บาเรียได้หายไปแล้ว เมืองลอยฟ้าที่มีป้อมปราการลอยฟ้าและป้อมปราการผู้พิทักษ์ได้ลอยขึ้นจากชั้นบรรยากาศของโลกในทันที ผู้คนที่อยู่บนโลกได้เฝ้ามองดูเมืองลอยไหลออกไปจนในที่สุดก็รู้สึกกาลเวลาที่เริ่มเดินอีกครั้ง ข้างล่างนั้นก็ยังมียูนิที่กำลังกระโดดไปมาอยู่
“เมื่อไหร่ที่หนูโตขึ้นหนูจะแต่งงานกับพ่อทูนหัว! เพราะงั้นคุณต้องปลอดภัย! หนูไม่ยอมให้หน้าคุณบาดเจ็บแน่!”เลียร่าที่ลงโทษในทุกๆคนที่มองยูอิลฮานได้ปฏิเสธออกมาทันที ยูอิลฮานได้เปิดใช้งานสกิลข้ามมิติในขณะขบคิดถึงสิ่งที่เลียร่าจะทำกับเด็กน้อยและคิดว่าทำไมเธอถึงได้จริงจังขนาดนั้นด้วย
[โปรดกลับมาหลังจากกำจัดผู้ทุกมุ่งร้ายกับโลกทุกๆคนแล้วด้วยเถิดท่านผู้ปกครอง]
ผู้ที่เกิดเป็นความโกลาหลได้กลายมาเป็นผู้พิทักษ์ และท้ายที่สุดก็กลายมาเป็นตัวโลกเองได้พูดออกมาด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง ยูอิลฮานได้หัวเราะออกมา
“ไม่มีอะไรต้องห่วงหรอกนะ ไว้ใจฉันได้เลย”
ยูอิลฮานได้เชี่ยวชาญสกิลจ้าวมิตินานแล้ว เนื่องจากว่าโลกทั้งหมดที่เขาปกป้องได้กลายเป็นหนึ่งแล้วทำให้บาเรียที่เขาร่ายไว้รอบโลกได้แกร่งทนทานอย่างไม่น่าเชื่อ นี่ยังเป็นเหตุผลที่เขาป้องกันไม่ใช่ประชากรบนโลกกลับมาได้เป็นเวลาสองสามชั่วโมงอีกด้วย
“ฉันจะจบทุกๆอย่างก่อนหน้านั้น จากนั้นโลกก็จะสมบูรณ์”เอิลต้าได้ตะโกนออกมาอย่างตกใจ ยูอิลฮานได้แตะพื้นที่ยืนอยู่และหยักหน้าออกมา
“ฉันพูดไปแล้วนี่? เมืองนี้จะต้องหลอมรวมกลับเข้าไปในโลกก่อนที่จะจบทุกๆอย่างลง”ไม่มีใครเข้าใจถึงคำพูดของยูอิลฮาน แต่ว่าพวกเขาก็พอเข้าใจได้ว่าแนวคิดที่ยูอิลฮานกำลังทำนี้คือสิ่งที่น่าสนใจ ยังไงก็ตามสกิลข้ามมิติก็ได้ทำงานก่อนที่จะมีใครได้ถามอะไรอีก
ยูอิลฮานก็ได้เชี่ยวชาญสกิลข้ามมิติแล้วเช่นกัน เพราะงั้นคนอื่นๆได้ถูกเคลื่อนย้ายไปที่โลกเบื้องล่างก่อนที่จะรู้สึกตัวซะอีก
“นี่คือโลกเบื้องล่าง”โลกที่เต็มไปด้วยความมืดไร้ที่สิ้นสุดและออร่าชั่วร้าย นี่คือโลกที่ซาตานได้มาอยู่หลังจากออกมาจากสวรรค์ และเป็นโลกที่เต็มไปด้วยรากฐานของเขา
“ซาตาน… ไม่ได้อยู่โลกใบนี้ในตอนนี้ใช่ไหม?”
เมื่อคิมเยซอลได้ถามออกมายูอิลฮานก็ได้หยักหน้าโดยไม่ลังเลใดๆ
“สนามรบน่าจะเป็นที่อื่น ซาตานได้ร่วมมือกับพระเจ้าเพราะงั้นพวกเขาตอนนี้น่าจะยังอยู่ในสนามรบนั่น”บนใบหน้าสวยงามของยูเรียลเธอได้หันซ้ายหันขวาอย่างเป็นกังวล เขาก็พอจะเข้าใจถึงสิ่งที่เธอรู้สึกตลอดสิบปีมานี้ ยูอิลฮานได้หยักหน้าด้วยรอยยิ้มแห้งๆ
“ด้วยเลเวลของฉัน ในระหว่างคุยกันอยู่ฉันสามารถทำอะไรได้มากมาย ฉันกำลังเลื่อนดูบันทึกโลกใบนี้อย่างเร็วที่สุดเท่าที่ทำได้อยู่ เพราะงั้นไม่ต้องห่วงหรอก พ่อน่าจะปลอดภัยและเราก็จะหาพ่อเจอ ถึงแม้ว่าเธอจะไม่สามารถได้พ่อไปก็ตาม”
ยูอิลฮานได้เริ่มค้นหาโลกเบื้องล่างต่อไปโดยไม่สนใจความเสียใจของยูเรียลเลย โลกเบื้องล่างนี้กว้างใหญ่และมีความหนาแน่นของมานาที่น่ากลัวสมกับที่เป็นโลกใบหลักของกองทัพจรัสแสง แต่ว่าน่าแปลกที่โลกใบนี้ไม่มีเทวดาตกสวรรค์อยู่เลยแม้แต่คนเดียว
“ทำไมมันถึงได้โล่งขนาดนี้ล่ะ?”เนื่องจากยูอิลฮานได้ค้นพบถึงการเชื่อมต่อระหว่างบันทึกเทพเจ้าและเร็กน่าระดับสูงทำให้มีความเป็นไปได้ว่าซาตานได้วางแผนเหนือกว่ายูอิลฮานคาดคิดเอาไว้จนเขาไม่รู้อะไรเลย ยูอิลฮานก็ยังไม่คิดว่าหัวหน้าที่รับผิดชอบกองกำลังหนึ่งและเป็นหนึ่งในผู้ขับไล่พระเจ้าออกไปจะเป็นคนไร้ปัญญาแบบนี้
“หากว่าที่นี่เป็นที่สำคัญ ถ้างั้นพวกเขาก็ควรจะป้องกันมันเอาไว้ แต่ว่าถ้าไม่มีการป้องกัน นั่นก็หมายความว่าที่นี่ไม่ได้มีความสำคัญเลย”ยูอิลฮานได้ตอบกลับมา
“อาจจะเป็นไปได้ว่าโลกหลักไม่ได้มีความหมายอะไรอีกต่อไปแล้ว”พวกเขาเพิ่งจะพูดถึงว่าโลกหลักมีความสำคัญที่สุดในแต่ล่ะกองกำลัง แต่แล้วยูอิลฮานกลับปฏิเสธแบบนี้! ทั้งๆที่เขาก็เป็นหนึ่งในหัวหน้ากองกำลังเช่นกัน!
ยูอิลฮานได้หยักไหร่ออกมาและอธิบายให้กับคนที่ยังไม่เข้าใจ
“เขาได้ร่วมมือกับพระเจ้าแล้วถูกไหมล่ะ? พระเจ้าได้บอกว่าเขาจะสร้างโลกใบใหม่ขึ้นมา เพราะงั้นเขาก็ต้องลบโลกเบื้องล่างไปด้วยเหมือนกันไม่ใช่หรอ?”นี่มันคือเรื่องที่โง่ที่สุดเลยไม่ใช่หรอ!? ยังไงก็ตามยูอิลฮานได้ส่ายหัวออกมาและไม่ได้ตอบคำถามที่พวกเธอต้องการ
“ไม่ใช่ว่าที่นี่ไม่ได้ไร้การป้องกันอย่างสมบูรณ์หรอกนะ นอกจากนี้คนๆนั้นยังรู้สึกถึงตัวตนฉันแล้วด้วย”เมืองยูอิลฮานได้คิดถึงตรงนั้น เมืองลอยฟาก็ได้รับอิทธิพลจากความคิดของเขาและเริ่มเคลื่อนไหวในทันที เพราะสกิลข้ามมิตินี้เองทำให้สมาชิกภายในเมืองลอยฟ้าไม่ได้รู้สึกถึงแรงต้านจากการเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วแม้แต่นิดเดียว พวกเขามีแต่อุทานออกมาอย่างตกใจกับการได้เห็นสภาพแวดล้อมเปลื่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว
“อ่า ตอนนี้ฉันรู้สึกได้แล้ว ออร่าที่น่าทึ่งนั่น”เอิลต้าได้พึมพัมออกมา หรือนี่ก็หมายความว่าในตอนนี้เธอไม่ได้กลัวแล้วแม้แต่นิดเดียว
หลังจากกระพริบตาไปไม่กี่ครั้งเมืองลอยฟ้าก็ได้มาถึงจุดหมายแล้ว ที่นี่มีปราสาทยักษ์และคนหนึ่งคนที่นั่งอยู่เพียงลำพังบนหลังคาของมัน
[คุณมาเร็วกว่าที่ฉันคิดไว้อีกนะ]
คนๆนี้ก็คือหญิงสาวที่ผมสีดำยาว เธอสวมชุดไหมสีดำที่ดูไม่เหมาะกับการต่อสู้เอาซะเลย เธอเป็นผู้หญิงที่เต็มไปด้วยออร่าแห่งความหรูหรา แต่ยังไงก็ตามแปดปีกบนหลังของเธอที่กางอยู่ได้ทำให้พวกเขาต้องคิดถึงพลังที่แท้จริงของเธอใหม่อีกครั้งหนึ่ง
“ราเซีย เธอเป็นผู้หญิงนี่เอง”
ยูอิลฮานได้พูดออกมา คนอื่นๆได้ผงะไปทันทีที่ได้รู้ว่าผู้หญิงตรงหน้าของพวกเขาก็คือปีกที่ 1 แห่งกองทัพจรัสแสง แต่ว่าคนที่เป็นเป้าของคำถามนี้กลับหยักหน้าอย่างไม่ใส่ใจ
[ถูกแล้วล่ะ ฉันก็คือปีกที่ 1 แห่งกองทัพจรัสแสง ราเซีย ส่วนคุณก็คงจะเป็นยูอิลฮาน หัวหน้าดราก้อนเนส]ราเซียได้มองยูอิลฮานอย่างระมัดระวังราวกับว่าเธอกลัวว่าเธอจะทำอะไรที่หยาบคาย ทั้งๆที่รู้ว่าพวกเขาเป็นศัตรูแล้วเธอก็ยังคงสุภาพมากๆ
[ฉันได้ยินว่าคุณคือคนที่แข็งแกร่งขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ว่าฉันไม่เคยคิดเลยว่าคุณจะแกร่งได้ขนาดนี้ ทั้งๆที่พลังของฉันอยู่ที่คลาส 8 แต่ฉันก็ไม่อาจจะมองในระดับพลังของคุณออกได้เลย… หัวหน้าของฉันอาจจะเป็นคู่ต่อสู้ที่เหมาะสมกับคุณ]
จากสิ่งที่ยูอิลฮานได้เห็นมาตลอด เขามั่นใจว่าซาตานไม่ใช่คู่ต่อสู้เขาเลยเว้นแต่ว่าซาตานจะทำอะไรซะอย่างให้แกร่งขึ้นอย่างน้อยห้าเท่านับตั้งแต่ที่เจอกันครั้งล่าสุด แต่ว่ามันคงน่าอายหากเขาพูดมันออกมาดังๆก็เลยปล่อยผ่านไป
กลับกันเขาได้ถามเธอออกมาแทน
“ฉันมีเรื่องที่อยากจะถามเธออยู่”ทั้งโลกได้หยุดนิ่ง
หรือบางทีอาจจะเป็นแค่ความรู้สึกก็ได้ ทุกๆคนได้มองมาที่ยูอิลฮานอย่างตกตะลึง
“นายหมายความว่ายังไงกัน!? ไม่ใช่ว่าก่อนหน้านี้มาตลอดนายได้ตรียมการฆ่าเขาด้วยความโกรธหรอกหรอ!?”ยูอิลฮานได้พูดแก้ความเข้าใจผิดอย่างไม่ใส่ใจ สายตาของเขายังคงจ้องไปที่ราเซียอยู่ แต่ว่าเขาก็พบว่ามันน่ารักดีที่เธอกำลังทำสีหน้าแปลกๆ เขาได้เร่งให้เธอตอบกลับมา
“แล้วคำตอบล่ะ?”ยูอิลฮานได้หยักไหล่และตอบกลับไป
“ก็นะ”ราเซียได้ยืนขึ้นอย่างช้าๆ
[ฉันรู้ดีว่าฉันไม่ใช่คู่ต่อสู้ของคุณ แต่ไม่ว่ายังไงฉันก็จะขวางคุณจนกว่าฉันจะต้องหายไป ในจุดนั้นท่านซาตานก็จะกลับจัดการคุณด้วยตัวของเขาเอง]ยูอิลฮานได้ยื่นมือออกไปและตะโกนออกมาสั้นๆ เพียงทำนี้ราเซียก็ถูกมัดอยู่กับที่
ยูอิลฮานได้จัดการปราบผู้บัญชาการกองพันคลาส 8 ที่ได้รับการสนับสนุนจากโลกใบนี้รองลงมาจากซาตานภายในพื้นที่ของกองทัพจรัสแสงอย่างง่ายดาย
[ปะ เป็นแบบนี้ไปได้ยังไงกัน ต่อให้คุณจะเป็นหัวหน้ากองกำลัง ต่อให้คุณเป็นเทพ แต่คุณไม่น่าจะทำแบบนี้ได้ง่ายๆ…]เขาได้ฆ่าคนที่เขาคิดว่าแยกแยะความเป็นมิตรหรือศัตรูได้ยากไปในทันที เพราะงั้นคนที่เขาฆ่าไปก็เลยเป็นได้ทั้งศัตรู หรืออาจจะเป็นมิตรในอนาคตก็ได้เช่นกัน เพราะแบบนี้ทำให้เขาได้ลบความเป็นไปได้ไปมากมายเพราะความหวาดระแวงในอนาคต
[มันก็เป็นเรื่องธรรมดา คุณได้เลือกตัวเลือกที่ถูกต้องเพื่อเอาชีวิตรอด ถึงฉันจะถูกคุณฆ่าในตอนนี้ฉันก็ไม่ได้แค้นคุณเลย ศัตรูน่ะควรจะต้องถูกฆ่าอยู่แล้ว]ยูอิลฮานได้พูดกับเธอด้วยรอยยิ้มที่สดใส
“ถ้าฉันลบความเป็นไปได้ในแง่ลบทั้งหมดไปได้ บางทีเรื่องที่น่าอึดอัดใจอย่างการฆ่าก็อาจจะไม่จำเป็นอีกแล้วก็ได้”ราเซียได้ถามกลับมาอย่างตกตะลึง น่าแปลกใจที่ยูอิลฮานก็หยักหน้ารับด้วยเช่นกัน
“ใช่แล้ว โดยเฉพาะในกรณีแบบเธอ เธอจำเป็นต้องตายหลังจากที่ถ่วงเวลาฉันทั้งๆที่เธอไม่ได้เกลียดอะไรฉันเลย ฉันเกลียดการที่จะต้องฆ่าคนไร้พิษสงแบบเธอ โดยเฉพาะการที่ฉันรู้สึกเหมือนถูกปั่นหัวให้ทำตามสถานการณ์ด้วย”ยูอิลฮานได้หยิบเอาลูกบาศก์เล็กๆออกมาจากกระเป๋าของเขา ราเซียได้มองมันและถามออกมาทันที
[นั่นมันคือไอเทมอะไร?]
ยูอิลฮานได้ตอบกลับมา
“นี่ก็คือกับดักแห่งการฟื้นคืนไงล่ะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Everyone Else is a Returnee โดดเดี่ยว 1000 ปี