ขณะที่กองทัพจรัสแสงกับสวนอาทิตย์อัสดงกำลังทำสงครามในระดับที่ไม่เคยมีมาก่อน กองทัพสวรรค์กับกองทัพปีศาจวิบัติก็กำลังมีการต่อสู้ที่รุนแรงกันอยู่
น่าแปลกที่สถานการณ์นี้มันดีกับมิคาเอลที่เพิ่งจะกลายมาเป็นระดับเทพคนใหม่อย่างมาก
[มองนายที่ไรฉันรู้สึกอึดอัดเสมอเลย]
ทุกๆครั้งที่หอกแสงมิคาเอลเปล่งประกายออกมา นักล่านับร้อยนับพันก็จะสูญเสียพลังไป นี่มันมากยิ่งกว่าแค่การป้องกันสวรรค์แล้ว ทูตสวรรค์กระทั่งบุกรุกข้ามไปอีกฝั่งของกำแพงแห่งความโกลาหล เข้าสู่เอลโลคาทร่าแล้ว
[พวกหนอนแมลงน่าเศร้า ที่แมลงที่ตอมสวรรค์จนถูกแสงหลอมละลายและหายไปซะ!]เหล่าคนที่ยอมรับในตัวมิคาเอลในฐานะพระเจ้าได้มีมากขึ้น ในขณะเดียวกันเหล่าคนที่ไม่ยอมรับในตัวมิคาเอลก็ยังมีอยู่แต่ว่าคนเหล่านี้ก็ไม่ได้เลือกติดตามยูอิลฮาน พวกเขาเลือกที่จะอยู่ปกป้องสวรรค์ พวกเขาไม่ต่างอะไรไปจากสุนัขเฝ้าบ้านที่เฝ้าหลุมศพเจ้านายเลย
ยังไงก็ตามมิคาเอลก็คิดว่าแบบนี้ก็ดีแล้วเหมือนกัน ตราบใดที่คนเหล่านั้นยังเลือกอยู่่สวรรค์และตราบใดที่มิคาเอลกลายเป็นผู้ปกครองสวรรค์ ในท้ายที่สุดแล้วคนเหล่านี้ก็ทำได้แต่ยอมรับในตัวเขาเท่านั้น!
มิคาเอลได้สวรรค์มาแล้ว เขาจะยืนหยัดเหนือยิ่งกว่าใครๆ กลายไปเป็นพระเจ้าที่สมบูรณ์แบบและทำให้ทุกๆคนต้องคุกเข่าต่อหน้าเขา เป้าหมายแรกที่จะทำเพื่อทำตามแผนนี้ให้สำเร็จก็คือการกำจัดกองทัพปีศาจวิบัติให้หมดก่อนเป็นอย่างแรก
[เหล่าผู้ล่าที่น่าสงสาร พวกนายมันก็มีแต่ทำลายและกลืนกินกันเอง ไร้ซึ่งประโยชน์ใดๆทั้งสิ้น พวกหนอนแมลงไร้ค่า]แสงสว่างได้กระจายออกไปในทุกๆครั้งที่มิคาเอลพูดออกมาและในทุกๆครั้งที่แสงกระจายออกไปก็จะมีเสียงร้องของนักล่าดังออกมา
ยังไงก็ตามสำหรับมิคาเอลแล้วเสียงร้องเหล่านี้ก็เหมือนกับเสียงของมดเท่านั้น คงไม่มีใครที่จะเดินพยายามหลบมดทุกตัวหรอกจริงไหมล่ะ? จะมีซักกี่คนกันที่ไปสนใจเสียงหมดและปกป้องมดพวกนี้? สำหรับมิคาเอลแล้วพวกนักล่าพวกนี้ก็เป็นแค่อุปสวรรค์ที่น่ารำคาญและเขาก็แค่ลบพวกมันออกทั้งหมดก็แค่นั้น
[อย่ามาขวางทางฉัน หากมีตาก็ควักมันออกมา หากมีหัวใจก็ระเบิดตัวตายไปซะ หากมีเหตผลก็หยุดใช้งานมันไปซะ หากรู้สึกถึงฉันหรือหากมองเห็นฉันก็อย่าได้สะเออะมาอยู่ต่อหน้าฉัน]
มิคาเอลในปัจจุบันได้เป็นแบบนี้ไปแล้ว แม้ว่าเขาจะเพิ่งพ่ายแพ้ยูอิลฮานอย่างอัปยศ แต่ว่าเขาก็ได้ระบายความแค้นออกมาใส่กองทัพปีศาจวิบัติที่อ่อนแอกว่าแทน!
[ท่านมิคาเอลมีพลังมากมาย เราไม่ได้เลือดผิด ท่านมิคาเอลได้กลายเป็นพระเจ้าองค์ใหม่แล้วจริงๆ]ทูตสวรรค์ที่ยังกังขาในตัวมิคาเอลก็ไม่มีทางอื่นให้เลือกนอกจากยอมรับในพลังของมิคาเอล ในตอนที่มิคาเอลได้เสียเปรียบยูอิลฮานในครั้งนั้น พวกเขาก็คิดว่าพวกเราเจอกับหายนะแล้ว แต่แล้วมิคาเอลก็ได้แสดงพลังของตัวตนสูงสุดออกมาในเอลโลคาทร่า
[พาหัวหน้าความโลภของพวกแกมา ลากเจ้าสัตว์น้ายที่กล้ากินสวรรค์ออกมาซะ ลากมันออกมาที่นี่!]กองทัพปีศาจวิบัติไม่อาจจะทนต่อการยั่วยุของมิคาเอลเงียบๆได้เลย คนแรกที่เข้ามาเผชิญหน้ากับมิคาเอลตรงๆคือผู้บัญชาการกองพันที่ 10 เมโลฮิเน่! หากเป็นคนที่มีระดับต่ำกว่าผู้บัญชาการกองพันจะไม่อาจหยุดมิคาเอลได้แต่วินาทีเดียวเลย มิคาเอลได้ล้อเลียนเธอโดยไม่ยอมถอยแม้แต่นิดเดียว
[‘ท่านเทพ’ นี่เธอจะบอกว่าสัตว์ป่านั่นเป็น ‘ท่านเทพ’ เธอนี่มันช่างเป็นสิ่งมีชีวิตชั้นต่ำจริงๆเลย จริงสิ คงมีแต่ร่างกายใหญ่ยักษ์ของเธอสินะถึงพอจะทำให้ความโลภนั่นพึงพอใจได้?]แสงจากตัวมิคาเอลได้ขยายออกมาปกคลุมเมโลฮิเน่เอาไว้แล้ว เธอได้พยายามจะปล่อยพลังงานไอเย็นทั้งหมดออกมาป้องกันแสงสว่างเอาไว้ แต่ว่าเมื่ออยู่ต่อหน้าแสงสว่างแห่งดวงอาทิตย์น้ำแข็งจากตัวเธอมีแต่ละเหยกลายไปเป็นไอน้ำเพียงเท่านั้น
[อ๊าา แก… อึก…!]ในท้ายที่สุดเธอก็ไม่อาจจะทนจนพูดคำสุดท้ายจบ เธอได้ถูกทำลายกลายเป็นไอหายไปเหมือนกับหมอก นี่คือราคาของผู้ที่มาสู้กับมิคาเอลอย่างไร้ความกลัวทั้งๆที่เป็นฝ่ายเสียเปรียบในด้านธาตุ มิคาเอลได้มั่นใจในพลังของเขาที่สามารถจะเอาชนะคนอื่นได้และกลายเป็นหยิ่งยโสมากยิ่งขึ้น
[ต่อไปใครกันล่ะ? ใครกันที่จะมาเห่าใส่ฉันเป็นคนต่อไป? หรือจะเป็นความโลภล่ะ? นายได้ยินทุกๆคำที่ฉันพูดนี่จริงไหมล่ะ?]
ยังไงก็ตามมีบอสที่ไหนกันจะปรากฏตัวหากยังมีลูกน้องอยู่? ถึงแม้ว่าจะมีการตายของเมโลฮิเน่ที่ตายไปต่อหน้า แต่กองทัพปีศาจวิบัติก็ยังยึดมั่นในเส้นทางของตัวเอง พวกมันยังคงต้องการแต่การทำลายทั้งนั้นทำให้พวกมันยังคงโจมตีต่อไป
[นายมันโอหังเกินไปทูตสวรรค์!]น้ำเสียงน่าขนลุกได้ดังขึ้นมาทำให้ซากศพทหารกองทัพปีศาจวิบัติที่ตายไปแล้วได้ระเบิดออกมาโจมตีทูตสวรรค์
มิคาเอลได้ป้องกันการโจมตีนี้ได้ง่ายๆ แต่ว่าทูตสวรรค์คนอื่นๆที่ตามมิคาเอลมาไม่ได้เป็นเหมือนเขา การโจมตีนี้ได้ถูกวางแผนเวลามาอย่างพอดีทำให้มีการบาดเจ็บล้มตายเกิดขึ้นก่อนที่มิคาเอลจะได้สร้างบาเรียกระจายไปทั่วถึงทูตสวรรค์ทั้งหมด ที่เป็นแบบนี้ก็เพราะว่าบูเมอร์รอลได้เล็งไปที่ทูตสวรรค์คนอื่นๆแต่แรกแล้ว
[คิก คิกคิกคิก! ไร้ปราณีจริงๆเลย ไม่สนใจแม้กระทั่งพวกเดียวกัน นายมันทั้งโง่เขลา ป่าเถื่อน หยาบคาย จริงสิ นายกำลังผลักดันตัวเองให้หลุดจากตัวตนเก่าอยู่สินะ คุณทูตสวรรค์มิคาเอล!]
มิคาเอลได้กัดฟันแน่นเมื่อได้เห็นผู้บัญชาการกองพันที่ 5 บูเมอร์รอลได้ปรากฏตัวขึ้นมาท่ามกลางฝนโลหิต
[ฉันบอกว่าฉันไม่ใช่ทูตสวรรค์!]ไม่ใช่แค่บูเมอร์รอลเท่านั้นที่มา แต่ยังมีผู้บัญชาการกองพันที่ 4 เทลไซเดอร์ ผู้บัญญาการกองพันที่ 6 เบลคาทู ผู้บัญชาการกองพันที่ 8 เซนูว่า และผู้บัญชาการกองพันทั้งหมดที่เหลือรอดอยู่ได้มารวมตัวกันขวางทางมิคาเอลเอาไว้ ทูตสวรรค์จำนวนน้อยที่ยังเหลือรอดอยู่กับมิคาเอลก็ยังก้าวหน้าขึ้นมาเผชิญหน้ากับผู้บัญชาการกองพันเหล่านี้
[แล้วอะไรที่ทำให้นายหัวเราะกันล่ะ? การขวางทางนายนั่นมันหมายความว่าจะถูกทำลายยังไงล่ะ หากว่าจะพวกเราสนุกงั้นพวกเราก็ควรจะทำสีหน้ายังไงกันล่ะ?]
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Everyone Else is a Returnee โดดเดี่ยว 1000 ปี