้องหลบซ่อนเอามากๆ ไม่ใช่ว่าพวกเราไม่เคยไปชักจูงคนในกองทัพสวรรค์นะ แต่ว่าคนพวกนั้นส่วนใหญ่ภักดีกับมิคาเอล…]

แน่นอนสิ ถึงแม้ว่ามิคาเอลจะแพ้ยูอิลฮานเพราะธาตุเพลิง แต่ว่ามิคาเอลก็ยังเป็นคนที่ทรงพลังมาที่สุดในกองทัพสวรรค์อยู่ดี มิคาเอลมีทั้งพลังและตำแหน่งในกองทัพสวรรค์อย่างสมบูรณ์ แทนที่ทูตสวรรค์คนอื่นๆจะเลือกทรยศ พวกเขาเหล่านั้นอาจจะเลือกยอมตายแทนซะมากกว่าอีก

หากว่ามีซักวิธีที่จะเปลื่ยนความคิดทูตสวรรค์พวกนั้นได้ นั่นคงจะเป็นการตัดคอมิคาเอลและคิดกับพวกเขาอย่างสงบ แต่ว่า…

“แต่แค่เพราะแบบนั้นฉันฆ่าเขาไม่ได้… ฉันปล่อยมิคาเอลเอาไว้ก็เพื่อให้เขาหยุดยั้งซาตาน เราเชื่อใจซาตานได้ไหม?”
[ในตอนแรกที่เราต่อต้านพระเจ้า ซาตานอยู่ข้างเดียวกับเราแน่นอน ฉันคิดวามันเป็นแบบนั้น… แต่ว่าในตอนนี้ฉันไม่มั่นใจแล้ว บางทีซาตานอาจจะเปลื่ยนไปเหมือนอย่างมิคาเอลกับราฟาเอลก็ได้…]
“อย่างที่ฉันคิดเลย พวกเธอนี่ไม่ได้ช่วยอะไรซักนิด”

ยูเรียลได้เงียบลงไป ยังไงก็ตามยูอิลฮานได้ตกสู่ห้วงความคิดโดยไม่สนใจยูเรียลเลย

อย่างแรกเขาได้เตรียมตัวต่อต้านคนที่เรียกตัวเองว่าพระเจ้า หรือพระเจ้าของสวรรค์เรียบร้อยแล้ว

เขาได้กระจายกับดักแห่งการฟื้นคืนไปทั่วในทุกๆโลกระดับต่ำที่เขาเคยไปมาอย่างน้อยหนึ่งครั้งแล้ว และเขากระทั่งทำให้กับดักแห่งการฟื้นคืนในโลกต่างๆรุกล้ำเข้าไปในมิติอื่่นๆได้อีกด้วย เพราะงั้นคงใช้เวลาไม่นานนักที่กับดักแห่งการทำลายทั้งหมดจะหายไปจากโลกระดับต่ำ แน่นอนว่าเขาจะทำแบบนี้ในโลกระดับสูงเช่นเดียวดัน แม้ว่าจะอยู่ในระหว่างการทำมัน แต่มันก็ราบรื่นมาตลอด

สิ่งต่อมาที่เขาต้องระวังก็คือกองกำลังสิ่งมีชีวิตชั้นสูงที่ไม่สนเรื่องที่พระเจ้าจากสวรรค์ทำเลย พวกคนที่เคลื่อนไหวด้วยความคิดที่ว่า ‘เอิร์ธสำคัญกับตัวเองเท่านั้น’

การปะทะกับกองทัพสวรรค์มีแน่นอนเพราะกองทัพสวรรค์ได้ทำเหมือนยูอิลฮานเป็นศัตรูตัวฉกาจไปแล้ว ส่วนกองทัพสวรรค์แสงคงต้องรอดูก่อนเพราะยูอิลฮานไม่รู้เลยว่าพวกนั้นกำลังคิดอะไรอยู่ และมีเรื่องดีอยู่อย่างหนึ่งคืนสวนอาทิตย์อัสดงดูจะกลายมาเป็นพันธมิตรแล้วเพราะกาเบรียลที่เป็นคนนำพวกเขาเหล่านั้น…

“ยูเรียล กองทัพปีศาจวิบัติจะเคลื่อนไหวไหม? พ่อไม่ได้บอกอะไรเลยหรอ?”
[ก็อย่างทีเรารู้กัน ทุกๆสิ่งที่พวกกองทัพปีศาจวิบัติคิดก็มีแต่การทำลายทุกๆอย่าง เพราะแบบนั้นพวกกองทัพปีศาจวิบัติคือสิ่งมีชีวิตที่อันตรายที่สุดเช่นกัน ไม่ใช่เพียงแค่ผู้บัญชาการกองพันและกองกำลังที่มหาศาลเท่านั้น แต่สิ่งที่น่ากลัวที่สุดเลยคือหัวหน้าของพวกมัน ความโลภ เดิมทีแล้วซาตานกับกาเบรียลต่างก็มาจากกองทัพสวรรค์กันทั้งนั้น แต่มีแค่ความโลภเท่านั้นที่ก่อตั้งองค์กรขึ้นมาเองหลังจากได้เข้าไปถึงพลังของเทพด้วยตนเอง]

“ไปบุกหาแร่โลหะชั้นสูงที่สวรรค์กัน”
[นายพูดเรื่องน่าทึ่งแบบนี้ออกมาได้ยังไงกัน]
“หลังจาสกนั้นฉันจะได้ทำกับดักแห่งการฟื้นคืนแล้วก็ไปขโมยโลกระดับสูงจากกองกำลังอื่นๆ”
[นี่นายคือที่จะก่อวันสิ้นโลกขึ้นมาเองงั้นหรอ?!]

“ใช่แล้ว ฉันไม่ชอบการถูกโจมตี ทุกอย่างของการต่อสู้ขึ้นอยู่กับการโจมตีครั้งแรก”
“ฉันชอบมัน ทุกอย่างของการต่อสู้ขึ้นอยู่กับการโจมตีครั้งแรก”

“คุณคิดจะไปไหนกัน? นี่มันเพิ่งจะเริ่มเท่านั้นเอง!”
“ที่รัก ขอร้องล่ะเบามือหน่อยนะ เบาๆ… แอ๊ก!”

“สิ่งที่ฉันได้ยินกับได้เจอนี่มันคือเรื่องจริง จริงๆน่ะหรอ?”
“หากว่าเธอกำลังพูดถึงเรื่องพ่อของฉันที่เป็นทั้งกาเบรียลแล้วก็หัวหน้าสวนอาทิตย์อัสดงล่ะก็ นั่นมันคือเรื่องจริงนั่นแหละ”
“ว่าไงนะ!? เขายังเป็นหัวหน้าสวนอาทิตย์อัสดงด้วย!?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Everyone Else is a Returnee โดดเดี่ยว 1000 ปี