Everyone Else is a Returnee โดดเดี่ยว 1000 ปี นิยาย บท 342

Everyone Else is a Returnee โดดเดี่ยว 1000 ปี – ตอนที่ 342
บทที่ 342 – พระเจ้า (3)

ราเซียไม่มีพลังแม้แต่นิดเดียวที่จะขัดขวางการกระทำของยูอิลฮาน เขาได้โยนสิ่งที่เรียกว่ากับดักแห่งการฟื้นคืนออกมาและมันก็ได้ตกลงไปในใจกลางของปราสาทก่อนที่รุกล้ำเข้าไปภายในโลก ราเซียได้ตะโกนออกมาราวกับจะปฏิเสธในพลังนี้ของมัน

[นี่มันเปล่าประโยชน์! ไม่ว่าคุณจะทำอะไรก็ตามแต่ตามใดที่ท่านซาตานยังคงอยู่ คุณก็จะไม่สามารถทำอะไรกับโลกเบื้องล่างได้!]
“เพราะงั้นเธอก็เลยอยากจะให้ฉันฆ่าซาตาน เพราะเขาคือศัตรูของฉัน และฉันก็ไม่อาจจะแก้ปัญหานี้ได้โดยการที่ไม่ต้องฆ่าเขา”

ราเซียได้เม้มปากปฏิเสธกลับมา

[ฉันคือผู้ติดตามของเขา ฉันไม่สงสัยในชัยชนะของเขาแม้แต่นิด]
“จนถึงตอนนี้เธอได้ทำพลาดอยู่หลายอย่างมาก และความผิดพลาดทั้งหมดนั่นก็เกิดมาจากความเข้าใจผิดของเขา – เธอเข้าใจในตัวฉันผิดไป”

ยูอิลฮานได้ตะโกนเข้าใส่ราเซีย

“เธอเป็นใครถึงได้มาประเมินพลังของฉัน? เธอเป็นคนถึงได้จะมารู้ในสิ่งที่ฉันกำลังคิดอยู่? เธอเป็นใครถึงได้มาบังคับให้ฉันต้องเลือกตัวเลือกเดียว? ฉันจะทำทุกๆอย่างตามที่ฉันต้องการ ฉันจะทำร้ายภัยร้ายทั้งหม เพราะงั้นสิ่งที่รอฉันอยู่มีแค่โครตมหาตอนจบสุดสงบสุขเท่านั้นแหละ”
[มะ… ไม่เห็นจะเข้าใจเลย]
“เธอไม่เข้าใจอยู่แล้ว ฉันไม่ได้หวังจะให้เธอเข้าใจสักนิด พวกเราทุกคนต่างก็รู้ว่าเราทั้งคู่ได้ใส่หน้ากากกันอยู่ ยังมีอะไรต้องคุยกันอีกล่ะ?”

ยูอิลฮานได้หันไปรอบๆ ราเซียไม่อาจจะขยับได้แม้แต่นิดเดียว เธอดูน่าตลกมากๆ แต่ยูอิลฮานก็ไม่ได้ทำอะไรเธออีกแล้ว

“ไปกันเถอะ ธุระของเราที่นี่จบลงแล้ว”
“ไม่ใช่นายบอกว่านายจะมาปล้นบ้านที่เจ้าของไม่อยู่หรอกหรอ?”
“ก็ฉันเพิ่งปล้นไปตะกี้นี่เอง”

ยูอิลฮานได้ทำแค่อย่างเดียวนั่นคือการหยุดราเซียและโยนกับดักแห่งการฟื้นคืนออกไป นี่มันใช่การปล้นตรงไหนกัน? เลียร่าอย่างจะพูดคำๆนี้ออกมา แต่ว่าเธอก็ต้องเปลื่ยนสีหน้าเมื่อรู้สึกได้ถึงระลอกคลื่นที่เปลื่ยนแปลงไปในโลกเบื้องล่าง

“โอ้”

เฮเรียน่าได้อุทานออกมา ในขณะที่กำลังรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นที่แผ่กระจายมาจากศูนย์กลางโลกเบื้องล่างเธอก็ได้ถามกับยูอิลฮาน

“ถ้างั้นนั่นมันไม่ใช่กับดักแห่งการฟื้นคืนทั่วๆไปใช่ไหม?”
“นั่นมันคือรุ่นพิเศษ เป็นเวอร์ชั่นสำหรับโลกหลัก ฉันได้ตั้งใจปรับแต่งฟังก์ชั่นการฟื้นฟูกับการกลืนกิน การล่อลวงกับการกักขังเพื่อที่จะให้มันได้ต่อต้านและปกครองทุกๆอย่างที่อยู่ในโลกใบนี้”

แค่การโยนเมล็ดเม็ดเดียวเขาจะไม่ได้รับโลกเบื้องล่าง แต่ว่าถ้างั้นการเปลื่ยนแปลงนี่มันคืออะไรล่ะ? เฮเรียน่าได้มองดูโลกใบนี้พร้อมทั้งคิดกับตัวเอง ในตอนนี้เองเธอก็ได้รู้ว่ากับดักแห่งการฟื้นคืนไม่ได้หยุดลงแค่การยึดครองโลกเบื้องล่าง

“มันกำลังเชื่อมต่อกับที่อื่น…”
“ฉันได้เชื่อมต่อทุกๆที่เข้ากับที่นี่ ฉันไม่จำเป็นต้องทำกับดักแห่งการฟื้นคืนอีกต่อไปแล้ว”
“ทุกๆที่…”

ใช่แล้วกับดักแห่งการฟื้นคืนมีคุณสมบัติในการขยายขนาดและท้ายที่สุดมันก็จะย้ายตัวเองไปในมิติอื่น มันไม่ได้หยุดแค่การลบผลจากกับดักแห่งการทำลายเท่านั้น แต่มันแพร่กระจายกันออกไปด้วยความรวดเร็วจนน่ากลัวราวกับจะพิชิตทุกๆโลกอีกด้วย

“สำหรับโลกระดับต่ำทั้งหมดก็ด้วยหรอ? แล้ว… แม้แต่โลกที่ผู้คนบนโลกนายใช้ชีวิตอยู่ล่ะ?”
“ไม่ว่าจะเป็นโลกใบไหน จะเป็นโลกที่เกิดมหาภัยพิบัติหรือไม่เกิดก็ตาม โลกทุกๆใบที่มีอยู่ก็จะได้รับผลกระทบทั้งหมด”

เฮเรียน่าได้รู้สึกตัวสั่นขึ้นมาหลังจากที่ได้เข้าใจถึงความหมายของคำพูดนี้ ถึงแม้ว่าเธอจะอ้างว่าเธอคือคนที่เข้าใจถึงคุณค่าที่แท้จริงของยูอิลฮานได้ในทันทีที่เจอกัน แต่ว่าเธอก็ได้รู้ตัวว่าแล้วเธอเข้าใจผิดไป

“เป้าหมายของที่รักในการทำกับดักแห่งการฟื้นคืนก็คือการเอามันไป ‘ในที่อื่น’ ตั้งแต่แรกแล้วงั้นหรอ…?”

ยูอิลฮานไม่ได้รำคาญกับการตอบคำถามเลยสักนิด และเขาได้เปิดใช้งานสกิลข้ามมิติ เลียร่าได้ถามต่อออกมา

“ตอนนี้เป็นเอลโลคาทร่าหรออิลฮาน?”
“ไม่อะ เป็นสวรรค์”
“แต่ว่าตามเป้าหมายที่ต่อไปน่าจะเป็นเอลโลคาทร่าสิ…”
“เธอพูดอะไรอยู่น่ะ? เมื่อกี้ฉันเพิ่งจะบอกไปเองนะเลียร่า?”

ยูอิลฮานได้ลูบหัวเลียร่าเบาๆและพูดออกมา

“ไม่ว่าจะเป็นโลกระดับต่ำหรือโลกระดับสูง โลกทุกๆใบที่มีอยู่ก็จะได้รับผลกระทบจากกับดักแห่งการฟื้นคืน”
“เพราะงั้นทำไมเอลโลคาทร่าถึง… หืม?”
“เพราะงั้นเป้าหมายต่อไปของเรา”

ยูอิลฮานได้เปิดใช้งานสกิลข้ามมิติด้วยรอยยิ้ม

“คือสวรรค์ ทุกๆอย่างจะมาบรรจบกันที่นั่น”

***

พิษร้ายที่รุกรามเข้าไปในร่างมิคาเอลรุนแรงมากๆจนถึงจุดที่เขารู้สึกเจ็บปวดในทุกๆครั้งที่หายใจเขาออก

ยังไงก็ตามยูอิลฮานคือผู้ที่เหมาะสมจะเป็นเทพและกลายเป็นคนที่เป็นพระเจ้าเพียงหนึ่งเดียว เขาจะไม่มีทางพ่ายแพ้กับแค่พิษธรรมดาๆที่มาจากหัวหน้ากองพันแน่

[ใครจะเป็นรายต่อไป ใครอีกที่จะมาต่อต้านแสงสว่างของฉัน?]

ผู้บัญชาการกองพันที่เหลือรอดจากการต่อสู้ที่ดุเดือดรุนแรงมีแค่ผู้บัญชาการกองพันอย่างผู้บัญชาการกองพันที่ 4 เทลไซเดอร์ กับผู้บัญชาการกองพันที่ 8 เซนูว่า หากว่าพวกเขาโจมตีพร้อมกันอาจจะได้ผลดี แต่เพราะอะไรบางอย่างทำให้เซนูว่าถอยกลับไปในขณะที่เทลไซเดอร์ได้ก้าวเข้ามาข้างหน้า

[แสดงให้ฉันดูทีสิมิคาเอล พลังของพวกเทพนะ แสดงให้ฉันดู!]
[น่ารำคาญ เข้ามากันทั้งคู่นั่นแหละ ฉันจะจัดการพวกนายทั้งคู่พร้อมๆกัน]
[ถ้าฉันทำแบบนั้นแล้วนายบาดเจ็บอ่อนแอลงไปอีกก็ไม่สนุกกันพอดีสิ พวกเราได้รอคอยเวลานี้มานานแล้ว นายจะมาขัดขวางความสุขของเราได้ยังไงกัน?]
[อะไรนะ…?]

มิคาเอลได้กัดฟันแน่น เจ้าพวกนี้กล้าพูดเรื่องล้อเล่นแบบนี้ต่อหน้าความตายได้ยังไงกัน?

[นายดูถูกฉัน… เกินไปแล้วนะ… !]

แสงสว่างที่กระจายออกมารอบตัวมิคาเอลได้หนาแน่นมากยิ่งขึ้น ตอนนี้แม้กระทั่งร่างกายของเขาก็มองแทบไม่เห็นแล้ว เส้นแสงสว่างนับร้อยได้พุ่งเข้ามาแทงในที่ที่เทลไซเดอร์อยู่

[ไม่ แสงของนายน่าจะต้องเร็วกว่านี้สิ ฉันได้เดิมพันทั้งชีวิตฉันกำลังช่วงเวลานี้นะมิคาเอล!]
[นายกล้าพูดแบบนั้นได้ยังไง นายมันก็แค่ไอ้โง่ที่รู้จักแต่การทำลายเท่านั้นเอง!]

แสงสว่างได้สั่นไหวอย่างรุนแรงจนราวกับว่ามันกำลังแสดงความโกรธออกมา ยังไงก็ตามเทลไซเดอร์ได้หลบแสงทั้งหมดนี้ได้ด้วยความเร็วจนน่าเหลื่อเชื่อและถึงขนาดหาจังหวะเข้าไปโจมตีมิคาเอลด้วยพลังเวทย์ของเขาได้อีกด้วย

หลังจากที่รู้ตัวว่าเขาได้ช้าลงมาจากพิษมิคาเอลก็ได้กัดฟันแน่น เขาไม่สามารถจะฆ่าได้แม้กระทั่งผู้บัญชาการกองพันที่มีเลเวลต่ำกว่า 600 ซะอีก!

[มิคาเอล นายยังไม่ได้ใช้พลังทั้งหมดออกมา]

น้ำเสียงของเทลไซเดอร์ได้ดังยิ่งขึ้น

[นายเก็บพลังของนายเอาไว้สู้กับหัวหน้าเรางั้นหรอ? เพราะงั้นนายก็เลยฆ่าฉันไม่ได้งั้นหรอ?]
[หุบปาก ฉันไม่จำเป็นต้องใช้พลังทั้งหมดของฉันจัดการกับคนอย่างแก!]

ดวงตามิคาเอลได้เรืองแสงสว่างจ้าออกมาพร้อมๆกับหยิบเอาอาร์ติแฟคระดับเทพออกมาเหวี่ยง เทลไซเดอร์ไม่ได้หลบมันเลย เขาได้ปล่อยให้การโจมตีนี้มาถูกตัวเขา เลือดได้พุ่งกระจายออกมาจากตัวเขาก่อนที่จะเกิดเป็นวงเวทย์ที่พยายามจะหยุดมิคาเอล

[คำสาปอีกแล้ว? ไสหัวไปป ฉันได้เห็นวิธีกระจอกๆแบบนี้มามากพอแล้ว!]
[ถ้านายแกร่งจริง ถ้านายเป็นเทพ ทำไมนายถึงได้ต้องเก็บพลังเอาไว้ด้วยล่ะ?]

เทลไซเดอร์ได้ยิ้มเยาะเย้ยมิคาเอลออกมา มิคาเอลได้ถูกการยั่วยุนี้กระตุ้นขึ้นมาทำให้เขาเพิ่มพลังแสงขึ้นไปอีก

[ฉันบอกให้หุบปาก…!]
[นายกลัวอะไรอยู่งั้นหรอ? นายที่เรียกตัวเองว่าพระเจ้าแต่การกระทำนายนี่มันไม่ต่างไปจากหนู…]

เทลไซเดอร์ยังพูดไม่ทันจบแสงสว่างที่มิคาเอลปล่อยออกมาก็ได้ปกคลุมทั้งโลกและลบล่างเขาออกไปโดยไร้ร่องรอยแล้ว

มิคาเอลรู้สึกได้ว่าพิษได้รุนแรงมากขึ้นเล็กน้อยตามการใช้พลังของเขา แต่ว่าเขาได้แก้มันด้วยการไอเอาพิษออกมา พลังที่เขาได้ขโมยมาจากราฟาเอลได้กำลังช่วยฟื้นฟูเขาขึ้นมา เขาได้มองไปที่ทูตสวรรค์จำนวนน้อยที่ยังรอดอยู่และออกคำสั่งออกมา

[มันจบแล้ว ไปฆ่าความโลภกันเถอะ]
[มันยังไม่จบหรอก]
[…]

มิคาเอลได้เงยหน้าขึ้นมาทั้งๆที่เขาคิดว่าเขาได้จัดการศัตรูเขาไปแล้ว นกเพลิงเซนูว่าได้ยืนอยู่ตรงนั้น

[ฉันยังไม่ตายหรอกนะมิคาเอล พลังของนายมีมากแค่นี้เองหรอ? หากเทพคนอื่นๆได้มาเจอนายพวกเขาก็คงจะเยาะเย้ยนายแน่ นายใช่มิคาเอลคนเดียวที่เหนือกว่าซาตานงั้นหรอ? แน่ใจนะว่าไม่ใช่ซาตานออมมือให้นายน่ะ?]
[แก… กำลังทำให้ฉันโกรธจริงๆแล้ว]

[ฉันคือเพลิง ในท้ายที่สุดแสงสว่างที่นายได้รับมาก็เป็นแค่ส่วนหนึ่งของเพลิง]
[ฉันเคยได้ยินมันมาแล้ว!]

ตอนที่ 342 1

[ยังไงก็ตามแกมันไม่ใช่ยูอิลฮาน เพลิงของแกมันไม่ได้สมบูรณ์ขนาดนั้น]
[ฉันคิอแก่นแท้แห่งเพลิงที่สร้างขึ้นจากเพลิงที่บริสุทธิ์…!]
[ยังไงก็ตามฉันต่างออกไปแลว]

ตอนที่ 342 2

[ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้ ต่อให้ในตอนนี้มันจะยังเป็นไปไได้ แต่ด้วยพลังของฉันจะทำให้มันเป็นไปได้]
[ไร้สาระ นี่มันไม่มีทาง… อย่าบอกนะว่า…]

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Everyone Else is a Returnee โดดเดี่ยว 1000 ปี