Everyone Else is a Returnee โดดเดี่ยว 1000 ปี นิยาย บท 338

Everyone Else is a Returnee โดดเดี่ยว 1000 ปี – ตอนที่ 338
บทที่ 338 – วันสิ้นโลก (14)

ยูอิลฮานได้ตัดสินใจเริ่มวิเคราะห์องค์ประกอบร่างราฟาเอลก่อน ในขั้นตอนการรับยูเรียลเข้ามาในดราก้อนเนสยูอิลฮานก็ได้รู้ข้อมูลเกี่ยวกับขอบเขตของพลังพระเจ้ารวมไปถึงข้อมูลในตัวสี่ยอดเทวทูตจำนวนมาก แต่ในท้ายที่สุดยูเรียลก็ได้กลายมาเป็นมังกรก่อนที่เขาจะดึงข้อมูลมาได้จนหมด บันทึกที่เขาได้มาจากเธอจึงยังไม่ได้สมบูรณ์

“ยังไงก็ตามราฟาเอลได้ตายไปในฐานะเทวทูต พ่อของฉันได้ล่ะทิ้งตำแหน่งสี่ยอดเทวทูตไปนานแล้ว ส่วนมิคาเอลก็ได้ก้าวข้ามไปสู่ระดับเทพแล้ว เพราะงั้นสมาชิกที่ยังเป็นสี่ยอดเทวทูตอยู่ก็เหลือแค่ราฟาเอล”
“แต่ในแง่ศักยภาพเขาคือคนที่ด้อยที่สุด”

เลียร่าได้เสริมขึ้นมา ยูอิลฮานได้หยิบเอาอุปกรณ์ออกมาด้วยรอยยิ้มแห้งๆ

“เอาล่ะมาเริ่มวิเคราะห์กันเถอะ”

ปีก ผิวหนัง สมอง กล้ามเนื้อ กระดวก – ยูอิลฮานได้ชำแหละทุกๆส่วนออกมาอย่างสมบูรณ์และประณีตถึงขีดสุด ภาพนี้มันดูคล้ายกับฆาตกรโรคจิตอย่างมาก ในท้ายที่สุดยูอิลฮานก็ได้ข้อสรุปออกมา

“หมอนี่ก็สูญเสียไปเหมือนกัน”
“สูญเสียอะไรหรอ?
“เขาแทบจะไม่มีพลังพลังในฐานะของสี่ยอดเทวทูตเลย หากเอาเขาไปเทียบกับยูเรียลก่อนเธอจะกลายมาเป็นมังกร ราฟาเอลแทบจะอ่อนแอกว่าสองขั้นใหญ่ๆเลย”
“มันไม่ใช่ว่าเพราะเขาตายหรอ?”
“ไม่”

ยูอิลฮานจำได้ว่าความพิเศษของราฟาเอลคือการรักษา เขามีพลังในการฟื้นฟูตัวเองที่น่าทึ่งมากรวมไปถึงพลังในการรักษาคนอื่นๆด้วย ในตอนเขาได้รักษามิคาเอล เขาครอบครองในพลังที่มหาศาลอย่างแน่นอน แต่ว่า…

“เขาถูกฉันฆ่าเอาง่ายๆ”
“มันไม่ใช่ว่าเพราะนายแกร่งเกินไปหรออิลฮาน?”
“สี่ยอดเทวทูตคือคนที่ขโมยพลังพระเจ้ามา พวกเขาควรที่จะอยู่ในระดับที่แกร่งกว่าหัวหน้ากองพันของกองกำลังอื่นๆอย่างสิ้นเชิงสิ”

ยังไงก็ตามราฟาเอลได้ตายไปอย่างไร้ค่ายิ่งกว่าหัวหน้ากองพันคนอื่นๆอีก เขาได้ตายไปในทันทีด้วยวิถึไร้ขอบเขตของยูอิลฮาน

ยังไม่ใช่แค่นั้น เขาไม่ได้ตายคนเดียวแต่ยังตายไปพร้อมๆกับหัวหน้ากองพันที่หนึ่ง เครสเช่นแห่งกองทัพปีศาจวิบัติ

“พลังราฟาเอลได้ถูกส่งไปให้กับมิคาเอลก่อนที่เขาจะถูกฉันฆ่า ฉันมั่นใจแล้ว ที่นี่มีร่องรอยเหลืออยู่”
“เพราะงั้นมิคาเอลก็เลยได้กลายเป็นระดับเทพง่ายๆสินะ?”
“หากว่าเขาไม่มีคุณสมบัตินั่นมันก็คงจะเป็นไปไม่ได้เลย แต่ว่า อืมมม…”

ยูอิลฮานได้คิดอยู่ครู่หนึ่ง มีความคิดมากมายเข้ามาในหัวของเขา

“ฉันได้ทำการตอบโต้มิคาเอลหรือใครก็ตามที่อยู่เบื้องหลังเขาไปแล้ว แต่ว่าฉันคิดว่าตอนนี้ฉันได้อาวุธใหม่แล้ว”
“…นี่นายเพิ่งจะคิดอะไรได้ใช่ไหม?”
“ไม่ใช่ว่าที่รักบอกว่าราฟาเอลได้มอบพลังของเขาให้กับมิคาเอลไปแล้วหรอ? ตอนนี้ร่างของเขาก็น่าจะกลายเป็นแค่เปลือกเปล่าๆแล้วนี่?”
“ไม่หรอก เฮเรียน่า ฉันไม่ได้บอกซะหน่อยนี่ว่าราฟาเอลเต็มใจส่งพลังที่เขามีไปให้มิคาเอล ฉันแค่บอกว่าพลังของราฟาเอลถูกส่งไปให้มิคาเอลเท่านั้นเอง”
“หืมม? อืมม…!”

เฮเรียน่ารู้ได้ทันทีว่าเขาสื่อถึงอะไร

“มิคาเอลขโมยพลังไปงั้นหรอ?”
“ใช่แล้ว มันไม่แปลกหรอกที่เธอจะไม่รู้เพราะเธอไม่ได้อยู่ที่นั่น แต่ว่าก่อนที่ราฟาเอลจะเข้ามาสู้กับฉัน มีอยู่ช่วงเวลาสั้นๆที่ราฟาเอลได้รักษามิคาเอล และในต่อจากนั้นมิคาเอลก็พุ่งเข้ามาใส่ฉันทันที ส่วนมิคาเอลก็ได้แกล้งทำเป็นรั้งราฟาเอลเอาไว้”
“แสร้งรั้งเขาไว้? นี่นายหมายความว่า…”
“มิคาเอลได้แค่ใช้คำพูดบอกให้หยุดเท่านั้น แต่หากว่าเขาอยากจะหยุดราฟาเอลเอาไว้จริงๆ ถ้างั้นเขาก็ควรจะเข้าไปหยุดเลยสิ”

พวกเธอพูดไม่ออกแล้ว นี่มันคือเรื่องจริง!

“ในตอนนั้นฉันก็ไม่ได้คิดอะไรมากเพราะว่าฉันไม่ได้สนใจราฟาเอล แต่ว่าราฟาเอลได้แสดงสีหน้าราวกับว่าเขาไม่มีทางตายในที่แบบนั้น มันเป็นความมั่นใจในตัวเองและพลังของเขา แต่แล้วยังไงล่ะ เขาได้ตายจากวิถีไร้ขอบเขตของฉันในทีเดียวยังไงล่ะ เพราะอะไรกัน นั่นมันก็เพราะเขาได้เสียพลังในการรักษาไปแล้วยังไงล่ะ ฉันยังจำคำพูดสุดท้ายของเขาได้อยู่เลย [อ่า ได้ยังไงกัน] [เป็นแบบนี้ได้ยังไงกัน นี่ฉันถูกทรยศ ฉันไม่น่าไว้ใจไอ้สารเลวนั่นเลย!] หรืออะไรทำนองนี้นี่แหละ”

ราฟาเอลน่าจะเชื่อใจมิคาเอลเอามากๆ แต่ว่ามิคาเอลก็ได้ทรยศเขาและกระทั่งขโมยพลังของเขาไปอีกด้วย มิคาเอลน่าจะรู้ถึงอะไรบางอย่างได้ในตอนที่ยูอิลฮานกลายมาเป็นระดับเทพและเตรียมการบางอย่าง เพราะอย่างนั้นมิคาเอลก็เลยขโมยพลังของราฟาเอลมา!

“เดี๋ยวสิที่รัก ฉันเข้าใจแล้วนะว่ามันเป็นแบบนั้น”

เฮเรียน่าก็ยังคงมีคำถามอยู่

“แต่นั่นมันก็ไม่ได้เปลื่ยนความจริงที่ว่าศพราฟาเอลในตอนนี้เป็นแค่เปลือกที่ว่างเปล่านี่ แล้วที่รักกำลังจะใช้เปลือกนี่ทำอะไรกันล่ะ?”
“ส่วนที่สำคัญที่สุดคือร่างกายดั้งเดิม ฉันคิดว่าเธอคงจะยังไม่รู้นะ แต่ว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดในอาร์ติแฟคมากยิ่งกว่าฟังก์ชั่นคือ ‘ประวัติของมัน’”
“ขอโทษนะ แต่ว่าในศาสตร์การสร้างฉันไม่รู้อะไรเลย”
“เยี่ยม ถ้างั้นฉันจะใช้คำพูดที่ต่อให้เป็นเด็กประถมก็เข้าใจแล้วกัน

ยูอิลฮายนได้หยิบเอาลูกตาราฟาเอลออกมาด้วยรอยยิ้มสดใส

“ในตอนที่เขากำลังจะตายไปทั้งๆที่รู้ว่าทุกๆอย่างถูกขโมยไปเขาจะคิดยังไงกันล่ะ?”
“เขาก็คงจะมีความแค้นอยู่ภายในใจ”
“ไม่ใช่แค่นั้นหรอกนะ”
“ฉันอยากจะฆ่าทุกๆอยาง”
“คล้ายๆกันแต่ก็ไม่ใช่”

นั่นมันธรรมดาไป! หลังจากเลียร่าได้ตอบคำตอบที่ไม่ถูกต้องออกมามากมาย สุดท้ายแล้วคนที่ตอบถูกก็คือเฮเรียน่า

“ฉันอยากที่จะแก้แค้นด้วยวิธีเดียวกัน”

รอยยิ้มได้ปรากฏขึ้นมาบนริมฝีปากของยูอิลฮานหลังจากได้ยินคำตอบนี้ นี่คือคำตอบที่เหมือนกับกองทัพปีศาจวิบัติที่สุดแล้ว และในเวลาเดียวกันก็เป็นคำตอบที่เป็นมนุษย์ที่สุดเช่นกัน

“นั่นแหละ ตอนนี้พวกเธอก็คงจะรู้ถึงสิ่งที่ฉันจะทำแล้วสินะ”
“ใช่ ฉันเข้าใจแล้ว มันจะต้องกลายเป็นอาวุธที่ยอดเยี่ยมแน่นอน”
“ให้ตายสิ ความคิดนายนี่มันน่ากลัวจริงๆ”
“เมื่อคนเราเกือบจะตายและกำลังจะตาย มันก็เป็นปกติที่จะเกิดความคิดน่ากลัวแบบนี้ขึ้นมา”

ยูอิลฮานได้แยกส่วนที่ไม่จำเป็นและส่วนที่ไร้ความทนทานออกมาจากร่างราฟาเอลและละลายพวกมันไป ในขั้นตอนนี้จะทำให้เพลิงผสานเข้ากับวัตถุดิบและยกระดับขึ้นไป

“เอาล่ะตอนนี้เรามีไฟกับวัตถุดิบแล้ว เพราะงั้นฉันน่าจะเริ่มได้แล้ว”
“แล้วทั่งตีเหล็กกับค้อนล่ะ?”
“ฉันไม่ต้องใช้ของพวกนั้นอีกแล้ว”

ยูอิลฮานได้หัวเราะออกมาและเปิดใช้งานสกิลการสร้าง

[เปิดใช้งานการสร้าง กำลังทำตามเป้าหมายที่คุณต้องการให้สำเร็จ]

การสร้างเป็นทั้งการรวมเอาชีวิตกับวัตถุดิบที่ซึ่งองค์ประกอบเข้าด้วยกัน และเนื่องจากยูอิลฮานไม่ได้อ่อนแอเหมือนกับตัวเขาเมื่อก่อนแล้วทำให้เขาไม่จำเป็นต้องลองใส่วิญญาณเข้าไปในทุกๆครั้งที่เขาสร้างอะไรซักอย่าง

ยังไงก็ตามตอนนี้ยูอิลฮานก็มีวิญญาณที่เหมาะสมกับอาวุธนี้อยู่

ราฟาเอลงั้นหรอ? แน่นอนว่าเพราะพลังของเขาถูกขโมยไป เขาจึงโกรธแค้นมิคาเอล แต่ว่าสิ่งที่เขาโกรธแค้นมากที่สุดเลยก็คือคนที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ในครั้งนี้

ยูอิลฮานได้สูดหายใจเข้าลึก… และตั้งใจเรียกชื่อเธอออกมา ชื่อของคนที่ซื่อย์ตรง ดีงาม งดงาม รวมไปถึงน่าเศร้าด้วยเช่นกัน

“สเปียร่าเธอตื่นอยู่ไหม?”
“…อิลฮาน เมื่อกี้นายว่ายังไงนะ?”
“ที่รัก?”

เลียร่ากับเฮเรียน่าที่ได้ยินเสียงของเขาได้เบิกตากว้างขึ้นมาทันที พวกเธอตกใจมากจนคิดว่าพวกเธอได้ยินผิดไป

“นี่นายหมายถึงสเปียร่าน่ะหรออิลฮาน อย่าบอกนะว่า…?”
“ใช่แล้ว”

หลังจากยูอิลฮานได้ต่อสู้และฆ่าสเปียร่าลงไป ยูอิลฮานก็ไม่เคยได้ยินคำว่า ‘สเปียร่า’ อีกเลยแม้แต่ครั้งเดียว นั่นมันเพราะเขารู้ว่าเขาต้องฆ่าเธอ แต่เขาก็อึดอัดใจมากที่ต้องฆ่าเธอด้วยตัวเอง ในทุกๆครั้งที่เขาคิดถึงเธอ เขาถึงขนาดรู้สึกว่าเขากำลังเผชิญหน้ากับความไร้มนุษยธรรม ความเย็นชา และความไร้ปราณีในตัวของเขาเอง

คนอื่นๆก็ไม่ได้พูดชื่อนี้ออกมาเพราะเป็นห่วงเขาเช่นกัน เพราะงั้นการมาได้ยินชื่อนี้ในตอนนี้จึงเป็นเรื่องยากที่จะเชื่อ

“นายมีจิตวิญญาณของสเปียร่า?”
“ฉันได้วิญญาณมากกว่าครึ่งของเธอมานะเฮเรียน่า นี่เธอคิดว่าฉันจะไม่ได้วิญญาณของสเปียร่ามางั้นหรอ?”
“ฉันคิดว่านายไม่ได้มาซะอีก”
“นี่เธอกำลังพูดอะไรอยู่กัน”

ดูเหมือนว่าคนอื่นๆจะยังไม่รู้ว่าพลังที่ยูอิลฮานมีในฐานะยมทูตเป็นแบบไหน ยูอิลฮานได้หัวเราะออกมาและแก้ไขความเข้าใจผิดของเธอ

“ทุกๆการจบชีวิตชีวิตหนึ่งจะมีความรับผิดชอบที่ไม่อาจเลี่ยงได้ตามมา สำหรับคนอื่นๆแล้วนี่อาจจะเป็นการทิ้งความรู้สึกผิดบาปเอาไว้ในใจ แต่สำหรับฉันการรับผิดชอบการฆ่าหลังจากผ่านมาถึงจุดๆหนึ่งก็คือ… วิญญาณ”
“อิลฮาน คำพูดนี่มัน…”

ดวงตาเลียร่ากำลังสั่นไหว ยูอิลฮานได้ยิ้มอย่างไร้ปราณีและพูดให้จบ

“การไม่รับมามันเป็นไปไม่ได้ ทุกๆชีวิตได้อยู่กับฉันตรงนี้ พวกเขาทุกๆคนอยู่ร่วมกันกับฉัน”
“ที่รัก…”

สิ่งมีชีวิตชั้นสูงทั้งสองคนพูดไม่ออกกันแล้ว และตอนนี้เองก็ได้มีเสียงดังชัดขึ้นมาที่หูยูอิลฮานราวกับรอคอยเวลานี้มานาน

[ฉันตื่นอยู่นานแล้วยูอิลฮาน หลังจากที่ฉันถูกนายจัดการ ฉันก็ไม่เคยหลับตาเลยแม้แต่ครั้งเดียว และก็ไม่เคยปิดหูลงแม้แต่เสี้ยววินาที]

น้ำเสียงนี้เลียร่ากับเฮเรียน่าก็ได้ยินเช่นกัน ทั้งสองคนต่างก็เงียบอยู่เช่นเดิม มีแค่ยูอิลฮานเท่านั้นที่ตอบกลับไป

“เธอไม่ยอมเรียกฉันสักครั้งเลยงั้นหรอ?”
[ฉันได้พยายามล่ะออกมาจากสวรรค์เพื่อพยายามจะสอนหอกนาย ในอดีตนายได้ปฏิเสธมัน และจากนั้นนายก็ได้ประสบความสำเร็จในระดับที่สูงยิ่งกว่าฉัน เพราะงั้นฉันไม่ได้มีอะไรที่ผูกมัดตัวฉันเอาไว้กับนายอีกแล้ว นอกไปจากนี้… ฉันก็ไม่อยากจะเป็นภาระให้กับนายที่ต้องแบกรับแรงกดดันมหาศาลอยู่แล้วด้วย]
“เธอนี่เป็นคนใจดีจังเลยนะ”
[จะเรียกฉันว่าโง่แทนก็ได้]

ทั้งสองคนได้คุยกันราวกับว่าพวกเขาไม่เคยสู้แลกชีวิตกันมาก่อนเลย ในมุมมองคนอื่นบางทีนี่มันอาจจะแปลก แต่ว่านี่แหละคือความสัมพันธ์ที่มีระหว่างทั้งสองคน ต่อให้เธอจะตายไปแล้วมันก็ไม่ได้เปลื่ยนอะไรไป

[แต่นายเป็นคนเรียกฉันออกมาก่อน เพราะงั้นฉันก็เลยต้องมาเจอกับนาย การที่นายหลีกหนีไปจากทุกๆอย่างที่นายทำพลาดไปก็เพราะกลัวสายตาคนอื่นที่มองมา และในตอนนี้ที่นายได้ไตร่ตรองถึงการกระทำทั้งหมด ยอมรับในความผิดพลาดทั้งหมดนั่นพร้อมทั้งเลือกก้าวต่อไป]
“เธอพูดถูกหมดเลย… จริงๆแล้วฉันคิดว่าฉันทำผิดต่อเธอเยอะมากเลย ฉันขอโทษนะ”
[สำหรับฉันก็เหมือนกัน ฉันมักจะบังคับให้นายมองเหมือนกับฉันและไม่ยอมฟังนายเลย ฉันขอโทษ]

“ทุกๆอย่างยังไม่ถูกเผยออกมา บางทีการเรียกเธอออกมานี้อาจจะทำให้เธอต้องลำบากมากกว่าเดิม แต่ไม่ว่ายังไงฉันก็อยากจะให้เธอได้ยืนยันด้วยสายตาตัวเอง ฉันอยากที่จะตอบแทนเธอที่สอนวิชาหอกให้กับฉัน”
[ในตอนนี้นายได้กลายมาเป็นคนที่มองย้อนกลับมาข้างหลังเป็นแล้ว แต่ไม่ว่ายังไงมันก็มีผลข้างเคียงอยู่ นายได้เริ่มกลายมาเป็นคนที่สนใจกับทุกๆคนรอบตัวนายมากเกินไป ระวังเอาไว้ให้ดี ผู้หญิงอาจจะเข้าใจผิดตกหลุมรักนายเอาได้นะ]

[ฉันอยากที่จะบดขยี้พวกมันเป็นชิ้นๆจนตายไป]
“ถ้างั้นฉันได้ตัดสินใจที่อยู่ ‘ชั่วคราว’ ของเธอได้แล้ว”
[ด้วยความยินดี]
“เยี่ยม ดีใจที่ได้ยินแบบนี้นะ”

“หากว่าฉันต้องการ ฉันก็สามารถจะสร้างวิญญาณตั้งแต่เริ่มได้ แต่ว่าฉันยังไม่เข้าใจถึงแก่นแท้ของวิญญาณอย่างสมบูรณ์ ถึงฉันจะพอข้าใจอยู่บ้างแต่มันก็คลุมเครือ จุดหลักคือวิญญาณนั้นหาได้ยากและซับซ้อนเป็นอย่างมากเมื่อเทียบกับวัสดุอื่นๆ แต่สุดท้ายวิญญาณก็คือ ‘สิ่งมีชีวิต’ หรือก็คือวัตถุดิบอยู่ดี!”
[ฉันอยากจะตบตัวเองซะทีที่คิดไปว่านายดีขึ้นแล้ว แต่ตอนนี้นายก็แค่ยอมรับในทุกๆอย่างที่อยู่กับตัวเองและก้าวหน้าไปอย่างประมาทอยู่ดี!]
“ถูกแล้ว! ฉันเป็นแบบนี้แหละ แต่ว่าโดยพื้นฐานแล้วฉันมันคนเลว!”
[นายกลายไปปีศาจไปแล้ว!]

“สเปียร่าได้เวลาอาหารแล้ว!”
[ทำไมนายถึงได้พูดให้ฉันต้องโมโหตลอดเลยนะ…]

[เจ็บ…]
[ฆ่า… ฉัน…]
[ฉันไม่อยากจะคิดอะไรแล้ว…]

[ฉันจะแบกรับความไม่พอใจและบาปกรรมของพวกนายทั้งหมดเอง ตอนนี้ปล่อยให้ฉันจัดการทุกๆอย่างให้พวกนายได้แล้ว]
[ก๊าซซซซซซซซซซว!]

[นี่คือเส้นทางแห่งอสูรสินะ? การจะต่อต้านพระเจ้าทำให้ฉันต้องกลายไปเป็นปีศาจซะเองสินะ ฟุฟุ ฉันรู้สึกได้เลย]
“เฮ้ คำพูดของเธอมันกระทบฉันนะ”

“โอ้ ฉันรู้สึกได้ว่าจิตวิญญาณสเปียร่าแกร่งขึ้น”
“เฮ้ นี่ไม่ใช่ว่าเป็นใครหากถูกที่รักฆ่าแล้วได้กินจิตวิญญาณทั้งหมดไปก็กลายเป็นคนแข็งแกร่งได้เลยหรอ?”
“มันแทบจะเป็นไปไมได้เลยหากเป็นวิญญาณที่ตายไปแล้ว เธอกับสเปียร่าเป็นวิญญาณที่ค่อนข้างจะสมบูรณ์เลย ส่วนโอโรจิกับมิสทิคเป็นพวกที่จะเรียกได้ว่าเกิดใหม่ก็ได้”
“ตอนนี้ฉันชักกลัวแล้วสิ…”

[…ราฟาเอล]
[เป็นไปไม่ได้]

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Everyone Else is a Returnee โดดเดี่ยว 1000 ปี